Check Point 10 ปีเส้นทางนักดนตรีของ Phum Viphurit ผ่านคอนเสิร์ต ‘Manchild Reimagined’

หลายคนรู้จัก ภูมิ-วิภูริศ ศิริทิพย์ (Phum Viphurit) ผ่านผลงานยอดฮิตอย่าง ‘Lover Boy’ หรือจะเป็นคลิป Cover ในช่อง ‘Phum Siritip’ แต่ถ้าจะพูดถึงใบเบิกทางที่ทำให้ภูมิเป็นที่รู้จักในช่วงแรก คงหนีไม่พ้นเพลงในอัลบั้ม ‘Manchild’ อย่าง ‘Long Gone’ และ ‘Strangers in a Dream’ ซึ่งอัลบั้มนี้ได้โลดแล่นอยู่ในใจผู้ฟังมาถึง 8 ปีแล้ว (เวลาผ่านไปไวจริง ๆ)

ประจวบเหมาะกับการครบรอบ 10 ปีเส้นทางนักดนตรีของภูมิอีกด้วย จึงเกิดเป็นคอนเสิร์ต ‘Manchild Reimagined’ ที่จะแสดงในวันที่ 29 มีนาคม 2025 ซื้อบัตรได้เลยที่นี่ https://hyhbkk.live/phum-manchild

10 ปีถึงเป็นช่วงเวลาที่ไม่สั้นแต่ผ่านไปไวกว่าที่เราคิดเหมือนกัน ถ้านับจาก ม.1 ตอนนี้เราคงเรียนมหาลัยปีที่ 4 ช่วงเวลา 10 ปี เราคงเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย ทั้งรูปร่าง หน้าตา ความคิด หรือแม้กระทั่งชีวิต ไม่ต่างอะไรจากมุมมองหรือแนวทางด้านดนตรีของภูมิ ที่เปลี่ยนไปตามการใช้ชีวิตและประสบการณ์เช่นเดียวกัน “เราว่าเราเป็นคนที่คราฟต์มากขึ้นเยอะ เราเริ่มต้นจากการเป็น Singer-songwriter ที่แต่งเพลงได้แค่กีตาร์โปร่งกับเนื้อร้อง เพราะว่าตอนนั้นเราไม่ได้มีความรู้ในการทำ Production หรือว่าการ Arrange ที่มันแฟนซีอะไรขนาดนั้น”

“แต่พอเราได้โชว์มากขึ้น ได้เก็บประสบการณ์จากตรงนั้น ฟังดนตรีมากขึ้น เราโตจากวัย 19 จนตอนนี้ 29 จะ 30 ปีแล้ว มันคือ 10 ปีแห่งการเรียนรู้ 10 ปีแห่งการเติบโตเลย ทั้งในด้านเทสดนตรี ด้านที่เราได้ทดลองทำดนตรีที่ดึงคอนเซ็ปต์ไกลตัวมาทำเพลง แบบว่างานที่ทำเป็น Alter Ego เลย (Paul Vibhavadi) ทั้งหมดมาจากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาของเราทั้งนั้นครับ”

เริ่มต้นจากการอัดคลิปตัวเอง Cover เพลงลงช่องทาง Youtube ในวันนั้น ภูมิในวัยอายุ 19 ปี คงยังไม่ได้เข้าใจและสนใจการเป็น ‘Artist’ ขนาดนั้น คงเป็นเรื่องไกลตัวที่ไม่ได้คิดถึงของเด็กที่ชื่นชอบในดนตรี ถึงสุดท้ายภูมิจะได้เดินทางบนเส้นทางนักดนตรีมาจนถึงปีที่ 10 แต่ภูมิก็ยังเขินที่จะเรียกตัวเองว่า ‘Artist’ อยู่ตลอด

