ทำความรู้จัก “Jay Park” ศิลปินเอเชียคนล่าสุดแห่งค่าย Roc Nation !!

ชื่อ Park Jaebeom อาจจะเป็นชื่อที่แฟนๆ K-Pop รู้จักผู้ชายคนนี้ แต่วันนี้เขาเป็นที่รู้จักเป็นวงกว้างในชื่อ Jay Park ดาวรุ่งคนล่าสุดจากฝั่งเอเชีย หลังจาก 8 ปีภายนอกร่มเงา K-Pop เขาได้สร้างสรรค์ผลงาน 4 อัลบั้ม, Digital Single อีกนับไม่ถ้วน รวมไปถึงโปรเจ็กต์ล่าสุดในรายการ Show Me The Money เรียลลิตี้สายแร็ปที่รันวงการฮิปฮอปเกาหลีพร้อมด้วย Rap Star อีกคับคั่ง

ไปทำความรู้จักผู้ชายคนนี้ผ่านทางบทสัมภาษณ์ของ Dazed ระหว่าง AOMG Tour ที่ลอนดอน ซึ่งตอกย้ำความสำเร็จอีกขั้นของค่าย และตัวศิลปินซึ่งดำรงตำแหน่ง CEO

https://instagram.com/p/Begt1VOlYYL/?utm_source=ig_embed

ปาร์ค แจบอม เกิดและใช้ชีวิตวัยเด็กที่ เมือง Seattle รัฐ Washington ซึ่งเป็นเมืองที่เด็กหนุ่มได้รู้จัก และตกหลุมรักในวัฒนธรรมฮิปฮอป โดยเฉพาะการเต้น B-Boy ก่อนที่จะเริ่มสร้างชื่อให้ตัวเองภายใต้ JYP Entertainment ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้

 

“ในตอนสุดท้าย มันก็เป็นเรื่องของคุณภาพในความมนุษย์  คุณไม่สามารถจะเอาเงินทอง หรือชื่อเสียงไปกับคุณได้ตอนตายหรอกนะ มันไม่มีความหมายอะไรเลย”

 

แร็ปเปอร์หนุ่มพูดในขณะบนตัวเขาก็ไม่มีเครื่องประดับใดๆ มีแค่ Bomber Jacket ลาย I NEED A CHA CHA BEAT ซึ่งสื่อถึงผลงานของ Cha Cha Malone โปรดิวเซอร์และคู่หูของเจย์ตั้งแต่ปี 2010 หลังจากที่แจบอมออกจากบอยแบนด์ 2PM ทั้งสองคนเริ่มทำงานด้วยกัน และเดินหน้าต่อในฐานะศิลปินเดี่ยวพร้อมชื่อ Jay Park อย่างเต็มตัว

 

“หลายๆคนมีความสุขที่จะได้ตัดสินคนอื่นเพราะว่ามันง่าย เช่นว่า คนนี้เป็นแร็ปเปอร์ ก็คงทำได้แค่นั้นแหละ ทำโชว์ได้แค่แนวนั้น ผมอยากที่จะทำทุกอย่างเลย ผมอยากจะรู้สึกสบายใจที่ได้เป็นตัวเอง”

 

Jay Park เป็นได้ทั้งนักร้องและนักแร็ป และเขาก็ได้ใช้ความสามารถของเขา ขัดเกลามาอยู่ในสไตล์เพลงแบบ R&B และในปี 2017 เขาก็ได้รับรางวัล Musician of the Year จากงาน Korean Music Awards และในเดือนกรกฎาคม เจย์ปาร์คก็ได้กลายเป็นศิลปิน Asian-American คนแรกที่ได้เซ็นต์กับค่ายเพลง Hip-Hop ระดับโลกอย่าง Roc Nation โดยตัวเขาเองก็ได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้สั้นๆว่า “มันคือชัยชนะสำหรับเกาหลี, สำหรับเอเชี่ยนอเมริกัน สำหรับกลุ่มคนที่ถูกมองว่าเป็นรอง และถูกเมิน”

