Jonathan Anderson ดีไซน์เนอร์แห่งยุคผู้กำหนดทิศทางแฟชั่นโลก

หากจะพูดถึงดีไซน์เนอร์ระดับท็อปที่มีอิทธิพลมากที่สุดในศตวรรษนี้ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ Jonathan Anderson ชายผู้หลงใหลในงานฝีมือ โดดเด่นในเรื่องการทำเสื้อผ้าที่ไร้ขอบเขตทางเพศ ครีเอทีฟแบบสุดโต่งแต่จับต้องได้ จนสามารถผสมผสานศิลปะเข้ากับแฟชั่นอย่างประณีต สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับโลกแฟชั่น ผ่านตัวตนและผลงานที่ไม่มีใครเหมือน

ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของ ‘Jonathan William Anderson’ (โจนาธาน วิลเลียม แอนเดอร์สัน) เกิดและเติบโตที่เมือง Magherafelt (มาเกอราเฟลต์) ประเทศไอร์แลนด์เหนือ เขาเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ คุณแม่ของเขาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ส่วนคุณพ่ออดีตนักรักบี้กัปตันทีมชาติไอร์แลนด์

ช่วงแรกแอนเดอร์สันมีความฝันที่จะเป็นนักแสดง เขาได้ย้ายไป Washington, D.C. เพื่อศึกษาด้านการแสดงที่ Juilliard School แต่ในระหว่างนั้น เขากลับค้นพบความหลงใหลในการออกแบบเครื่องแต่งกาย (Costume Design) ซึ่งนำพาเขาเข้าสู่โลกของแฟชั่นอย่างเต็มตัว

เมื่อพบสิ่งที่เขาสนใจใหม่และแน่วแน่กับการออกแบบแล้ว เขาตัดสินใจย้ายกลับมายังสหราชอาณาจักร และเข้าศึกษาต่อด้านแฟชั่นที่ London College of Fashion โดยสำเร็จการศึกษาในปี 2005 แต่ในขณะที่แอนเดอร์สันกำลังเรียนอยู่ เขาก็เริ่มทำงานวงการแฟชั่นในตำแหน่ง Visual Merchandiser ให้กับแบรนด์แฟชั่นสุดหรูจากประเทศอิตาลีอย่าง Prada ภายใต้การดูแลของ Manuela Pavesi มือขวาคนสำคัญของ Miuccia Prada

หลังจากสะสมประสบการณ์การทำงานกว่า 2 ปี แอนเดอร์สันก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้าชื่อเดียวตัวกับตัวเขาเอง JW Anderson ในปี 2008 ถึงแม้จะเป็นเสื้อผ้าผู้ชายแต่ก็ได้รับอิทธิพลจากเสื้อผ้าผู้หญิง บวกกับแนวคิดการท้าทายเรื่องเพศสภาพในการแต่งกายที่เขายึดมั่น ทำให้ JW Anderson โดดเด่นในเรื่องรูปทรงที่พลิ้วไหว แพทเทิร์นสะดุดตา และการผสมผสานวัสดุที่หลากหลาย ทำให้แบรนด์ของเขากลายเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว (ภายหลังเปิดตัวคอลเลกชันเสื้อผ้าผู้หญิงตามมาในปี 2010)

JW Anderson, MAN show at London Fashion Week (2009)

เข้าสู่ปี 2009 JW Anderson ได้เข้าร่วม The ‘Man’ Show แฟชันโชว์สำหรับดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ จัดขึ้นในช่วงเดียวกับ London Fashion Week โดยร่วมรันเวย์กับ Christopher Shannon, James Long, Topman ซึ่งในภายหลังแอนเดอร์สันได้ทำงานร่วมกับ Topman ในปี 2012 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เขารับรางวัลแรกในชีวิต British Fashion Award for Emerging Talent in Ready-to-Wear

Jonathan Anderson, Creative Director of Loewe (2013)

หลังจากที่สร้างชื่อกับตัวเองและแบรนด์ ในปี 2013 LVMH เครือแบรนด์ลักชูอันดับ 1 ของโลก ได้เข้ามาลงทุนกับ JW Anderson พร้อมทาบทาม Jonathan Anderson ไปรับหน้าที่ Creative Director ของแบรนด์เก่าแก่สัญชาติสเปนในเครืออย่าง Loewe นี่คือจุดเริ่มต้นของความรุ่งโรจน์ที่แท้จริงของแอนเดอร์สัน

Loewe Puzzle Bag

เขาได้พลิกโฉม Loewe จากแบรนด์ที่หลายคนมองว่าเชย ตกยุค ผ่านดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และการดึงจุดแข็งเดิมของแบรนด์อย่าง ‘เครื่องหนัง’ เช่น Puzzle Bag, Hammock Bag, Flamenco bag และดีไซน์ที่เรียกได้ว่าครีเอทีฟแบบหลุดโลก ไม่ว่าจะเป็น Pixel Hoodies, Dog-printed A-line Dress, Grass Coat

ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่คุมหัวเรือให้กับ Loewe แอนเดอร์สันไม่เคยหยุดความครีเอทีฟและเสียตัวตนของตัวเอง เขาคอยสร้างสีสัน ความสนุกให้กับวงการแฟชั่นอยู่ตลอด พร้อมกันนี้เขายังรัน JW Anderson ไปพร้อมกันทุกซีซัน เท่านั้นยังไม่พอ เขายังเลือกทำ Collaboration อย่างชาญฉลาดมากมาย ทั้งกับ Converse, Uniqlo ที่ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ยังออกมาเรื่อย ๆ ทุกซีซัน