“รู้สึกว่าอาชีพนี้มัน Unique ในการที่เราได้สเปซในการค้นหาตัวเองตลอดเวลา โชคดีที่เรามีผู้ฟังหรือคนที่คอยซัปพอร์ตการค้นหาสิ่งที่เราจะนำเสนอ นำมาทำดนตรี ตอนที่เริ่มเราอายุ 19 รู้สึกว่าคำนี้มันไกลตัวมาก เราเป็นแค่เด็กที่ชอบเล่นกีตาร์ อัดคลิปลง Youtube แต่งเพลงได้นิดหน่อย เราเรียนมหาลัยที่มหิดล เป็นเด็กฟิล์ม แล้วก็ทำผลงานเพลงเก็บเป็นพอร์ตไปเรื่อย ๆ แล้วจุดเปลี่ยนสำคัญในช่วงปี 2017-2018 ที่เพลงมันไปถึงผู้ฟังต่างชาติจริง ๆ ทีนี้เราก็มีโอกาสได้ไปโชว์ เริ่มทัวร์มากขึ้น รู้ตัวอีกทีเราก็ทำอาชีพนี้แบบ Full-time ถึงทุกวันนี้คนมองเราเป็นศิลปินมากขึ้น แต่ส่วนตัวภูมิก็รู้สึกว่า I’m freaking it out, always.”

ซึ่งการเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียง มีผู้ติดตามจากทั่วทุกมุมโลก มันไม่มีดีเพียงแต่ข้อดีเสมอไป ภูมิจึงเลือกหยิบประเด็นและคอนเซ็ปต์นี้มาพัฒนาต่อในโปรเจ็กต์ Alter Ego ที่มีชื่อว่า ‘Paul Vibhavadi’ “เราอยู่กับความเป็นนักดนตรี Full-time ได้หลายปี โชคดีที่อาชีพนี้สามารถนำมาเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้ แต่เรารู้สึกว่าศิลปินไม่ค่อย Touch on negative side of fame. (ไม่ค่อยพูดถึงด้านลบของการมีชื่อเสียง) มันเลยสปาร์กไอเดียในการทำ Alter Ego ซึ่งเป็น ‘สลอธ (Sloth)’ ที่พยายามจะหนีไปอยู่ ‘ป่าหิมพานต์’ Because he just want to be left alone. ซึ่งมันอาจจะแทนความรู้สึกของเราหรืออาจจะพูดถึง Social commentary of parasocial relationships ของการที่คนมีอิทธิพลต่อผู้ติดตาม”

หลายคนคงจะเคยเห็นเจ้าสลอธบนปกอัลบั้ม ‘The Greng Jai Piece’ ภูมิเล่าว่าตอนนั้นที่เลือกใช้สลอธมันมาจากช่วง COVID-19 ที่เราออกไปไหนไม่ได้ ได้นั่งหน้ามือถือ หน้าคอมแล้วก็เสพข่าวสารต่าง ๆ นานา รู้สึกว่ามันมีคอนเทนต์รอบตัวเราไปหมด แต่ก่อนหน้านั้นภูมิลุยทัวร์มาอย่างนั้น มันเลยเหมือนได้พักไปในตัว ไม่ต่างจากสลอธที่วัน ๆ มันไม่ได้ทำอะไร นอนไปแล้ว 80% ของวัน ลงมาเข้าห้องน้ำแค่ 1 ครั้งต่อสัปดาห์

“Sloth reminded me how I was living through COVID-19. รู้สึกมันมีความ Passive สูง แต่ในขณะเดียวกันเราได้ Observe ทุกอย่าง เอาเรื่องเล่าจากหลาย ๆ อย่างมาเล่าต่อในมุมมองของ Narrator มันเลยเกิดเป็น ‘Paul Vibhavadi’ ขึ้นมา นอกจากนั้นมันยังเป็นการเบรกจากการทำดนตรีแบบเดิม มาเป็นดนตรี House, Trance, Techno ซึ่งเป็นแนวที่เราสนใจอยู่แล้วด้วย เลยเหมือนกับ Two birds with one stone. สำหรับเรา”

