“นาฬิกาข้อมือ Seiko ที่น่าสนใจที่สุด 8 รุ่นในตอนนี้ กับการมิกซ์ให้เข้ากับสไตล์การแต่งตัวแบบต่างๆ”

Published on,
April 8, 2021

นาฬิกาข้อมือนอกจากเป็นสิ่งที่ช่วยบอกเวลาแล้ว ยังสะท้อนถึงบุคลิกและตัวตนของผู้สวมใส่อีกด้วย ในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับรายละเอียดการแต่งตัวมากขึ้น นาฬิกาข้อมือก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ผู้สวมใส่ต้องพิถิพิถันในการเลือกมากขึ้นด้วยเช่นกัน วันนี้เรามีเซ็ตนาฬิกาข้อมือที่น่าสนใจจากแบรนด์ระดับตำนานอย่าง Seiko มาแนะนำกัน โดยเน้นตัวเรือนที่สามารถใช้มิกซ์เข้ากับสไตล์การแต่งตัวได้หลากหลาย เหมาะกับการสวมใส่ในทุกๆโอกาส

SEIKO PROSPEX AUTOMATIC DIVER’S 200m. รหัส SPB187J (ราคา 49,800 บาท)

นาฬิกาสำหรับดำน้ำที่ออกแบบมาพร้อมคุณสมบัติต่างๆที่จำเป็นต่อการดำน้ำอย่างครบถ้วน จุดเด่นพิเศษคือสามารถกันน้ำได้ลึกถึง200 เมตร นาฬิกาเรือนนี้ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากเรือนต้นฉบับในปี 1968 โดยถอดแบบดีไซน์ต่างๆทั้งชุดเข็มและอินเด็กซ์มาครบเลย ถือเป็นแรงบันดาลใจเดียวกับรุ่นที่ได้รางวัลสาขานาฬิกาสปอร์ตยอดเยี่ยมจากงานนาฬิการะดับโลก GPHG 2018

ใช้ชุดเข็มและหลักชั่วโมงพร้อมพรายน้ำที่สามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ส่วนของสายโลหะที่มีExtention Link รองรับการใช้งานกับชุดประดาน้ำ วางเม็ดมะยมไว้ตรงตำแหน่ง 4 นาฬิกาซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกาดำน้ำในยุคดั้งเดิมของ Seiko

ถือเป็นนาฬิกาที่มีคุณสมบัติเหนือล้ำไปกว่าการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบในการดำน้ำหรือใช้ชีวิตที่ต้องออกกลางแจ้งบ่อยๆ นาฬิกาเรือนนี้ก็เอาอยู่เพราะนอกจากจะกันนำได้ดีแล้วยังมีความทนทานจากกระจกแซฟไฟร์บนหน้าปัดป้องกันรอยขีดข่วน และสาย Stainless Steel ที่แข็งแรงทนทานอีกด้วย

SEIKO PROSPEX AUTOMATIC DIVER’S 200m. รหัส SPB153J (ราคา 48,500 บาท)

อีกหนึ่งรุ่นในตระกูลนาฬืกาดำน้ำของ Seiko ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากเรือนต้นแบบในปี 1970 ซึ่งรุ่นต้นแบบ

นั้นเป็นนาฬิกาที่ Naomi Uemura นักผจญภัยชื่อดังชาวญี่ปุ่นที่มีผลงานการพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ในปี

1970 โดยหลังจากนั้นเธอก็ได้ออกทำการพจญภัยอีกครั้งด้วยการสำรวจขั้วโลกเหนือโดยใช้สุนัขลากเลื่อนในการเดินทางซึ่งเป็นการเดินทางด้วยตัวคนเดียวอีกด้วย ตลอดช่วงที่เธอออกทำการผจญภัย นาฬิกาที่ติดตัวไปกับเธอเสมอมาก็คือนาฬิกาเรือนนี้นี่เอง

ตัวเรือนกันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร มาพร้อมสายยาง Polyurethane ที่เหมาะกับการลุยทุกกิจกรรมในการดำน้ำ กระจกเคิร์ฟแซฟไฟร์บนหน้าปัดป้องกันรอยขีดข่วน กลไกขึ้นลานอัตโนมัติหรือเลือกขึ้นลานผ่านเม็ดมะยม สำรองพลังงานได้นานถึง 70 ชั่วโมง

