ถ้าในสมัยก่อนหลายๆคนอาจจะรู้จักชื่อของ Kanye West ในฐานะแร็ปเปอร์จอมขวานผ่าซาก ผู้ที่ขึ้นไปป่วนเวทีของ Taylor Swift ในงาน VMA 2009 จนกลายเป็นข่าวใหญ่โต ณ ตอนนั้น แต่ในสมัยนี้ นอกจากในฐานะแร็ปเปอร์ Kanye ได้สร้างชื่อให้กับตัวเองในวงการแฟชั่นในฐานะดีไซน์เนอร์อย่างเต็มตัว ความสำเร็จของคานเยนั้นเรียกได้ว่าเป็นจุดที่แร็ปเปอร์และดีไซน์เนอร์ทุกคนใฝ่ฝันจะไปให้ถึง เขาเป็นหนึ่งในแร็ปเปอร์ที่ได้รับการเสนอชื่อรวมทั้งชนะรางวัลทางดนตรีใหญ่ๆอย่าง American Music Award, MTV Award, Billboard Music Award หรือแม้กระทั่ง Grammy มาแล้วเรียกได้ว่านับครั้งไม่ถ้วน และในฐานะดีไซน์เนอร์ นอกจากไลน์เสื้อผ้าที่เขาเป็นเจ้าของในชื่อ “YEEZY” แล้ว เขาก็ได้ประสบความสำเร็จกับ adidas ในการออกแบบซีรี่ย์ Adidas YEEZY BOOST ซึ่งการมาของเขานั้น เหมือนกับเป็นการชุบชีวิตให้กับ adidas เลยทีเดียว
Image: www.zimbio.com/
Kanye West นั้น นอกจากจะเป็นที่รู้จักผ่านทางผลงานเพลงและเสื้อผ้าแล้ว อีกเรื่องนึงที่เป็นที่รู้จักเกี่ยวกับป๋าเยก็คือ สไตล์การพูดจาที่โผงผาง และทัศนคติที่จะเรียกได้ว่าหลงตัวเองก็ไม่ผิดสักเท่าไหร่ หลายๆการสัมภาษณ์ของเขาถึงกับทำให้พิธีกรต้องปวดหัวและไปต่อไม่เป็น รวมถึงคนดูและแฟนๆบางส่วนก็ด้วย ซึ่งเหตุผลนี้แหละที่ทำให้หลายๆคนไม่ชอบ Kanye จนถึงขนาดแอนตี้เพราะความก้าวร้าวของเขา แม้ว่าจะมีคนไม่ชอบเขามากมายเพียงใด แต่ก็มีหลายๆคนที่ออกมาชื่นชมเขาว่าเป็นหนึ่งในยอดคนเลยทีเดียว เช่น Paul McCartney, Elton John หรือแม้กระทั่ง Elon Musk หรือ Barack Obama ก็เคยออกมาพูดชื่นชม Kanye มาแล้ว ถึงจะมีบางครั้งที่หลายๆคำพูดที่ออกมาจาก Kanye อาจจะฟังดูหยาบกร้าน หรือบางทีก็ฟังไม่รู้เรื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีใครอีกหลายๆคนที่มองเห็นความ “พิเศษ” และเลือกที่จะชื่นชมในตัวของแร็ปเปอร์วัย 40 ปีคนนี้
Image: www.stereogum.com
ด้วยความที่คำพูดของ Kanye มักจะเป็นกระแสและมักจะที่จดจำอยู่หลายๆครั้ง จึงมีคนคิดที่จะรวบรวมคำพูดของป๋าเยมาทำเป็นหนังสือที่มีชื่อว่า “THE WORLD ACCORDING TO KANYE” เขียนโดย Herbert Lui โดยเขาได้รวบรวมคำพูดที่คานเยพูดถึงสิ่งต่างๆเอาไว้ เช่น งานเพลง, เสื้อผ้า รวมถึงชีวิตและทัศนคติของเขา ซึ่งบทความนี้จะนำเราไปรู้จักกับความคิดและตัวตนของ Yeezus ผ่านทางคำพูดบางส่วนที่เขาเคยพูดเอาไว้
Image: www.thecut.com
Kanye West on Fashion
“ผมแค่ชอบแต่งตัว ผมเลือกเสื้อผ้าเองครั้งแรกตั้งแต่วันที่ผมไปโรงเรียนอนุบาล แล้วผมก็ไม่เคยหยุดอีกเลย”
“ผมฝันมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าอยากจะมีร้านเป็นของตัวเอง ที่ผมสามารถผลิตรองเท้า หรือเสื้อกันหนาวเป็นของตัวเองได้ ผมถึงกับมีภาพร่างของมันไว้ด้วย ผมแทบปลื้มจนแทบจะร้องไห้ทุกครั้งที่ผมนึกถึงมันเลย”
“ผมมักจะบ่นเสมอๆว่าการแต่งตัวน่ะมันยาก แต่ผมว่ามันก็ดีนะ เพราะว่ามาตรฐานของมันนั้นก็จะสูงมากๆ”
“ผมใช้เงิน 13 ล้านเหรียญเพื่อเรียนรู้, ทำพลาด, เสียเงิน, กลับมาตั้งตัวได้, ได้รับความเชื่อถือ และก็ก้าวข้ามกำแพงได้สำเร็จ”
“เรื่องพวกนี้มันไม่ได้เกี่ยวว่าผมจะมีบ้านหลังใหญ่ หรือว่าแลมโบที่แรง มันไม่ใช่อย่างนั้น ผมแค่หวังว่าเด็กๆรุ่นต่อไปก็จะแสดงออกความเป็นตัวเองได้มากขึ้น เพื่อที่จะกลายเป็นเวอร์ชั่นที่แข็งแกร่งกว่าของตัวเอง ผมผลิตเสื้อผ้าพวกนี้มาเพื่อมอบพลังให้คน ผมรู้สึกว่ามีหลายๆคนที่ต้องใส่เสื้อผ้าที่ไม่ได้สื่อถึงความเป็นตัวเองเลย”
“ถึงผมจะขายเสื้อได้แค่ตัวเดียว มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ตราบใดที่การสัมภาษณ์นี้จบ เด็กๆก็จะมีโอกาสได้ยินสิ่งที่ผมพูด และใครสักคนที่มีอำนาจ และกำลังจะมีอำนาจในอนาคต ก็จะได้ยินผมและมีโอกาสที่จะสร้างอะไรที่แตกต่าง”
Image: www.hollywoodtake.com
Kanye West on Style
“มีการตัดสินใจหลายอย่างที่ผมเสียใจมากในตอนหลัง เช่นบางชุดที่ผมใส่ไปงาน Grammy ซึ่งคนชอบเอามันมาล้อเลียนผม แต่ความผิดพลาดนั้นแหละคือจุดเปลี่ยนในชีวิตผมเลย ถ้าคุณอ่านหนังสืออ่ะนะ ซึ่งผมไม่เคยอ่านเลย เกี่ยวกับพวกวิธีการเป็นเศรษฐีอะไรนั่นน่ะ ที่ชอบบอกว่าคุณเรียนรู้จากความผิดพลาดของคุณ และถ้าพูดถึงการเรียนรู้จากความผิดพลาดล่ะก็ ผมแม่งโคตรอัจฉริยะเลยบอกให้ี”
“ผมอ่ะมีเซ้นต์พิเศษ ถ้าเกิดว่าเสื้อที่ผมใส่มันไม่เท่พอ โชว์ของผมก็จะไม่น่าดูเท่าไหร่”
“ผมอยากแต่งตัวให้เหมือนเด็กให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้”
“สมัยนี้คงไม่มีใครโดนล้อว่าเป็นเกย์เพราะเสื้อผ้าที่เขาใส่แล้ว เพราะทุกคนแม่งก็ดูเหมือนๆกันไปหมด”
Image: www.respecttheclassics.com/
Kanye West on Creative process
“ผมทุ่มเทอย่างสุดตัวให้กับชีวิตของผม ผมเปิดสมุดโน้ตของผมแล้วอ่านมันออกมาดังๆ หลายๆคนนั้นหวาดกลัวในไอเดียของตัวเองและนั่นอาจจะเป็นกลไกป้องกันตัวเอง แต่ก็มีบางคนที่กล้าที่จะแชร์ไอเดียของตัวเอง เป็นคนที่กล้าจะทำผิดในที่สาธารณะ เพื่อที่คนอื่นจะได้เรียนรู้จากมัน”
“ไม่มีกีฬาไหนที่ไม่มีคำว่าคลื่น (กระแส) เข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าเกิดว่าคลื่นกำลังขึ้น เราก็จะสนุกไปกับมัน แต่ถ้ากระแสกำลังลง ผมก็จะแค่นั่งรออยู่บนชายหาด”
“ผมพยายามจะเป็นเด็กให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะว่าตอนเด็กๆ เราทุกคนก็ล้วนเป็นศิลปินกันทั้งนั้น เพราะอย่างนั้นคุณลองหลับตาแล้วนึกถึงช่วงเวลาที่คุณยังเด็กสิ จดจำเวลาที่ความคิดคุณยังบริสุทธิ์ อิสระ ไม่มีกฏเกณฑ์อะไรมาตีกรอบคุณ”
