ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาวงการแฟชั่นมุ่งความสนใจไปที่ Louis Vuitton x Nigo collection หลังจากที่ Virgil Abloh ผู้ดำรงตำแหน่ง Artistic Director of Menswear ของแบรนด์ Louis Vuitton ได้ประกาศเรื่องการร่วมงานกับ Nigo ดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ Human Made และก่อนหน้านี้ได้ก่อตั้งแบรนด์ A Bathing Ape (Bape) รวมถึงเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Billionaire Boys Club นอกจากนั้นอยู่เบื้องหลังแบรนด์ระดับโลกมากมาย โดยเขาถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกสตรีทแวร์สมัยใหม่จากผลงานที่ผ่านมา
โปรเจกต์นี้ถือเป็นการร่วมงานที่เหนือความคาดหมายของผู้คนในวงการรวมถึงแฟนๆผลงานของทั้งคู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทาง Virgil Abloh ได้เปิดเผย Lookbook อย่างเป็นทางการของ LV² หรือ Louis Vuitton Squared Collection ให้สาธารณชนได้รับชมกันเพราะด้วยชื่อเสียงที่ผ่านมาของทั้งคู่ที่มีความโดดเด่นในด้านการออกแบบเสื้อผ้าแนวสตรีทแวร์ทำให้ผู้คนคาดเดาว่าเสื้อผ้าจากการร่วมงานครั้งนี้จะไปในทิศทางนั้น แต่ไอเท็มต่างๆในคอลเล็คชั่นนี้เกือบทั้งหมดกลับมีสไตล์เทเลอริ่งเป็นหลักผสมกับไปเท็มแนวสตรีทแวร์ต่างๆ เช่น Bomber Jacket หรือเดนิมที่ผ่านการทอลายต่างๆเข้าชุดกัน
งานออกแบบดังที่กล่าวมานั้นมีที่มาและเป็นความตั้งใจของ Virgil Abloh และ Nigo มาตั้งแต่ต้น โดยเขาได้เปิดเผยเรื่องราวจุดเริ่มต้นของการร่วมงานและแนวคิดที่ใช้ในการออกแบบไว้ในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Vogue ซึ่งเรายกบางส่วนมาให้อ่านกัน
คุณรู้จักกับ Nigo ได้อย่างไร?
ผมเจอเขาครั้งแรกเมื่อ 15 ปี ก่อนที่ญี่ปุ่น เขาได้พาผมไปดูแบรนด์ของเขา A Bathing Ape และได้เล่าถึงที่มาที่ไปของแบรนด์ รวมถึงว่าเขาได้สร้างมันขึ้นมาอย่างไรอีกด้วย เรียกว่าเขาเป็นที่ปรึกษาในเรื่องแฟชั่นคนแรกๆของผม ถ้าให้เปรียบเทียบเขาก็เหมือน Yves Saint Laurent และ Balenciaga ของวงการแฟชั่น แต่ในวงการสตรีทแฟชั่นก็ต้องเป็น Nigo เป็น James Jebbia แห่ง Supreme นี่แหละ
แล้วการทำงานกับ Nigo เป็นอย่างไรบ้าง?
เราเริ่มจากไปที่สตูดิโอของเขาที่โตเกียว ซึ่งเป็นที่ทำการของแบรนด์ Human Made ภายในตึกเดียวเขาทำทั้งดีไซน์ ถ่าย Lookbook และผลิตเสื้อผ้า มันเป็นเรื่องที่ผมประทับใจมากๆ หลังจากนั้นก็ได้พบกันเรื่อยๆที่สตูดิโอของผมที่ปารีส จนเราได้มีความเห็นที่ตรงกันถึงจุดประสงค์ของคอลเล็คชั่นนี้ จนได้ว่า“Let’s not do the expected.” อะไรที่คนคาดหวังจากเรา 2 คน พวกเราจะไม่ทำ เราจะทำสิ่งที่ตรงกันข้ามทั้งหมด เพื่อแสดงให้เห็นว่าสตรีทแวร์นี้มันไม่มีขอบเขต
มาพูดถึงคอลแลปนี้กัน ทำไมถึงได้นำลาย LV Damier Check มาใช้?
