ตามรายงานหุ้นดังกล่าวนี้จะได้รับในช่วงสามปีข้างหน้า ซึ่งท้ายที่สุดแล้วการผลักดันสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท Mercedes จะเพิ่มขึ้นจาก 2.6% เป็น 20% ซึ่งในราคาปัจจุบันหุ้นมีมูลค่าสูงถึง 347 ล้านเหรียญสหรัฐโดยประมาณ ในทางกลับกัน Mercedes-Benz จะมอบ “technology packages” ให้กับแอสตันมาร์ติน ซึ่งจะประกอบไปด้วยเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังบางรุ่นตลอดจนซอฟต์แวร์, ระบบส่งกำลังสถาปัตยกรรม E/E, และส่วนประกอบอื่นๆ
โดย Lawrence Stroll ประธานบริหารของ Aston Martin กล่าวว่า “วันนี้เราก้าวไปอีกขั้นที่สำคัญเนื่องจากความร่วมมือระยะยาวของเรากับ Mercedes-Benz ก้าวไปอีกขั้นโดยพวกเขากลายเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ บริษัท และด้วยข้อตกลงที่ขยายออกไปใหม่นี้เราสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีระดับโลกเพื่อรองรับแผนการขยายผลิตภัณฑ์ในระยะยาวของเรา ซึ่งรวมถึงระบบส่งกำลังไฟฟ้าและระบบไฮบริด และความร่วมมือนี้ช่วยเสริมความเชื่อมั่นของเราในอนาคต”
ณ ปัจจุบัน Aston Martin ค่ายรถหรูอันดับต้นๆ ของโลก มีรายได้และกำไรไม่หรูอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นการร่วมมือกับ Mercedes-Benz ก็น่าจะช่วยให้แบรนด์นี้เข้าถึงการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ Aston Martin ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องแผนได้ไม่มากก็น้อย