อากาศร้อนอบอ้าวกลางสยามในยามบ่ายแก่ๆวันนึง แก้วกาแฟที่มีไอน้ำจากน้ำแข็งก็กำลังหลอมละลายภายใต้อุณหภูมิสามสิบกว่าองศา เรานัดเขาไว้ที่ร้านกาแฟใหญ่ใจกลางแหล่งศูนย์รวมวัยหนุ่มสาวย่านปทุมวัน เลยเวลานัดไปเพียงสี่นาที เขาก็ย่างก้าวเข้ามาในร้านด้วยท่าทางทะมัดทะแมง ภายใต้รอยสักที่เต็มแขนและสร้อยทองระยิบระยับ เขากลับเป็นคนสุภาพถ่อมตัว และกล่าวขอโทษขอโพยด้วยเรื่องนัดหมายที่เขามาช้าไปเพียงแค่สี่นาที
เรารู้จักเขาผ่านผลงานเพลงตั้งแต่สมัยที่อยู่ RS ค่าย Kamikaze ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป ทุกสิ่งก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เขามีรอยสักเพิ่มขึ้น ภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไป กล้าที่จะนำเสนอความเป็นตัวเองมากขึ้น และนอกจากบทเพลงที่ทำให้เรารู้จักเขาแล้ว มีอีกสิ่งนึงคือการแต่งตัวที่ทำให้เราสนใจเขา ด้วยสไตล์อันชัดเจน ยิ่งทำให้เราอยากสัมภาษณ์และทำความรู้จักกับเขาเพิ่มขึ้น
ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ครับ TJ ?
ตอนนี้ก็กำลังทำซิงเกิ้ลเดี่ยว ปล่อยออกมาแล้วทั้งหมด 5 เพลง มี เค้าก่อน คิดดัง Beautiful วายร้าย แล้วก็ เอาดีดีดิ ซึ่งได้พี่โต้ง (2P) Southside Phuket มาร่วมงานด้วย
ชอบเพลงไหนมากที่สุดครับ ในบรรดาเพลงทั้งหมดที่คุณพูดถึงมา ?
ก็ชอบทุกเพลงนะ คือผมทำเองหมด ผมก็รักในสิ่งที่ผมกลั่นมันออกมา แน่นอนว่ามันไม่ง่ายเลยในการทำเพลงแต่ละเพลง แต่ถ้าเอาจริงจริง ก็ให้ “วายร้าย” ละกัน คือมันเป็นเพลงที่ทำให้ผมมีชื่อเสียงขึ้นมา แล้วก็ต่อยอดโอกาสที่มีเข้ามาในชีวิตของเราให้ไปถึงจุดที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ขอเพลงท่อนเดียวที่ TJ ชอบที่สุด ท่อนเดียวเท่านั้นนะครับ ?
เอิ่มม … ยากแฮะ อ๋อ ! นึกออกละ เอาเพลง “เอาดีดีดิ” ละกัน มีท่อนที่เขียนว่า “ตัวจริง is right here ใส่ทองเต็มตัว ผมหน่ะป๋าใครใครเขาก็รู้ ” คือช่วงนั้นบ้าซื้อทองมาก ซื้อไปหลายสิบบาท เลยรู้สึกว่า เฮ้ย … ผมแม่ง Notorious ดีวะ ใส่ทองเต็มตัว
อยากทราบว่าไอดอลของคุณเป็นใครในการทำเพลงของคุณ ?
โอ้โฮ เยอะมาก … ขอดูในมือถือแปปนึงละกัน เดี๋ยวลิสท์ให้ ก็มี … Pharrell Williams , Jay Z , Snoop dogg , Nerd , One Republic , Chainsmokers , Usher ว่ากันไปยาว ๆ มันเยอะมากจริง ๆ (หัวเราะ)
สิ่งที่โดดเด่นมากๆนอกจากผลงานการทำเพลงของคุณคือการแต่งตัว ทีนี้ในปัจจุบันนี้เราก็พูดได้เต็มปากเลยว่า TJ เป็นศิลปินคนหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อการแต่งตัวในแนวทาง Street Fashion คนนึงของไทยเลย เราอยากทราบว่านิยามของคำว่า Street Fashion ของคุณคืออะไร ?
Street คือการ Mix & Match ให้มันออกมาเป็นตัวตนของเรามากที่สุด พูดง่าย ๆ คือเราไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร ทุกคนไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน มันคือการจับคู่ที่แสดงออกถึงตัวตนของเราออกมา
ขอทราบแบรนด์เสื้อผ้าในดวงใจของ TJ หน่อยครับ ?
