Intro to F1 : Pit Area มีอะไร ทำไมแฟน F1 ถึงยอมซื้อตั๋วราคาแพงเพื่อเข้าร่วม | EP.06

Pit Area มีอะไร ทำไมแฟน F1 ถึงยอมซื้อตั๋วราคาแพงเพื่อให้ได้ร่วมกิจกรรม Pit Lane Walk

ถ้างั้นเราก็ต้องมารู้กันก่อนว่า Pit Lane Walk คืออะไร

Pit Lane Walk คือกิจกรรมที่ทาง F1 เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เข้าไปใกล้ชิดกับรถแข่งและโรงรถของแต่ละทีม เรียกได้ว่าห่างในระยะที่มือเอื้อมถึง ซึ่งสามารถสังเกตรายละเอียดชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถแข่ง ได้เห็นทีมช่างกำลังเตรียมอุปกรณ์หรือแม้แต่โอกาสที่จะได้เห็นแต่ละทีมซ้อมการเปลี่ยนยางที่รวดเร็ว แม่นยำของทีมช่างมากกว่า 20 ชีวิต

Pit Lane Walk
Image Source from: Circuit De Barcelona Catalunya

รวมไปถึงถ้าใครโชคดีก็จะได้พบกับนักแข่งหรือหัวหน้าทีมขณะที่พวกเขาเดินเข้าออก Paddock มาทักทายแฟน ๆ โอกาสทองในการขอลายเซ็นหรือรับของที่ระลึกจากทีม และสุดท้ายมันคือโอกาสถ่ายภาพที่ไม่เหมือนใคร โดยมีฉากหลังเป็นป้ายชื่อทีม โรงรถ ที่เป็นสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของการแข่งขันในแต่ละสนาม

นอกจากพวกเครื่องมือต่าง ๆ และรถแข่งที่เราสามารถมองเห็นได้อยู่แล้ว Pit Area ยังมีใครอีกบ้าง เพื่อความเข้าใจง่ายเราจะแบ่งเป็นทีมย่อยให้แล้วกัน

Wheel Change Crew
Image Source from: The New York Times

ทีมงานเปลี่ยนยาง (Wheel Change Crew) ทีมนี้จะเป็นทีมที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุด โดยแต่ละล้อของรถแข่งจะมีผู้ดูแล 3 คน ประกอบไปด้วย ผู้ดูแลปืนลม (Wheel Gunner) สำหรับคลายน็อตและขันน็อตเข้าใหม่สำหรับแต่ละล้อ จำนวน 1 คน / ตำแหน่งถอดล้อ (Tyre Off) 1 คน ซึ่งหน้าที่คือดึงล้อออกเมื่อน็อตล้อคลายตัวเรียบร้อยแล้ว / ตำแหน่งใส่ล้อ (Tyre On) 1 คน ผู้ที่จะนำล้อที่ใส่ยางใหม่เรียบร้อยแล้วมาใส่ให้รถเมื่อเข้า Pit Stop มาเปลี่ยนยาง โดยรวมช่างทั้งหมดสำหรับทีมเปลี่ยนยางก็คือ 12 คน ประจำอยู่ทุก ๆ ล้อของรถแข่ง

Jack Operators Crew
Image Source from: Motor Sport Tickets

ทีมยกรถ (Jack Operators Crew) หน้าที่ของทีมนี้คือการยกรถแข่งให้ลอยขึ้นเพื่อให้ทีมเปลี่ยนยางสามารถเปลี่ยนได้ มักจะประกอบไปด้วยทีมงาน 2-4 คน โดยจะมีตำแหน่งที่ยกรถด้านหน้าและยกรถด้านหลังแยกกัน หลัก ๆ แล้วในช่วงเวลาทำงานเมื่อรถเข้ามาใน Pit Stop จะใช้แค่ด้านหน้า 1 คนและด้านหลัง 1 คน แต่จะมีสำรองไว้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอีกด้านละ 1 คน