ในส่วนดีไซน์ของนาฬิกาเรือนนี้นอกจากจะมีความสวยงามคลาสสิคแล้วยังให้อารมณ์ของการออกไปผจญภัยจริงๆ ด้วยคู่สีเขียวOlive ตัดกับสายสีดำ ใครที่ชื่นชอบการแต่งการและออกไปแคมป์ปิ้งแล้วละก็นาฬิกาเรือนนี้เข้ากับสไตล์ของคุณอย่างแน่นอน

SEIKO PROSPEX AUTOMATIC DIVER’S 200m. PADI Special Edition รหัส SRPE27K1 (ราคา 23,000 บาท)

นาฬิการุ่นพิเศษที่ทาง SEIKO ร่วมงานกับ PADI (Professional Association of Diver Instructor) ซึ่งเป็นองค์กรที่รวบผู้คนที่ชื่นชอบการดำน้ำ อีกทั้งยังเป็นสถาบันที่ให้ความรู้และอบรมหลักสูตรต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการดำน้ำมาตรฐาน โดยมีการออกใบรับรองให้กับผู้ที่ผ่านหลักสูตรอีกด้วย ทั้งคู่เริ่มต้นทำงานร่วมกันตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 50 ปีของ PADI

ตัวเรือนเป็นรุ่น Monster ซึ่งนาฬิการุ่นยอดนิยมของทาง Seiko กันน้ำลึก 200 เมตร ตัวเรือนและสายทำจากสแตนเลสสตีล เมื่อเทียบจากราคาแล้วเหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นใส่นาฬิกา Seiko รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำ

ด้วยคู่สีอย่าง เงิน น้ำเงิน แดง และดำนั้นทำให้นาฬิกาเรือนนี้ใส่เข้ากันได้ทั้งเสื้อผ้าวันทำงานหรือลุคสตรีทแฟชั่นในวันหยุดสบายๆได้เป็นอย่างดี

SEIKO PROSPEX AUTOMATIC DIVER’S 200m. PADI Special Edition รหัส SSC795J1 (ราคา 24,500 บาท)

อีกหนึ่งรุ่นที่เป็นการร่วมงานระหว่าง Seiko และ PADI ตกแต่งขอบตัวเรือนด้วยสีน้ำเงินแดงซึ่งเป็นคู่สีจากโลโก้ของ PADI และประทับโลโก้ของ PADI ไว้บนหน้าปัด

นาฬิการุ่นนี้สามารถชาร์จพลังงานจากแสงได้ทุกประเภท และสำรองพลังงานได้นานสูงสุดถึง 6 เดือน กันน้ำได้ลึก 200 เมตร หน้าปัดทำจากกระจกแซฟไฟร์ป้องกันรอยขีดข่วน

นาฬิการุ่นนี้มีการวางตำแหน่งของสีต่างๆในแบบเดียวกับนาฬิกา Seiko ที่นักเล่นนาฬิกาเรียกกันว่าหน้าเป๊ปซี่ มาพร้อมกล่องพิเศษเฉพาะรุ่นนี้โดยเฉพาะ

SEIKO PROSPEX AUTOMATIC DIVER’S 200m. “KING SAMURAI” SAVE THE OCEAN SPECIAL EDITION รหัส SSC795J1 (ราคา 22,900 บาท)

นาฬิการุ่นนี้เป็นการกล่าวถึงการอนุรักษ์ปลากระเบนราหูซึ่งเป็นสัตว์ทะเลที่อยู่ในกลุ่มใกล้จะสูญพันธ์ุที่ถูกคุกคามโดยมนุษย์โดยองค์กร IUCN นอกจากนั้นปลากระเบนราหูยังเป็นหนึ่งในสัตว์ที่เหล่านักดำน้ำหวังจะได้เจอในระหว่างการดำน้ำ

ทาง Seiko จึงนำแรงบันดาลใจจากเรื่องนี้มาใช้ในการออกแบบหน้าปัดนาฬิกาลายพิเศษที่เปรียบเสมือนมุมมองจากใต้น้ำที่มองขึ้นมาสู่ด้านบนแล้วได้เห็นฝูงปลากระเบนราหูแหวกว่ายซึ่งเป็นภาพที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์