“ทุกๆอย่างที่ผมทำก็เพื่อสร้างฉากที่น่าจดจำให้ชีวิตผมเอง”
Image: www.bckonline.com
Kanye West on Life
“ผมมีความรู้สึกว่าอะไรก็ตามที่คนอื่นพูดกับผมมันดูถูกผม แต่ผมก็ไม่แคร์หรอกนะ ยังไงผมก็จะทำให้พวกเขารู้ว่าผมมีดี ถ้าเกิดใครมาว่าผมว่าผมเตี้ยเกินไปที่จะเล่นบาสงี้ ผมก็จะวิ่งไปเลย์อัพใส่หน้าเขาให้มันรู้เรื่องไปเลย”
“คุณต้องรู้จักที่จะยึดมั่นในตัวตนของคุณ ยึดมั่นด้วยพลังทุกอย่างที่คุณมี ไม่งั้นคุณก็จะไม่ต่างกับคนอื่นๆเลย”
“ความจริงหนึ่งเดียวบนโลกนี้มันก็คือความตาย จริงๆชีวิตมันก็เหมือนกับเกมนั่นแหละ คุณแค่ต้องเล่นมันในแบบที่คุณอยากเล่น”
“ยังไงเราทุกคนก็ต้องตายสักวันแหละ ใช้ชีวิตด้วยความคิดนั้นสิ ใช้ชีวิตให้เหมือนคุณจะตายพรุ่งนี้ ไปใช้มันซะ”
“สิ่งเดียวที่มีค่าในโลกคือเวลา และสิ่งเดียวที่มั่นคงก็คือความตาย”
“คนหลายคนที่ผมรู้จักมักจะพูดเรื่องการลงทุนหรือว่าปริมาณเงินที่เขามี แต่ก็มีคนรวยหลายๆคนที่พยายามใช้เงินมากมายเพียงแค่จะไขว่คว้าหาความสุขเล็กๆน้อยๆ”
“10 เปอร์เซ็นต์คือสิ่งจำนวนสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ ส่วนอีก 90 เปอร์เซ็นต์คือคุณเลือกที่จะตอบสนองต่อสิ่งเหล่านั้นยังไง”
“ผมเคยสูญเสียทุกอย่าง แต่สุดท้ายผมก็ได้รับทุกอย่างเพราะผมสละความกลัวไปแล้ว”
Image: www.en.wikipedia.org
Kanye West on Self Esteem
“ผมว่าเวลานี้แหละเหมาะที่คนจะยอมรับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเจ๋ง ผู้คนในโลกมักจะต่อต้านคนที่เจ๋ง คนที่โดดเด่น คนที่เปล่งประกาย แต่ตอนนี้มันเป็นเวลาที่ดีแล้วที่จะยอมรับความเจ๋งสุดๆในตัวคุณ”
“ไปฟังเพลงของผมซะ มันเป็นคีย์ของความมั่นใจในตัวเอง มันคือสิ่งที่บอกถึงความเป็นคุณ ถ้าคุณคือแฟนของคานเย เวสต์ คุณไม่ใช่แฟนของผม คุณเป็นแฟนคลับของตัวคุณเอง ผมก็เป็นแค่กาแฟเอสเพรสโซ่ ที่ช่วยปลุกคุณตอนเช้า และช่วยให้คุณผ่านอุปสรรคใดๆก็ตามที่คุณกำลังเจออยู่”
“ผมมีความรู้สึกว่าผมทำได้ทุกอย่างเลย และนั่นแหละคือประเด็น คนส่วนใหญ่ถูกจำกัดโดยมุมมองของตัวเอง ถูกฉุดลงด้วยมุมมองของตัวเอง ถ้าคุณถูกสอนมาว่าคุณทำอะไรไม่ได้เลย คุณก็จะทำอะไรไม่ได้เลย ผมน่ะถูกสอนมาว่าผมทำได้ทุกอย่าง”
“ผมเชื่อในตัวเอง คุณก็เชื่อในตัวคุณสิ ปล่อยให้ผมเป็นตัวของผมเอง คุณโอเคกับมันใช่ป่าว? เจ๋ง ถ้าคุณไม่โอเคกับมันอ่ะนะ? ไปไกลๆเลย”
“เป็นตัวของคุณเองให้สุดไปเลย ถ้าคุณคิดว่าคุณรู้คำตอบ ก็ลุยเลย ถ้าคุณรู้ว่าคนข้างๆคุณนั้นเก่งกว่าคุณ ก็อย่ากลัวที่จะไปทำงานกับเขา อย่ากลัวที่จะถามคำถามเขา ยึดมั่นในอุดมคติของคุณและให้มันผลักดันคุณ แต่ก็มีสติพอที่จะชื่นชมคนที่เก่งกว่าคุณ”