เรามีโอกาสได้ดูโชว์ของภูมิอยู่หลายครั้ง ซึ่งจะมีพาร์ทที่เราชื่นชอบนั่นคือพาร์ทที่สมาชิกของวงแต่ละคนจะได้ปล่อยของ โชว์ความสามารถแบบอ้าปากค้าง ภูมิเล่าว่าการมีสมาชิกวงทำให้โชว์มันสมบูรณ์มากขึ้น “ภูมิไม่ได้รู้ทฤษฎีดนตรีอะไรขนาดนั้น บางครั้งเราแต่งเพลง เราแค่รู้ว่า Shape นี้มัน Sound แบบนี้ ภูมิแค่ไปตามเซนส์เลยว่ามันน่าจะคีย์เดียวกันกับที่เราเล่นอยู่ แต่ว่าทุกคนในวงโดยเฉพาะปี 2025 พวกเขาความสามารถระดับอาจารย์ เราไปซ้อมแล้วได้เรียนรู้จากพวกเขา รู้สึกว่าพวกเขาให้เกียรติเรามากที่ยอมมาเป็น Session musician ของเรา เราเลยอยากให้สเปซที่พวกเขาจะได้โชว์สิ่งที่เขาเป็นด้วย และมันเป็นประสบการณ์ที่สนุกมากครับ”

“พี่สอง (2p_natdanai) มือฟลุต เป็นนักร้องประสานเสียงที่น่าจะตัวท็อปของประเทศไทยเลย เป็นคนที่ร้อง Range ทั้งต่ำสุดไปถึงสูงสุดแบบเก่งมาก อิคคิว (ikkyuikik) เป็นมือกีตาร์ Rhythm ที่เล่น Lead ได้เนียนมาก แกะเพลงภูมิได้คลีนตลอด แล้วก็เป็นคนที่สอนมุขตลกไทยให้กับภูมิ แต่ก่อนเราเล่นมุขไม่ค่อยเป็น คนนี้เขาเป็นแอดมินเพจ ‘หนุ่มจืด’ ด้วย ก็เลยได้ความเป็นไทยจากอิคคิวเยอะมาก ๆ พี่อู๋ (chillmannn) เป็นมือเบสคนใหม่ เป็นพี่ที่ Attitude การใช้ชีวิตดีมาก ๆ มีแต่พลังงานบวก”

“พี่ต้อม (pongsirih) มือ Percussion เป็นพี่ที่เขา Successfull in life แต่ว่ารักดนตรีมาก ถ้าเจอตามผับหรือบาร์แล้วเขาแจม Percussion อยู่ พี่เขาจะอยู่แจมกับภูมิถึงตี 4-5 เลย ทั้ง ๆ ที่เขาจะมีงานตอนเช้าหรือว่าอะไรก็ตาม แต่เขาบอกว่า “จะเล่นดนตรีว่ะ” ดีใจมากที่ได้พี่มาร่วมทีม พี่โวลต์ (voltjingit) มือไวโอลินพิเศษในคอนเสิร์ตนี้ และในหลาย ๆ เฟสติวัล พี่เขาจบ Berklee College of Music, Boston แค่นี้ก็การันตีแล้ว เราเจอพร้อมพี่ต้อมที่บาร์ Jazz แห่งหนึ่ง เจอกันทีไรเล่นดนตรีกันยันเช้า คนสุดท้ายคือ ‘เจค’ (jakecdrums) มือกลองชาวอเมริกันที่อยู่ไทยมา 10 ปี พูดไทยไม่เป็น แต่มีความเป็นคนไทยมาก ๆ เป็นมือกลองที่เก่งที่สุดที่ภูมิเคยทำงานด้วยเลย รู้สึกว่าพอรวมทีม ประกอบเครื่องดนตรีทุกชิ้นเข้าด้วยกันโดยให้ภูมิเป็นคนนำ เรารู้สึกได้รับเกียรติมากจากทุกคนครับ”

นอกจากเรื่องดนตรีที่เปลี่ยนแปลงในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา สไตล์การแต่งตัวของภูมิก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน จากที่เคยใส่สีสันจัดจ้าน เปลี่ยนมาเหลือสไตล์ที่มัน Earth tone มากขึ้น แต่การแต่งตัวขึ้นสเตจภูมิจะมีความคิดอีกแบบนึง “การเลือกเสื้อผ้าบนเวทีเราจะพยายามแต่งตัวไม่ Stand out จนเกินไป เพราะรู้สึกว่าแค่นี้มันก็โชว์ในนามของภูมิแล้ว เพลงทั้งหมดมาจากภูมิ โปสเตอร์คอนเสิร์ตก็เป็นหน้าภูมิ สิ่งที่มีสีสันที่สุดในชุดที่เราใส่อยู่ช่วงนี้คงเป็นหมวก Beanie สีแดง เพราะเป็นหมวกที่เราซื้อตั้งแต่ที่นิวซีแลนด์ตอนอยู่ ม.5 ใส่แล้วรู้สึกมัน Ground เรามาก ๆ ว่าเรามาจากที่ไหน”