จากตัวเรือนเดิมที่ได้รับการขนานนามจากแฟนๆของ Seiko ว่า Samurai สำหรับรุ่นนี้ได้รับการอัพเกรดวัสดุขอบตัวเรือนด้วยเซรามิคและผนึกหน้าปัดด้วยกระจกแซฟไฟร์ป้องกันรอยขีดข่วน ทำให้แฟนๆขนานนามกันใหม่ด้วยชื่อ “King Samurai”

นาฬิการุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบสีน้ำเงินเฉดเข้มคลาสสิคที่มาพร้อมกับรายละเอียดพิเศษบนหน้าปัด ไม่ต่างกับงานออกแบบเสื้อผ้าและรองเท้าผ้าใบรุ่นลิมิเต็ดที่คนรักสตรีทแฟชั่นชื่นชอบเลย

SEIKO PROSPEX AUTOMATIC DIVER’S 200m. SAVE THE OCEAN SPECIAL EDITION รุ่น SRPF77K (ราคา 21,800 บาท)

รุ่นนี้ได้แรงบันดาลใจจากปลากระเบนราหูเช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้านี้ที่เรานำเสนอไปเพียงแต่มาจากประสบการณ์การดำน้ำในช่วงเวลากลางคืนซึ่งมีบรรยากาศพิเศษแตกต่างจากการดำน้ำในช่วงเวลากลางวันเป็นอย่างมาก

ตัวหน้าปัดยังคงมีฝูงปลากระเบนราหูแหวกว่ายแต่โทนสีจะมีความเข้มมากขึ้นเปรียบเสมือนการดำนำในช่วงเวลากลางคืน มาพร้อมสายซิลิโคนที่เหมาะสำหรับการดำน้ำ

ใครที่ชอบคอนเซ็ปต์ SAVE THE OCEAN เหมือนรุ่นรหัส SSC795J1 แต่ต้องการลุคที่ดูสปอร์ตมากกว่าอาจจะลองมองมาที่รุ่นนี้ได้ด้วยสีเฉดที่เข้มและสายนาฬิกาซิลิโคนทำให้นาฬิกาเรือนนี้ดูมีความลำลองมากขึ้นเยอะเลย

SEIKO PROSPEX LAND “ALPINIST” AUTOMATIC Cal.6R35 รหัส SPB121J (ราคา 29,000 บาท)

เดิมที Alpinist เป็นนาฬิกาที่วางจำหน่ายเฉพาะในประเทศญึ่ปุ่น เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 แต่กลับเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมไปทั่วโลก การกลับมาวางจำหน่ายในครั้งนี้ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยการใช้กลไล 6R35 ซึ่งสามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 70 ชั่วโมง

ขอบหน้าปัดด้านในสามารถหมุนได้เพื่อใช้งานเข็มทิศ ถือเป็นนาฬิกาที่ออกแบบมาเหมาะกับทั้งการใช้ในชีวิตประจำวันและการออกผจญภัย

ตัวเรือนสีเงินตัดกับหน้าปัดสีเขียวและสายหนังสีน้ำตาลให้ความรู้สึกแบบวินเทจคลาสสิค เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบแต่งตัวสไตล์คลาสสิควินเทจเป็นอย่างดี

SEIKO PROSPEX LAND “ALPINIST” AUTOMATIC Cal.6R35 รหัส SPB155J (ราคา 28,000 บาท)

นาฬิการุ่น Alpinist เช่นเดียวกับรุ่นที่แล้วแต่เรือนนี้มาพร้อมกับสาย Stainless Steel ที่ให้ลุคแตกต่างจากรหัส SPB121J ซึ่งเป็นสายหนัง

ความสวยงามอีกอย่างของนาฬิการุ่นนี้ก็คือการใช้ตัวเรือนแบบฝาหลังเปลือยเพื่อให้มองเห็นเครื่องกลไก คาลิเบอร์ 6R35 ที่มีประสิทธิภาพในการสำรองพลังงานสูงสุดถึง 70 ชั่วโมง

สำหรับใครที่ชื่นชอบความคลาสสิคของ Seiko Alpanist แต่ต้องการลุคที่เข้มแข็งเป็นทางการลองมองที่รุ่นนี้ดูครับ มิกซ์เข้ากับเสื้อผ้าได้หลากหลายอย่างแน่นอน