ต้องยอมรับว่าหนึ่งในกีฬาที่กำลังกลับ มาบูมเเละคนต่างกลับมาให้ความสนใจ อีกครั้งคงหนีไม่พ้นกีฬามวยปล้ำ ซึ่งทีสหรัฐ อเมริกาเรียกได้ว่ากระเเสกลัมาร้อนเเรงจัดเลย ในส่วน ของฟากฝั่งบ้านเรากระเเสก็ดีไม่เเพ้กัน
.
เราเชื่อว่ากีฬามวยปล้ำคงเป็นหนึ่งความทรงจำในวัยเด็กที่ดีเเละมันส์มากๆ ของใครหลายๆ ถึงขั้น ต้องซื้อเสื้อ ซื้อเกมมาเล่นมาเล่นกันเลยทีเดียว หรือบางคนอาจจะเคยเล่นมวยปล้ำกับเพื่อนด้วย การจำท่าต่างๆ ของนักมวยปล้ำที่เราชอบมาเล่นกับเพื่อนอย่างเเน่นอน วันนี้เราเลยอยากจะเอา เรื่องราวของชายที่ชื่อ Steve Borden หรือที่รู้กันในชื่อ Sting หนึ่งในนักมวยปล้ำระดับตำนานที่ เพิ่งจะขึ้นเวทีครั้งสุดท้าย เพื่อปิดฉากตำนาน 39 ปี ในวงการมวยปล้ำ ไปดูพร้อมกันๆ ได้เลย
Steve Borden หรือที่รู้กันในชื่อ Sting เป็นหนึ่งในนักมวยปล้ำที่เป็นขวัญใจของใครหลายๆ คน เเละมีภาพจำที่ชัดเจนอย่างการเอาสีมาเพ้นยบนใบหน้าเเละสวมกางเกงรัดรูปสีสันแสบตา เเรกเริ่ม เดิมทีชายคนนี้เป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มธรรมดาๆ ที่เติบโตมาในยุคสมัยที่คนอเมริกันชอบ เล่นเพาะ กายตามแบบของ Arnold Schwarzenegger ด้วยความหลงใหล ส่งผลให้ Steve Borden พยายามที่จะเล่นกล้ามเเละได้รับหน้าที่ดูเเลยิมให้พี่สาวของเขา .
.
โดยจุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในวันที่มีคนเดินเข้ามาถามเขาในฐานะผู้จัดการยิมว่า พอจะช่วยแปะใบปิด ประชาสัมพันธ์ที่ยิมให้หน่อยสิ “ต้องการนักมวยปล้ำ” ข้อความบนประกาศเขียนสั้นๆ แต่ชัดเจน บอร์เดนอ่านแล้วไม่เข้าใจ มวยปล้ำแบบไหนแต่ ริค เบสส์แมน ได้บอกกกับว่า “ ไม่ใช่ มันคือมวย ปล้ำอาชีพ เรากำลังสร้างทีม 4 คน ผมจะฝึกคนเหล่านี้แล้วพาไปให้ถึง WWF
.
หลังจากติดประกาศอยู่นาน ก็ไม่มีใครติดต่อมาสักที ริค เบสส์แมน จึงตัดสินใจชวน บอร์เดนก็ ตกลงที่จะเดินทางไปชมมวยปล้ำ WWF ร่วมกับเบสส์แมนและว่าที่สมาชิกเพื่อนร่วมทีมอีก 3 คน โดยที่ตัวเขาไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการหาอะไรสนุกๆ ทำ เพราะตัวเองก็ว่างและไม่มีอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอันอยู่แล้ว
ต่อมา Steve Borden ได้เข้าไปชมการเเข่งขันมวยปล้ำครั้งเเรก บอร์เดนรู้ตัวได้ในทันทีหลังจาก ที่เขาได้อยู่ในหมู่ผู้ชมที่ส่งเสียงเชียร์ โห่ร้อง ตะโกนด่าอย่างบ้าคลั่ง เหมือนหลุดเข้าไปในโลกอีก ใบที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน นี่คือรักแรกพบสำหรับเขา นี่คือสิ่งที่ทำให้หัวใจเต้นระรัว และนี่คือ เป้าหมายในชีวิตที่เขาตามหามานาน
.
