ย้อนรอยโมเมนต์ฟุตบอลโลก 2022 น่าจดจำ ต้อนรับฟุตบอลโลก 2026

อีกประมาณ 1 ปีจะเข้าสู่ช่วงเวลาที่เหล่าแฟนบอลรอคอยกันอีกแล้ว สำหรับ ‘FIFA World Cup 26’ วันนี้ S4S จึงขอพาย้อนรอย 6 โมเมนต์ในฟุตบอลโลกปี 2022 ที่น่าจดจำกัน ว่ามีโมเมนต์สำคัญเกิดขึ้นในทัวร์นาเมนต์นี้บ้าง 

‘FIFA World Cup 22’ ที่จัดขึ้นที่กาตาร์ จัดขึ้นช่วง 20 พฤศจิกายน – 18 ธันวาคม 2022 เป็นหนึ่งในฟุตบอลโลกที่เกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆ มากมายที่แฟน ๆ ต้องจดจำ และถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่มีการแข่งขันที่แต่ละทีมเขี้ยวกันสุด ๆ เป็นการแย่งชิงแชมป์กันที่สนุกมาก 

LEONEL MESSI พา ARGENTINA คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ

แฟนบอลทั่วโลกคงทราบดีถึงเป้าหมายสูงสุดของชายผู้คว้าบัลลงดอร์มากที่สุดอย่าง ‘Leonel Messi’ สำหรับเขาไม่ใช่รางวัลบัลลงดอร์ แต่เป็นการพาประเทศบ้านเกิดอย่างอาร์เจนตินาคว้าแชมป์โลกได้สักครั้งในชีวิต เหมือนกับนักเตะที่เป็นดั่งตำนานอาร์เจนตินาอย่าง ‘Diego Marodona’ นั้นเอง ซึ่งแฟนบอลต่างก็คอยเชียร์เขามาโดยตลอด ครั้งที่ใกล้เคียงกับคำว่าแชมป์โลกมากที่สุด คือปี 2014 ที่เข้าชิงกับเยอรมัน ซึ่งผลสกอร์ออกมาที่ 1-0 จากการทำประตูของ ‘Mario Gotze’ ทำให้เยอรมันชนะอาร์เจนตินา คว้าแชมป์ในปีนั้นไป สร้างบาดแผลลึกในใจให้เขาอย่างมาก 

MESSI IN FIFA WORLD CUP 2014

จนเมื่อ ‘FIFA World Cup 22’ มาถึงแฟนบอลต่างก็เชียร์ให้ Messi นั้นพาอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ และในที่สุดอาร์เจนตินาได้เข้าชิงกับฝรั่งเศส จบไปด้วยผลสกอร์สุดมันส์เสมอกันที่ 3-3 ต่อด้วยการดวลจุดโทษ และเป็นอาร์เจนตินาทำได้ดีกว่าด้วยสกอร์ 4-2 จากการยิงพลาดของ ‘Kingsley Coman’ และ ‘Aurellen Tchouameni’ ทำให้ Messi สามารถพาอาร์เจนตินาคว้าแชมป์โลกในปี 2022 ได้สำเร็จ เป็นโมเมนต์สุดยิ่งใหญ่ของเขาในวัย 35 ใกล้ 36 ปี และคว้าบัลลงดอร์สมัยที่ 8 มาครองหลังคว้าแชมป์โลก เป็นหนึ่งโมเมนต์สำคัญในประวัติศาสตร์ฟุตบอลที่โลกต้องจารึก

KYLIAN MBAPPE คว้ารองเท้าทองคำ ซัดแฮตทริกในนัดชิงแต่พลาดแชมป์

ต่อจากเหตุการณ์ Messi คว้าแชมป์โลก อีกหนึ่งโมเมนต์สำคัญในนัดชิงนั้นเป็นการที่ ‘Kylian Mbappé’ ซัดแฮตทริก ในนาทีที่ 80 (p), 81 และ 118 (p) ทำให้ฝรั่งเศสกลับเข้าสู่เกมอีกครั้ง โดยต้องไปดวลกันถึงจุดโทษ ซึ่งอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ว่าฝรั่งเศสทำได้ไม่ดีพอในการดวลจุดโทษทำให้ไม่สามารถรักษาแชมป์ได้ ถึงแม้ Mbappé จะมีผลงานที่ดีในทัวร์นาเมนต์นี้ด้วยการคว้ารองเท้าทองคำ (European Golden Shoe) ไปครองด้วยการซัดไป 8 ประตูในฟุตบอลโลก แต่เจ้าตัวกลับแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาอย่างเห็นได้ชัด เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับ Messi ในปี 2014 ไม่มีผิด