Image: http://www.ballerstatus.com/
Kanye West on Music
“ผมไม่ได้คิดว่าผมมีทักษะเป็นถึงระดับนักดนตรีระดับตำนานอะไรอย่างงั้น ผมเล่นเปียโนยังไม่เป็นเลย”
“ผมตัดสินใจแล้ว ผมอยากจะทำเพลงที่คนชอบ แต่ผมอยากมีแฟนเพลงน้อยๆ ผมอยากมีอิสระอยากการมีแฟนน้อย เหมือนกับการที่มีเงินน้อยๆ เพราะว่ายิ่งคุณมีเงินน้อยเท่าไหร่ ความรับผิดชอบที่คุณมีก็น้อยลงเท่านั้น”
“สังคมทำลายเรา ทำให้เราไม่ได้รู้สึกถึงสิ่งที่เรารู้สึกเองจริงๆ มีหลายคนที่เชื่อเรื่องต่างๆตามเพื่อน เชื่อตามสิ่งที่ได้ยินในวิทยุ ผมไม่ได้จะบอกว่าเราทุกคนเป็นอัจฉริยะนะ แต่ว่าเราคือพวกช่างฝัน เราแค่จะทำฝันของเราให้เป็นจริงให้ได้”
“ผมก็เป็นคนนะ ผมเป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง เวลาคนคิดว่าผมเป็นศิลปิน เขาก็มักจะพูดว่า เฮ้ ถ้าคุณเป็นศิลปิน ก็แปลว่าคุณก็จะติดอยู่แร็ป และแร็ปวนๆอยู่แค่ไม่กี่เรื่องใช่มั้ย ผมก็ตอบเขาไปว่า ผมจะยืนหยัดเพื่อเป็นตัวแทนของทุกๆสิ่งที่ผมเคยเห็น และผมก็จะพยายามแสดงมันออกมาให้ดีที่สุด”
“มันจะมีคนที่จู่ๆเดินเข้ามาพูดอะไรหยาบๆ ซึ่งพวกคำหยาบนั้นทำให้คนหันมาฟัง และเมื่อทุกคนเปิดหูแล้ว เขาก็จะแจ้งข้อมูลทั้งหมดออกไป เขาแทรกตัวเข้ามาอย่างเนียนๆ และนั่นแหละคือสิ่งที่ผมทำ”
“แม่ผมเป็นครู ผมก็เลยติดลักษณะความเป็นครูอยู่หน่อยๆเหมือนกัน แต่ว่า MTV, BET แม้กระทั่งในสลัม หรือในชานเมืองคือห้องเรียนของผม และผมก็รู้วิธีที่จะคุยกับนักเรียนของผม”
Image: www.usmagazine.com
สิ่งที่เด่นชัดที่เราได้เห็นคำพูดบางส่วนของ Kanye ก็คือการที่เขาเป็นคนที่รู้จักตัวเองและทำทุกอย่างๆมีแผนและหลักการ อีกอย่างคือเขาเป็นคนที่เชื่อมั่นในการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในขณะที่เขาสามารถทำได้ และเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเอง Kanye จึงพร้อมที่จะใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยงและทำทุกอย่างที่เขาคิดว่าดี เพื่อที่จะได้คุ้มกับชีวิตหนึ่งที่เขาเกิดมา และนั่นเป็นบ่อเกิดของความมั่นใจสุดๆ ทำให้บุคลิกเขาออกมาเป็นคนที่โผงผาง พูดตรงๆ และบางทีก็เหมือนจะไม่ค่อยแคร์โลกเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่กลัวที่จะแสดงออกสไตล์ของตัวเองออกมา และประสบความสำเร็จในการทำความฝันของเขาให้เป็นจริงในที่สุด ไม่ว่าคุณจะชอบเขา หรือเกลียดเขา ท้ายที่สุดเขาก็คือมุษย์คนหนึ่งที่ไล่ล่าความฝันของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อน จนกลายเป็น “Kanye West” ที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้
Reference: THE WORLD ACCORDING TO KANYE