Stabilisation & Adjustment Crew
Image Source from: Motor Sport Tickets

ทีมควบคุมและปรับแต่งส่วนประกอบอื่นของรถแข่ง (Stabilisation & Adjustment Crew) ทีมนี้จะประกอบไปด้วย ตำแหน่งผู้ประคองรถ 2 คน มักจะยืนอยู่ตรงช่วงกลางของรถ ระหว่างทีมเปลี่ยนยางหน้าและหลัง เพื่อคอยช่วยจับรถให้อยู่นิ่งในขณะลอยตัวเพื่อเปลี่ยนยาง / ผู้ปรับปีกหน้า 1-2 คน หน้าที่ของตำแหน่งนี้ก็ตามชื่อเลย คือคอยปรับปีกหน้าของรถตามคำสั่งของวิศวกร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของรถให้ดีที่สุดตามหลักอากาศพลศาสตร์ อีกตำแหน่งในทีมนี้ซึ่งมักจะยืนห่างจากรถแข่งออกไปนิดนึงคือ ผู้สตาร์ทเครื่องยนต์ 1 คน ที่จะเตรียมพร้อมอยู่กับอุปกรณ์สตาร์ทรถในกรณีที่รถแข่งเครื่องดับขึ้นมาในขณะเข้า Pit Stop และตำแหน่งสุดท้ายสำหรับทีมนี้คือ นักดับเพลิง 1-2 คน ผู้ที่จะยืนรอพร้อมกับถังดับเพลิงในกรณีที่เกิดไฟไหม้ แต่ในปัจจุบันเหตุการณ์ไฟไหม้ไม่ค่อยเกิดขึ้นแล้วเนื่องจากทาง FIA ได้ยกเลิกการเติมน้ำมันระหว่างเข้า Pit Stop ออกไปเรียบร้อยเพื่อความปลอดภัย

Pit Stop Controller
Image Source from: Redbull

ทีมงานควบคุมการหยุดและปล่อยรถ (Pit Stop Controller) จำนวน 1 คน ที่จะทำงานประสานกับทุกฝ่าย รวมถึงระบบเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เพื่อคอยควบคุมระบบสัญญาณไฟในการหยุดหรือปล่อยรถออกจาก Pit Stop เมื่อกระบวนการเปลี่ยนยางหรือปรับแต่งชิ้นส่วนลดสิ้นสุดลงแล้ว

นอกจากทีมงานที่ทำหน้าที่กับรถแข่งโดยตรงในเวลาที่รถแข่งเข้ามาใน Pit Stop แล้ว ก็จะมีทีมงาน ที่ทำงานอยู่ส่วนอื่นใน Pit Area อีกด้วย ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ Pit Wall คือที่นั่งลักษณะคล้ายเพิงหมาแหงน มักจะอยู่บริเวณขอบสนามแข่งขัน โดยใน Pit Wall นี้ตำแหน่งที่จะนั่งประจำการอยู่ประกอบไปด้วย

Toto Wolff – Principal of Mercedes AMG Petronas F1 Team
Image Source from: Independent

ผู้นำสูงสุดของทีม (Team Principal) ผู้ที่คอยดูแลภาพรวมทุกอย่าง ตัดสินใจกลยุทธ์ที่สำคัญในการแข่งขันและเป็นตัวแทนของทีมในการสื่อสารต่าง ๆ กับนักข่าวและผู้จัดการแข่งขัน

Andy Stevenson – Sporting Director of the Aston Martin Formula One team
Image Source from: Aston Martin F1

ผู้อำนวยการด้านกีฬา (Sporting Director) มีหน้าที่ดูแลด้านกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ รวมไปถึงสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ FIA และคอยแจ้งให้นักแข่งรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนาม เช่น เหตุการณ์ธงสีต่าง ๆ หรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น

Hannah Schmitz – Chief Strategy Engineer at Red Bull Racing 
Image Source from: Motorsport

หัวหน้ากลยุทธ์ (Chief Strategist) จะคอยวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่เกิดขึ้นทั้งจากตัวรถแข่ง ตำแหน่งของคู่แข่ง สภาพอากาศ และคอยตัดสินใจในเรื่องของการใช้ยางหรือการที่รถแข่งจะต้องเข้า Pit Stop เมื่อไหร่

Laura Mueller – Race Engineer at Haas F1 Team
Image Source from: National Motorsport Academy

วิศวกรประจำรถ (Race Engineer) นี่คือตำแหน่งที่เรียกได้ว่าใกล้ชิดกับนักแข่งที่สุดในการแข่งขัน เพราะจะเป็นผู้ประสานงานหลักกับนักแข่งผ่านวิทยุ คอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการตั้งค่ารถ กลยุทธ์ที่ได้รับมาจากหัวหน้ากลยุทธ์ แจ้งเตือนสถานการณ์ในสนามให้กับนักแข่ง และที่สำคัญคือรองรับอารมณ์กับคำด่ามากมายจากนักแข่ง ที่มักจะเกิดขึ้นในเวลาที่สถานการณ์ของการแข่งไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด

นอกจาก Pit Lane, Pit Wall ก็จะมีส่วนของโรงรถ (Garage) ที่มีตำแหน่งหลักประจำการอยู่ ได้แก่

Ferrari Garage
Image Source from: Crash

วิศวกรสมรรถนะ (Performance Engineer) ซึ่งทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลทางเทคนิคของรถแข่งอย่างละเอียดมาก ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิจากส่วนต่าง ๆ ของรถ การสึกหรอของยาง การทำงานของเครื่องยนต์ เพื่อให้วิศวกรประจำรถ นำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการปรับปรุงสมรรถนะของรถขณะแข่งขัน