ตอนนี้เลยก็ต้องให้ Saint Laurent เพราะว่าผมชอบดีไซน์เนอร์ของเขา Hedi Silmane อะ ผมชอบมาตั้งแต่เขาอยู่ Dior ละ ที่ทำแบบพวก Destroyed Jeans อะไรพวกนี้ ชอบที่เขานำแรงบันดาลใจจากความ Grunge มาถักทอให้มันดูมีสเน่ห์ สุดยอดมาก
โอเค ทีนี้เรามาพูดถึงรองเท้า เดี๋ยวนะ … ทำไมรวดเร็วขนาดนี้ (ขณะที่ผู้สัมภาษณ์กำลังถามคำถามข้อนี้ ผู้สัมภาษณ์เพิ่งสังเกตเห็นรองเท้าของ TJ ว่าที่เขาสวมใส่อยู่คือ Air Jordan 1 “Banned” ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปหนึ่งวันก่อนให้สัมภาษณ์) งั้นเรามาเริ่มคำถามต่อไปกันเลย ขอทราบ “สนีกเกอร์สามคู่” ในดวงใจตของคุณตอนนี้ที่คุณกำลังตกหลุมรัก
(หัวเราะเสียงดัง) งั้นตอบเลยว่า Nike Air Jordan 1 “Bred” คู่นี้เลยอันดับแรก พึ่งไปซื้อราคา Resell มาเมื่อวาน อดใจไม่ไหว มันอยากได้จริง ๆ ต้องพูดว่าคู่นี้มันคลาสสิคอะ มันคือตำนานที่ทั้งโลกยอมรับ ส่วนอีกสองคู่โปรดตอนนี้ก็เป็น adidas NMD Human race ที่ออกแบบโดย Pharrell Williams กับ Vans Old School ตอนนี้สามคู่โปรดมีอยู่เท่านี้ แล้วก็ตอนนี้อยากได้ Yeezy 350 V2 “Beluga” มากๆ เราว่าดีไซน์มันล้ำสมัยขึ้นเพราะไอ้แถบสีส้มนั่นมันสวยดีนะ
อยากทราบความคิดเห็นของ TJ ที่มีต่อ Street Fashion ของไทยในปัจจุบัน
ก็ต้องบอกเลยว่า Street Fashion ไทยมาไกลเหมือนกันนะ เพราะล่าสุดไป ELLE Fashion week มา คือผมเห็นเลยว่าตอนนี้คนไทยตื่นตัวเรื่องนี้กันมาก ๆ เพราะเมื่อมองย้อนไปก่อนหน้านี้นี่มันไม่ขนาดนี้นะ มันอาจจะด้วยเรื่องของยุคโลกาภิวัฒน์ที่ทุกคนจับต้องมองหา References ของตัวเองกันได้ง่ายมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่าวงการ Street Fashion ของเราไปได้ไกลจริง ๆ
10 ปีข้างหน้า TJ มองตัวเองไว้ว่าเป็นอย่างไร ?
ถึงตอนนั้นผมอยากมีค่ายเพลงเป็นของตัวเอง อยากมีศิลปินในค่าย ทำเพลงแล้วก็เป็นโปรดิวเซอร์ให้เขา ให้เขาออกไปนำเสนอความเป็นตัวเราในแบบของเขา แล้วก็ถึงตอนนั้นคงไม่ได้ออกไปกระโดดโลดเต้นมากนักเหมือนตอนนี้ เรื่องของวัยอะนะ นั่งอยู่บ้านบ่อยขึ้น คอยเป็นป๋า นั่งสูบซิการ์ ใส่ทองเต็มตัว ถ้าวงการเพลงมันยังไปไหวอะนะ (หัวเราะ)
หมายความว่าตอนนี้วงการเพลงอยู่ในสภาวะวิกฤต ?
คือต้องพูดว่ามันไม่ใช่แค่ในไทย มันเป็นยังงี้ไปทั่วโลก คือเราอยู่ในยุคที่ผู้คนต่างคิดว่าของพวกนี้มันฟรี ทั้งที่จริงจริงแล้วมันไม่ใช่ไง ย้อนกลับไปที่เพลงมันยังจับต้องได้ในรูปแบบของแผ่นเสียง และ ซีดี ศิลปินอยู่ได้เพราะรายได้จากตรงนั้นแต่ตอนนี้มันไม่ใช่ไง ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว ค่ายเพลงมันก็ลดน้อยลงศิลปินจึงต้องดูแลตัวเองกันมากขึ้น มันก็เป็นหน้าที่ของผมและศิลปินคนอื่น ๆ เหมือนกันที่ต้องปรับตัวกันต่อไป และคิดว่าในอนาคตทุกอย่างจะดีขึ้นนะ
สุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงแฟนๆที่ติดตามผลงาน TJ หน่อยครับ
ฝากเพื่อนๆทุกคนให้คอยติดตามผลงาน TJ ด้วยนะครับ ตอนนี้ก็มีเพลงใหม่ที่เตรียมปล่อยอยู่หลายเพลงเหมือนกัน ยังไงอยากให้ติดตามกันให้ดี ขอบคุณมากครับ….