การร่วมงานกับเหล่าสตาร์ชื่อดังแอนเดอร์สันก็ทำมาแล้ว เขาได้ออกแบบชุดให้กับ Beyoncé สำหรับ Renaissance World Tour, Rihanna สำหรับ Super Bowl LVII Halftime Show และลุคพรมแดงของเซเลบที่น่าจดจำอีกมากมาย

แอนเดอร์สันยังได้รับโอกาสกลับไปทำเกี่ยวกับสิ่งที่เขาชอบ นั่นคือการออกแบบเครื่องแต่งกายสำหรับภาพยนตร์ของผู้กำกับ Luca Guadagnino ทั้งในเรื่อง ‘Challengers’ และ ‘Queer’ จนเกิดเป็นคอลเลกชันพิเศษทั้งกับแบรนด์ Loewe และ JW Anderson ซึ่งสำหรับเรื่องหลังเขาได้ให้สัมภาษณ์กับ Vogue ไว้ว่า

“I Felt Like a Student Again”

Jonathan Anderson & Luca Guadagnino

การออกแบบเสื้อผ้าสำหรับภาพยนตร์ ยิ่งเป็นลุค 1950s Maxican ยิ่งทำให้เขาสนุก และย้อนวันวานไปเมื่อสมัยเรียน เราจะไม่ค่อยได้เห็นเสื้อผ้าสไตล์ในภาพยนตร์จากคอลเลกชันของแบรนด์ไหนที่เขาทำเลย สำหรับใครที่ยังไม่เคยดูทั้ง 2 เรื่อง เราแนะนำทั้งในแง่ภาพยนตร์และแฟชั่น รับรองไม่ผิดหวัง

หลังจากมีข่าวลือมาเนือง ๆ เมื่อต้นปี 2025 ที่ผ่านมา Jonathan Anderson ประกาศลาออกจาก Loewe หลังจากร่วมงานกันมายาวนานถึง 11 ปี ถือเป็นข่าวช็อกและเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของวงการแฟชั่น เพราะหลังจากนั้นไม่นานทาง Dior ก็ได้ประกาศว่าแอนเดอร์สันจะรับหน้าที่ Creative Director คนใหม่ โดยดูแลทั้งไลน์เสื้อผ้าผู้ชาย, ผู้หญิง และโอต์ กูตูร์ (Haute Couture)

Jonathan Anderson, Creative Director of Dior (2025)

ผลงานแรกของแอนเดอร์สันกับ Dior คือคอลเลกชัน Spring-Summer 2026 Menswear, Paris Fashion Week เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยแฟน ๆ ต่างรอคอยการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้มีผู้เข้าชมไลฟ์สตรีมแฟชั่นโชว์มีจำนวนถึง 200 ล้านวิว

คอนเซ็ปต์คือการบรรจบกันระหว่างอดีตและปัจจุบัน หยิบดีเทลจากอาร์ไคฟ์ของเมซง มาชนกับความครีเอทีฟ ความสนุกสนาน ความขบถและศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของแอนเดอร์สัน โดยเราจะเห็นได้จากไอเทมอย่าง Bar Jacket, Layered Cargo Shorts, Dior Book Tote นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยการใช้พาเลตต์สีพาสเทล สะท้อนถึงสีสันที่แอนเดอร์สันยังคงไม่ทิ้งไปไหน โดยสามารถชมทุกดีเทลของคอลเลกชันนี้ได้ที่ (https://www.dior.com/th_th/fashion/แฟชั่นผู้ชาย/shows/แฟชั่นโชว์-summer-2026) หรือกดดูคลิปเบื้องหลังด้านล่างได้เลย

Jonathan Anderson ไม่ได้มาแค่เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เขากำลังเปลี่ยนวิธีคิดของคนทั้งวงการแฟชั่น Dior กำลังจะกลายเป็นเวทีใหม่ที่ศิลปะกับแฟชั่นจะหลอมรวมกันอย่างไร้ขีดจำกัด น่าติดตามคอลเลกชันต่อ ๆ ไปของแอนเดอร์สันว่าเขาจะสร้างผลงาน Masterpiece ชิ้นไหนให้เราได้ชมกันอีก เพราะในตอนนี้เขาถือว่าเป็นดีไซน์เนอร์แห่งยุคผู้กำหนดทิศทางแฟชั่นโลกปัจจุบันและอนาคตเรียบร้อยแล้ว

Source: Jonathan Anderson, JW Anderson, Loewe, Dior, THE CUT, Vogue, GQ, Getty Image, HYPEBEAST, WWD, The New York Times, The Fashionisto, lucire, L’OFFICIEL, HARPER’S BAZAAR, W Magazine

Share:
On Key

Related Posts

บอมบ์งาน เส้นแบ่งระหว่างเสรีภาพ หรือเป็นแค่การย่ำยีผลงานของผู้อื่น?

ถึงแม้กราฟฟิตี้จะกำเนิดขึ้นบนความต่อต้านอำนาจ และท้าทายระบบที่มีอยู่ในสังคม แต่สิ่งเหล่านี้ยังคงอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์

WATCHA GONNA ดู

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอม ให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save