วิศวกรยาง (Tyre Engineer) จะมีหน้าที่โฟกัสเกี่ยวกับยางโดยเฉพาะ ทั้งแรงดัน อุณหภูมิ การสึกหรอ ความเหมาะสมของการใช้ยางแต่ละชนิดในสภาวะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

จากที่เล่ามาทั้งหมดถ้าเพื่อน ๆ ได้ดู F1 อยู่แล้วน่าจะพอเคยเห็นการทำงานของบุคคลเหล่านี้กันอยู่บ้าง แล้วกระบวนการการทำงานในเวลาที่รถแข่งเข้ามาใน Pit Lane มันมีขั้นตอนอย่างไร เราจะเล่าให้ฟังกันต่อคร่าว ๆ

อย่างแรกเมื่อนักแข่งได้สัญญาณเข้าสู่ Pit Lane นักแข่งต้องกดปุ่มที่พวงมาลัยทันทีเพื่อให้รถล็อกความเร็วให้อยู่ภายใต้ความเร็วตามกำหนดใน Pit Lane ซึ่งมักจะอยู่ที่ 60 หรือ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสนามที่แข่งขัน) หลังจากนั้นวิศวกรจะแจ้งเตือนตำแหน่งที่แม่นยำของการจอดรถ  ถ้าถามว่าเคยมีนักแข่งเข้า Pit Stop ผิดทีมไหม ตอบได้เลยว่ามี ไม่ว่าจะเป็น Jenson Button, Sebastian Vettel และแชมป์โลก 7 สมัยอย่าง Sir.Lewis Hamilton ก็เคยมาแล้ว

Pit Stop
Image Source from: McLaren

หลังจากรถแข่งจอดตามจุดที่กำหนดเรียบร้อยแล้ว ทีมงานก็เริ่มปฏิบัติการในทันที โดย Front Jack Man และ Rear Jack Man จะใช้แม่แรงยกรถขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อม ๆ กัน ทีมงาน Car Stabilisers จะประคองตัวรถไว้เพื่อความมั่นคง จากนั้นการดำเนินการหลักที่ใช้เวลาเพียง 2-3 วินาที ก็จะเกิดขึ้นพร้อมกันทุกจุด Wheel Gunner ทั้ง 4 คนจะคลายและขันน็อตล้ออย่างรวดเร็ว ขณะที่ Tyre Off ดึงยางเก่าออก และ Tyre On ใส่ยางใหม่เข้าไปในดุมล้อ หากมีคำสั่งจากวิศวกร Front Wing Adjusters ก็จะทำการปรับมุมปีกหน้าเพื่อเปลี่ยนสมดุลของรถ เมื่อทุกภารกิจเสร็จสิ้นทีมงานทุกคนจะยกมือขึ้นเพื่อยืนยันความพร้อมและ Pit Stop Controller จะสั่งให้ระบบไฟสัญญาณเปลี่ยนเป็นสีเขียว

จากนั้นแม่แรงจะถูกลดลงทันที และนักแข่งก็สามารถเร่งเครื่องยนต์และออกจาก Pit Stop ไปยัง Pit Lane เพื่อขับด้วยความเร็วกติกากำหนดไว้ จนกระทั่งผ่านเส้น Pit Lane Exit ก็จะกลับเข้าสู่สนามแข่งเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันอีกครั้ง กระบวนการทั้งหมดนี้จะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ซึ่งเป็นผลมาจากการฝึกซ้อมที่เข้มข้นและการประสานงานที่ยอดเยี่ยมของทีมงานหลายชีวิต

สถิติ Pit Stop ที่เร็วที่สุดนั้นอยู่ที่เท่าไหร่ เราได้หาข้อมูลมาให้แล้ว เรียกว่าสถิติที่เป็น World Record ของ Pit Stop เกิดขึ้นเมื่อปี 2019 ที่ Brazilian Grand Prix โดยทีม Red Bull Racing ด้วยเวลา 1.82 วินาที นับว่าเป็นการเปลี่ยนยางที่เร็วมากที่สุด และยังไม่มีใครสามารถทำได้ใกล้เคียงสถิตินี้อีกเลย หวังว่าข้อมูลทั้งหมดใน EP. นี้ จะทำให้เพื่อน ๆ เข้าใจโลกของ F1 มากขึ้นอีกนะครับ / สวัสดี

Share:
On Key

Related Posts

Tokyo Joshi Pro Wrestling (TJPW) สังเวียนมวยปล้ำของสาว ๆ ที่งดงามราวเจ้าหญิง

ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนมวยปล้ำหรือไม่ แต่หากคุณติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแวดวงบันเทิงของประเทศญี่ปุ่น คุณคงมีโอกาสได้เห็นภาพหรือคลิปไวรัลของสาว

WATCHA GONNA ดู

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอม ให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save