เราจะเห็นลุคของภูมิเปลี่ยนมาเป็นหนุ่มผมยาวในช่วงหลัง สาเหตุนั้นมาจากช่วง COVID-19 ที่ไม่ค่อยได้ออกไปตัดผมบ่อย จนถึงปัจจุบันภูมิก็ยังไม่เบื่อการไว้ผมยาว “ไม่เบื่อเลยครับ รู้สึกว่าภาพตอนเด็ก ๆ มีความอยากมองตัวเองเป็น Working Japanese man แบบว่าดู Sophisticate มีความ Professional ทางด้าน Creative เราก็ Associate ทรงผมนี้กับความที่เขาทำงาน ฟีล Writer, Architect, Designer บวกกับความที่เราหน้าเด็ก เราไม่ได้ชมตัวเองนะแต่ว่าเราหน้าเด็กจริง ๆ เวลาตัดผมสั้นรู้สึกว่ามันน้อง ไปทุกที่คือทุกคนน้องงง พอช่วงนั้นเราไม่ได้ออกไปตัดผม เลยลองเอาผมถัดหู มันก็ Suit perception ที่เรามองตัวเอง เลยตัดสินใจไว้ผมยาวไปเรื่อย ๆ ครับ ซึ่งมันแมตช์กับการที่เราชอบใส่หมวกตลอดเวลาด้วย”

บางโชว์ของภูมิจะมี Special Costume อย่างเช่น ‘One Piece’ หรือ ‘Akatsuki’ เราเลยอยากรู้ว่าไอเดียการแต่งตัวนี้ทั้งวงแบบนี้มันเริ่มมาจากอะไร “เริ่มมาจากเราได้ไปเล่นในงาน Fungjai Crossplay ในปี 2019 แล้วงานมันชื่อ Crossplay มันน่าจะตลกดีถ้าเราตีความว่ามันคืองาน Cosplay งั้นวงเรามาตัวแต่งกันดีกว่า ตอนนั้นแค่ Just to be troll, honestly. ไม่ได้คิดมากเลย เออเนอะ มันน่าจะกวนตีนดี แต่ก็สนุกด้วย”

“เราชอบเก็บพวก Costume เป็น Hidden hobby อยู่แล้วด้วย วันนั้นภูมิแต่งเป็น Chucky ถือ Scooby-Doo ตัวใหญ่ ส่วนพี่มือเบสแต่งเป็น Annabelle อิคคิวแต่งตัวเป็นอิทาจิจากแสงอุษา มือคีย์บอร์ดแต่งตัวเป็น DJ Marshmallow ทั้งวงมีความ Mix แต่ไม่ Match ที่สุดแล้ว ซึ่งภูมิชอบมาก เลยแบบงั้นคราวหน้าเรามาแต่งชุดกันอีกดีกว่า เพราะบางทีเวลาเล่นดนตรีมานาน ๆ มันมีเบื่อบ้าง ต้องหาอะไรบางอย่างมา Stimulate ในการที่เราต้องเจอคน 5 คนนี้อีกแล้ว ฮ่า ๆๆๆ มันเป็น Pattern & Routine มาก เราเลยต้องมี Break routine กันหน่อย เพิ่มสีสันให้โชว์แล้วก็ตัวภูมิเองด้วย”

เราเลยแอบถามไปว่าในคอนเสิร์ตครั้งนี้จะมี Special Costume แบบนี้หรือเปล่า ภูมิตอบกลับมาว่ามีแน่นอน ฝากทุกคนรอติดตาม แต่ไม่อยากสปอยก่อน เดี๋ยวมันจะ Too obvious นอกจากการแต่งตัวเป็น  ‘Paul Vibhavadi’ แล้ว เราคงได้เห็นการแต่งตัวสไตล์กวน ๆ อีกครั้งในคอนเสิร์ตครั้งนี้