MOROCCO เข้ารอบรองชนะเลิศแบบพลิกโผ

ไม่มีใครคาดคิดแน่ว่าคำทำนายที่เหมือนเอาฮาของศูนย์หน้าระดับตำนานของ Samuel Eto’o เกือบจะเป็นจริง ที่บอกผ่านสื่อว่าทีมจากทวีปแอฟริกาจะคว้าแชมป์โลก เพราะพวกเขาสามารถเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม F ไม่พอเท่านั้นยังตบสเปนในรอบ 16 ทีมและโปรตุเกสในรอบ 8 ทีมได้อีก ถึงแม้พวกเขาจะแพ้ฝรั่งเศสในรอบรองชนะเลิศก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นม้ามืดในทัวร์นาเมนต์นี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะสามารถเข้ามารอบลึกได้ขนาดนี้ ทำให้นาทีนั้นนักเตะจาก Morocco ถูกจับตามองกันหลายคน รวมถึงกุนซืออย่าง ‘Walid Regragui’ ชายผู้ทำให้ Morocco ผงาดมาถึงรอบนี้ได้แบบพลิกโผ

ROBERT LEWANDOWSKI ยิงประตูแรกในฟุตบอลโลก

พูดไปใครจะเชื่อว่าศูนย์หน้าระดับโลกที่ซัดประตูมากที่สุดถึง 41 ประตูใน Bundesliga League ล้มสถิติระดับตำนานอย่าง ‘Gerd Müller’ ที่เคยทำไว้ 40 ประตู จะไม่สามารถยิงประตูในฟุตบอลโลกได้เลยสักครั้ง ทำให้การมาฟุตบอลโลกที่ Qatar ครั้งนี้เขาคาดหวังว่าจะทำมันได้สักครั้งในชีวิต แต่แล้วเขาก็ทำมันสำเร็จด้วยการซัดประตูในเกมที่เจอกับซาอุดิอาราเบีย ในนาที่ 82 ถือว่าเป็นประตูแรกของเขาในฟุตบอลโลก เพราะถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 ลงสนามไป 3 นัด ไม่สามารถยิงได้เลย หลังจบเกมเขาหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจอย่างไม่อาย เพราะรู้ว่านี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้ลงเล่นในฟุตบอลโลกแล้ว 

WALES กลับเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ในรอบ 64 ปี

นานแค่ไหนแล้วที่ Wales ไม่ได้เข้ารอบสุดท้ายในฟุตบอลโลก นับตั้งแต่ในปี 1958 หรือ 64 ปีมาแล้ว แต่หลังจากหนึ่งในคีย์แมนสำคัญอย่าง ‘Gareth Bale’ ซัดประตูจากลูกจุดโทษ ในเกมที่เจอกับสหรัฐอเมริกา พาบ้านเกิดของเขา กลับเข้าสู่รอบสุดท้าย ตีตั๋วไปฟุตบอลโลก 2022 ได้เป็นครั้งแรก ถึงแม้ต่อมาพวกเขาจะไม่สามารถเข้าสู่รอบต่อไปได้ แต่ก็ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ Wales ต้องจารึกไว้ 

CRISTIANO RONALDO สร้างสถิติซัดประตูในฟุตบอลโลกได้ 5 สมัยติด

ถึงแม้อายุของ ‘Cristiano Ronaldo’ หรือ ‘CR7’ จะเริ่มโรยราขึ้นทุกวัน บวกกับฟอร์มในฟุตบอลโลกจะไม่ได้ดีเหมือนเก่า แถม Portugal ยังไปไม่ถึงฝัน ตกรอบ 8 ทีมหลังโดน Morocco ตบไปนั้นแหละ แต่ลูกเก๋าลูกคมของเขา ยังพอมีพิษสงอยู่เสมอ ด้วยการทุบสถิติใหม่ส่วนตัว เพราะเขาเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่สามารถทำประตูในฟุตบอลโลกได้ 5 สมัยติดต่อกัน ตั้งแต่ในปี 2006, 2010, 2014, 2018 และ 2022 โดยการยิง 1 ประตูในเกมที่เจอกับ Grana ในรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้เขาแซงหน้านักเตะคู่แข่งอย่าง Leonel Messi, Miroslav Klose, Pelé และ Uwe Seeler ที่ทำประตูในฟุตบอลโลกได้ 4 สมัย

และสำหรับ ‘FIFA World Cup 26’ นี้จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งที่ 23 แล้ว ซึ่งทุกคนทราบดีว่าจะมีทุก 4 ปี ในครั้งนี้สหรัฐอเมริกาจะเป็นเจ้าภาพหลัก แคนาดาและแม็กซิโกเป็นเจ้าภาพร่วม นี่เป็นครั้งแรกที่จัดโดย 3 ประเทศเป็นเจ้าภาพร่วมกัน และแถมยังขยายทีมแข่งขันเพิ่มขึ้นจาก 32 ทีม เป็น 48 ทีมเป็นครั้งแรกด้วย โดยกำหนดการแข่งขันจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน – 19 กรกฎาคม 2026 นี้ เพื่อน ๆ คนไหนรอเชียร์ทีมรักทีมไหนอยู่ ไม่นานเกินรอแน่นอนครับ แล้วมาลุ้นกันว่าประเทศไหนจะคว้าแชมป์ 2026 ไปครอง!

Source: CNN, LIFESTYLEASIA

Share:
On Key

Related Posts

WATCHA GONNA ดู

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอม ให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save