จุดเริ่มต้นของ Jay Park สู่ก้าวแรกใน Roc Nation เริ่มมาจากการท้าทายค่านิยมเดิมๆในวงการเพลงเกาหลี โดยเจย์ได้เล่าเรื่องที่เขาได้เจอคนจาก TIDAL เป็นครั้งแรก

 

“มีคนจาก TIDAL มาดูโชว์ของเราที่ New York ตอนปี 2016 ผมก็เดาเอาว่าเขาน่าจะคาดหวังอารมณ์แบบ K-Pop แต่ว่าพอเขาเจอพวกเราที่โชว์สไตล์ R&B และ Hip-Hop เขาก็คงประหลาดใจ พวกเขาติดต่อเข้ามาแล้วบอกประมาณว่า เขาอยากจะร่วมงานกับผมนะ อยากจะพาพวกเราไปร่วมกับ TIDAL และ Roc Nation และดีลนั้นก็นำพาไปสู่ดีลที่ผมได้เข้าร่วมในค่าย

 

 

“ผมไม่ใช่พวกที่จะตะลึงอะไรง่ายๆนะ แต่ว่าผมเป็นแฟนคลับ JAY Z ตั้งแต่เกรด 4 ได้ และตอนนี้ผมได้เป็นส่วนหนึ่งของ Roc Nation มันบ้าสุดๆเลยล่ะ”

 

https://www.instagram.com/p/BeenmDXFIVe/?utm_source=ig_embed

เจย์ได้เจอกับ JAY Z และ Beyonce ในปี 2018 ซึ่งดูจากรูปแล้ว ณ ตอนนั้นเขาคงเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลกเลยล่ะ เขายังได้พูดชื่นชมทั้งสองคนด้วยว่า “นอกจากที่ผมเป็นแฟนเพลงเจย์ซีแล้ว ผมยังตกหลุมรัก Beyonce ตอนช่วง High school ด้วย ผมชอบความเป็นศิลปินของทั้งสองคน” และพอถามถึงเรื่องอัลบั้ม เขาก็แง้มๆมาประมาณว่า

“หวังว่าจะเป็นช่วงซัมเมอร์นี้”

และพอถามเกี่ยวกับอัลบั้มว่าจะเป็น Hip-Hop หรือ R&B

“มันจะรวมๆกันแหละครับ และมันจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เรากำลังจัดการภาพรวมอยู่ แต่ว่าเพลงตอนนี้เสร็จหมดแล้วล่ะ”

แต่ถึงแม้จะประสบความสำเร็จในจุดที่เรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จจริงๆแล้ว ทั้งหมดนั้นก็ไม่ได้หยุดยั้ง Jay Park ให้ก้าวต่อไปข้างหน้า เขาก็ได้บอกว่าจริงๆแล้วแรงบันดาลใจ และแรงกระตุ้นเบื้องหลังทั้งหมดนี้มันไม่ใช่เรื่องของการไขว่คว้าหาความสำเร็จ

 

“มันไม่เกี่ยวกับการอยากจะมีชื่อเสียงเลยนะ เป้าหมายของผมตอนแรกคือการสนองความหลงใหลในเรื่องการเต้น, ฮิปฮอป และ R&B แต่ผมก็อยากที่จะซัพพอร์ตเพื่อนและครอบครัวด้วย อยากที่จะสร้างโอกาสให้ตัวเอง และคนอื่นๆที่ผมเชื่อในตัวพวกเขา ความคิดแบบนี้มันทำให้ผมรู้สึกว่าทุกอย่างที่ทำมันมีความหมาย

 

“ผมจะยังทำมันต่อไปอีกในสเกลที่ใหญ่ขึ้น ถ้าเกิดมันเป็นแบบว่า ผมทำมันสำเร็จและตอนนี้ผมนั่งกินล็อบส์เตอร์กับสเต็ก แค่ผมคนเดียว นั่นก็ไม่ใช่เป้าหมายของผม ถ้าผมจะซื้อสร้อยทอง ผมจะซื้อทั้งหมด 19 เส้นให้กับทีมของผมด้วย การที่ผมส่งต่อพลังบวกให้กับพวกเขา จะทำให้ผมได้รับพลังบวกกลับมาด้วย และพลังบวกนี่แหละที่จะเปลี่ยนโลก”