ผมคิดว่ามันเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว มันเริ่มมาจากความหลงใหลในห้องเสื้อชื่อดังของอังกฤษอย่างSavile Row ที่เราได้แรงบันดาลใจในส่วนของ Silhouette แต่ในส่วนของเนื้อผ้านั้น เราควรจะใช้อะไรที่เป็นเอกลักษณ์ของเราเอง
ถ้าพูดถึงญี่ปุ่น Denim หรือผ้ายีนส์ก็เป็นเรื่องแรกๆที่นึกถึงอยู่แล้ว ในคอลเล็คชั่นนี้คุณก็ทำมันออกมาได้ดีมากๆอีกด้วย
เป็นที่รู้กันว่าญี่ปุ่นนั้นมีความหลงใหลในความเป็น American อยู่แล้ว แถมเจ้าตัว Nigo เองก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนักสะสมตัวจริง ในคอลเล็คชั่นส่วนตัวของเขาก็มีทั้ง Levi’s และ Lee ตัวแรกๆที่ผลิตมาบนโลกนี้และ Nigo ก็ยังไปเคยไปซื้อสูทที่ Savile Row ด้วยตัวเอง การที่ได้นำเสื้อผ้าที่มีประวัติแบบนี้มาดีไซน์ใหม่ และมี Nigo มาช่วยด้วย ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่ใช่ที่สุดแล้ว
แล้วแรงบันดาลใจดีไซน์ของกระเป๋าล่ะครับ?
Nigo เขามีแบรนด์ Icecream ที่มีดีไซน์เป็นสีหยด ผมเลยนำเอามันมารวมกับซิกเนเจอร์ของ Louis Vuitton
และเราก็เห็น Bomber Jacket ที่มาพร้อมกับลายภูเขาไฟฟูจิด้านหลังด้วย
ที่ Louis Vuitton ผมต้องการจะทำคอลเล็คชั่นให้ครอบคลุมไปตั้งแต่พ่อถึงลูก โดยเสื้อผ้าส่วนมากจะออกค่อนข้างผู้ใหญ่ แต่ก็ยังแฝงดีเทลความสนุกแบบเด็กๆเข้าไปด้วย
เมื่อพูดถึงสัญลักษณ์ LV² มันจะถูกใช้สำหรับคุณ และ Nigo เท่านั้นหรือว่ามันคือโลโก้ใหม่สำหรับการร่วมงานกับคนอื่นๆด้วยในอนาคตครับ?
มันเป็นบางสิ่งที่มีไว้เฉพาะผมและ Nigo เท่านั้น มันเหมือนกับเป็นกลุ่มแรปเปอร์ใหม่น่ะ Nigo มาพร้อมกับชื่อของ LV² พวกเราเคยอยู่ข้างนอกและออกความเห็นและปรับสไตล์ของมัน แต่ตอนนี้พวกเรากำลังดีไซน์และกำหนดสไตล์ของมันครับ
ในเดือนสิงหาคมนี้ไอเท็มต่างๆจากคอลเล็คชั่น LV² wave ที่ 2 จะเข้ามาวางจำหน่ายแบบเต็มคอนเซ็ปต์ที่ร้าน Louis Vuitton สาขาสยาม พารากอน โดยยังคงเต็มไปด้วยไอเท็มที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไลน์เครื่องหนังที่มี กระเป๋าสะพาย Mini Soft Trunk, กระเป๋าเป้ Backpack และกระเป๋า Amazone Sling Bag ที่ได้รับการรังสรรค์ด้วยลวดลายพิเศษสำหรับคอลเล็คชั่น LV² ซึ่ง Nigo ได้ทำการตีความใหม่ให้กับกระเป๋าทรงคลาสสิคของ Louis Vuitton
นอกจากนี้ยังมีไอเท็มที่เป็นเสื้อผ้าเรดี้ทูแวร์ที่น่าสนใจมาเพิ่มเติมอีกหลายรุ่น อาทิ สูทสไตล์ Mod ที่ปรับรูปแบบและขยายลวดลายตารางหมากรุกดามิเยร์อันเป็นเอกลักษณ์ของหลุยส์ วิตตอง หรือการนำโมทีฟมาเป็นลูกเล่นให้เห็นในเสื้อโค้ทที่บุด้านในด้วยลายตาราง เช่นเดียวกับแจ็คเก็ตสไตล์ Parka ที่นำเสนอกลิ่นอายแบบสปอร์ต พร้อมตกแต่งด้วยโลโก้ LV²
ไฮไลท์ที่สำคัญอีกอย่างของคอลเล็คชั่นนี้คือไอเท็มจากผ้าเดนิมที่ตัดเย็บสไตล์ Patchwork ด้วยการผสมผสานของลวดลายโมโนแกรมของหลุยส์ วิตตอง และลวดลายหมากรุกดามิเยร์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ในส่วนของกระเป๋าสตางค์และแอ็คเซสซอรี่ซึ่งโดดเด่นด้วยลวดลายรูปวาดสัตว์ต่างๆที่เป็นสัญลักษณ์ในงานออกแบบของ Nigo ที่คุ้นเคยกันดีก็มีเข้ามาด้วยหลายชิ้น
รอติดตามรีวิวฉบับเต็มจากทาง Soul4Street ได้เร็วๆนี้