หลังจากนั้นชีวิตของบอร์เดนก็ไม่เหมือนเดิมอีกตลอดไป เขาเริ่มต้นฝึกฝนตัวเองในการเป็นนักมวย ปล้ำ เพื่อเรียนรู้ทักษะและศาสตร์ของการเล่นที่ไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของการโชว์ลีลาที่สวยงามหรือ ความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของความปลอดภัย การช่วยเซฟทั้งตัวเองและคู่แข่งด้วย
แต่ชีวิตจริงไม่ได้สวยหรูเสมอไป ในขณะนั้นกีฬามวยปล้ำเปรียบเสมือนการแสดงที่ตระเวนไปในแต่ละรัฐมากกว่า บอร์เดนและคู่หูของเขาในขณะนั้น เฮลล์วิก ต้องเดินทางออกไปทั่วเพื่อทำการแสดง บางวันก็ได้เงินพอประทังชีวิต และบางวันก็ถึงขั้นต้องแอบขโมยเศษอาหารกินด้วยซ้ำไป จนวันนึงงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา หลังจากที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนักทั้งคู่ก็ตัดสินใจแยกไปตามทางของตน
บอร์เดนใช้เวลาเยียวยาจิตใจอยู่ยาวนานกับคำถามที่ว่า สิ่งที่เป็นอยู่มันใช่หรือเปล่า เขาได้เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น “ สติง “ และวนเวียนอยู่กับความสับสนต่อไป จนวันนึง แสงเล็กๆก็ได้ปรากฎในชีวิตของเขา ใช่แล้ว แฟนสาวของเขาที่ในขณะนั้นได้หมั้นหมายกันแล้วเดินทางมาหาเขา บอร์เดน หรือ สติง ในขณะนั้นหลังจากเจอที่พักใจ สติงได้พรั่งพรูความในใจและความยากลำบากให้แฟนสาวฟัง และเธอก็ตอบกลับมาเพียงแค่คำสั้นๆว่า “มันใกล้แล้ว มันใกล้ถึงความฝันของคุณแล้ว คุณตัองพยายามอีก”
.
จากคำพูดเล็กๆ ได้จุดประกายชีวิตเขาอีกครั้ง สติงได้แจ้งเกิดอีกครั้งใน ดิ อมเริกันดรีม โดยเขาได้แจ้งเกิดในเวทีนั้นหลังจากที่ขึ้นชกกับ เดอะเนเจอร์บอย ซึ่งผู้ชนะคือเขาเอง เขาได้เลื่อนขั้นจากดาวรุ่งมาเป็นสตาร์ทันที และเขายังพัฒนาฝีมือของตัวเองจนกลายเป็นเบอร์ต้นของค่ายในขณะนั้น และเป็นคนดังที่ใครหลายคนรู้จัก
.
และอีกหนึ่งบทบาทที่เขาจะต้องแสดงไม่เพียงแค่นักมวยปล้ำสุดเก่งกาจ แต่คือบทบาทของความเป็น”พ่อ” หลังจากที่ขึ้นชกเสร็จเขามักจะกลับไปเล่นกับลูกชายสุดที่รักทั้งสองเสมอ พร้อมกับต้องปิดบังบทบาทอาชีพของตนเองไม่ให้ลูกชายรู้ แต่นานวันเข้าจากทั้งสองหน้าที่ที่เขาได้รับได้แปรเปลี่ยนจากความสุขเป็นความหนักอึ้ง สติงต้องเผชิญกับการพักผ่อนไม่เพียงพอ และร่างกายเหนื่อยล้าจนเขาต้องหันมาพึ่งพาตัวช่วยอย่าง “ยาแก้ปวด” เพียงแค่ 1 เม็ด ก็เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล
สติงติดยาแก้ปวดหนักขึ้นเรื่อยๆจาก 1 เม็ดเพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นการเสพยาเกินขนาด เขาเริ่มเผชิญอาการปวดสมองอย่างรุนแรงจนเขาต้องรับยามากขึ้น และมากขึ้นในทุกวัน จนเขารู้สึกว่าสิ่งที่เป็นอยู่เริ่มไม่ใช่แล้ว และคนที่มาเตือนสติเขาอีกครั้ง ก็คือแฟนสาวของเขาเช่นเดิม เธอยังคงถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นความเปลี่ยนแปลงของคนรัก หลังจากที่ลูกชายทั้งสองเข้านอน เธอเดินเข้ามาถามเขาว่า “คุณโอเคไหม เป็นอะไรหรือเปล่า” และนั้นแหละสติงได้พรั่งพรูความในใจออกมาทั้งหมดอีกครั้ง
หลังจากนั้นเขาได้เลิกยาแก้ปวดและหันหน้าเข้าหาศาสนาอย่างจริงจัง แต่ก็ยังเลือกที่จะเดินตามแผนชีวิตนักมวยปล้ำเฉกเช่นเดิม เขายังคงโดดเด่นในวงการมวยปล้ำตราบจนอายุ 64 ปีซึ่งเป็นช่วงเวลาการเล่นครั้งสุดท้ายของเขาก่อนจะอำลาวงการนี้
.
เรียกได้ว่าทั้งสุขทั้งขมทั้งครบรสเลยทีเดียวกับชีวิตของ Steve Borden หรือ สติง นักมวยปล้ำเจ้าบทบาทขวัญใจของใจใครหลายๆคน จึงเปรียบได้ว่าเป็นตำนานเลยด้วยซ้ำ เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าความพยายามไม่เคยทรยศใครจริงๆ แต่นั้นแหละหากไม่ได้รับกำลังใจจากคนรอบข้างก็คงไม่มีสติงในทุกวันนี้ Soul4Street ขอชื่นชมทุกคนที่กล้าจะเดินตามความฝันครับ