สำหรับคอนเสิร์ต ‘Manchild Reimagined’ ภูมิเปิดตัวเกสคนแรกแล้ว (ณ วันที่สัมภาษณ์) คือพี่ก้อง H 3 F การทำงานวงนี้เป็นอย่างไรบ้าง “สนุกมากครับ H 3 F เป็นวงดนตรีที่เก่งมาก ๆ เคมีของวงเยี่ยมมาก การที่วงรู้ว่าคนไหนต้อง Shine คนไหนต้อง Fade ให้ดนตรีมัน Balance รู้สึกว่าเป็นวงที่ Musicianship สูงมากทุกคน ‘ก้อง’ เป็นคนที่เล่นกีตาร์เก่งมาก ๆ ทุกคนน่าจะรู้กันดี เพิ่งได้รางวัล ‘The Guitar Man Of The Year’ ในปีที่แล้วซึ่ง Rightfully so. ก้องเป็นคนที่ดูแล้วรู้เลยว่าซ้อมหนักมาก ดีใจมาก ๆ ที่ก้องว่างมาเป็นเกสให้ในโชว์ของเรา” (ณ วันที่เขียนภูมิได้เปิดตัวเกสเพิ่มเติมคือ Numcha, Hugo, Valentina Ploy)

นอกจากจะครบรอบ 10 ในเส้นทางการเป็นนักดนตรีของ ‘Phum Viphurit’ โชว์นี้ยังเป็นโชว์ครั้งแรกของ ‘Paul Vibhavadi’ ในไทยด้วย “น่าจะเป็นพาร์ทที่สนุกครับ เหมือนเราสร้างโลกใหม่ให้กับ ‘Paul Vibhavadi’ มันจะ Reflect ออกมาทั้ง Stage production การเรียบเรียง Setlist หวังว่าพาร์ทนี้จะเป็น Visual & Sonic treatment สำหรับทุกคน อยากให้มาชมกันครับ”

เราเลยทิ้งท้ายให้ภูมิฝากถึงแฟนเพลง หรือทุกคนที่ติดตาม Phum Viphurit ไม่ว่าจะหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ตลอดช่วงเวลา 10 ที่ผ่านมา “ปลายเดือนนี้ครับ (29 มีนาคม) ภูมิจะมีคอนเสิร์ต ‘Manchild Reimagined’ จะเป็น Celebrate ครบรอบ 8 ปีของอัลบั้ม ‘Manchild’ และ 10 ปีของการเป็นศิลปิน/นักแต่งเพลง อยากให้ทุกคนมาดูกันครับ จะเป็นเหมือน Walk down memory lane. ก็ว่าได้ แต่มันจะ Revisit ทุก ๆ Miles stone ในชีวิต แต่ละเพลงที่มีความหมายในทุกช่วงของเป็นนักดนตรีของภูมิ รับรองว่าบรรยากาศอบอุ่นแน่นอน แต่ไม่ได้อบอุ่นในเวย์ที่มัน Simple แต่ใส่เต็มแบบฟูลโชว์ เราโชคดีได้ทำงานกับ ‘HAVE YOU HEARD?’ กับค่าย Rats Records ที่เตรียมพร้อมทั้ง Stage production, Lighting, Sound, Vibe เป็นโชว์ที่ ‘ภูมิ’ ภูมิใจนำเสนอ ถ้ามีเวลาแล้วอยากฟังดนตรีดี ๆ ก็มาเจอกันนะครับ”

มาถึงขนาดนี้เราเลยอยากชวนทุกคนไปชม Phum Viphurit presented ‘Manchild Reimagined’ Concert ในวันเสาร์ที่ 29 มีนาคมที่จะถึงนี้ at Voice Space, Bangkok ใครยังไม่มีบัตรรีบไปจัดกันได้ที่ https://hyhbkk.live/phum-manchild ไม่อยากให้พลาดจริง ๆ ครับ

Special Thanks: phumviphurit, whyknnot, haveyouheard, ratsrecords, freakingout.bkk

Photographer: Pattarachai Songaksorn
Videographer & Editor: Supasin Daungkrajung
Producer: Akkhakit Phongrujirak
Author: Tanatorn Thitipipatchai

Share:
On Key

Related Posts

WATCHA GONNA ดู

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอม ให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save