 

เป้าหมายของ Jay ตอนนี้ก็คือการโฟกัสกับการ Roc Nation แต่ก็ยังมีโปรเจ็กต์ที่น่าสนใจอีกอย่างคือการร่วมรายการ Show Me The Money โปรเจ็กต์ที่ตอกย้ำความนิยมของดนตรีของดนตรีแร็ปในเกาหลีใต้ ซึ่งทาง AOMG ค่ายที่ Jay Park และ Simon Dominic แร็ปเปอร์ชาวเกาหลีอีกคนร่วมก่อตั้งก็ได้จับมือกับ CJ E&M พันธมิตรยักษ์ใหญ่ที่เป็นเจ้าของช่อง Mnet ผู้ผลิตรายการ SMTM แต่ในฐานะหัวหน้า #Teamjaypark เขาก็ได้ให้มุมมองต่อรายการไว้อย่างน่าสนใจ

 

“แน่นอนครับว่ามันเป็นอะไรที่เปิดโลกเลย เมื่อก่อนมันก็จะมีแค่ Boy Band กับ Girl Group พอมีอันนี้เข้ามา ก็จะเป็นประโยชน์กับคนที่ทำเพลง แต่อีกด้านหนึ่งก็คือว่าด้วยความที่เกาหลีเป็นประเทศเล็ก เพราะงั้นอะไรเทรนด์ที่มาในประเทศก็จะมาไว แล้วก็ไปไวด้วย รากฐานของฮิปฮอปในเกาหลียังไม่แน่นพอ หลายๆคนอาจจะพอว่าชอบ Hip-Hop แต่จริงๆอาจจะแค่ชอบ Show Me The Money ก็ได้ ซึ่งผมว่ายังจะมีอะไรต้องทำอีกเยอะถ้าจะทำให้วัฒนธรรมมันเฟื่องฟูกว่านี้ ก็ต้องดูกันต่อไปครับ”

 

สำหรับ Jay Park ดนตรี, จุดยืนในวัฒนธรรม และค่ายเพลงของเขาคือทุกๆอย่าง “365 วัน, 24 ชั่วโมงต่อสัปดาห์” คือหัวใจในการทำงานของเขา และเขาก็ได้บอกว่าการทำงานลักษณะนี้ทำให้เขาสามารถจัดการอะไรหลายๆอย่างพร้อมกันได้ดีขึ้น และเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เขามาถึงจุดนี้ได้ในเวลาเพียงแค่ 8 ปี ซึ่งถือว่าไม่นานเลยสำหรับเจย์

8 ปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำให้แร็ปเปอร์วัย 31 ปีคนนี้อยากจะหยุด หรือว่าพอใจแต่อย่างใด Jay Park ปิดท้ายบทสัมภาษณ์ด้วยแนวคิดคมๆ ว่าด้วยเรื่องปรัชญาในการใช้ชีวิตของเขา

 

“เวลาและตัวเลขนั้นมีอยู่เพราะว่ามนุษย์สร้างมันขึ้นมา ในมุมมองของสัตว์ผมไม่คิดว่าพวกมันจะแบบ “เอ้ยเราอายุ 31 แล้วนะ ต้องทำอะไรซักอย่างแล้วแหละ” มันแน่อยู่แล้วว่าผมแก่ขึ้น แต่ผมเลือกจะโยนคอนเซ็ปต์ของเวลาทิ้งไป ผมมองชีวิตในแบบที่เรียบง่าย การเกิดขึ้น และก็ ความตาย และผมก็อยากจะให้ชีวิตของผม เพื่อสร้างตำนานที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง”

 


Source: dazeddigital.com

 

Share:
On Key

Related Posts

WATCHA GONNA ดู

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอม ให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save