หากคุณเคยหลงใหลไปกับจังหวะอันนุ่มนวลและเย้ายวนใจของเพลง “Get Lucky” โดย Daft Punk นั่นแปลว่าคุณได้สัมผัสเวทมนตร์ของ Nile Rodgers ไปแล้ว ทั้งท่วงทำนองกีตาร์อันเป็นเอกลักษณ์คือผลงานของเขา ที่เหนือกาลเวลา จดจำได้ไม่รู้ลืม และไม่มีใครที่สามารถเลียนแบบได้ การแสดงครั้งแรก ณ กรุงเทพ ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยวง CHIC ที่ได้นำท่วงทำนองพร้อมจังหวะอันเป็นเอกลัษณ์ มาสู่กรุงเทพฯ เนรมิตดินแดนแห่งรอยยิ้มให้กลายเป็นสวรรค์ของคนรักดนตรี
ไม่เพียงแต่มาแสดงดนตรี—แต่เขาได้เปลี่ยนโฉมกรุงเทพฯ ในค่ำคืนนั้นให้เต็มเปี่ยมด้วยพลัง จิตวิญญาณ และความสนุกที่ พิสูจน์ให้เห็นว่าจังหวะไม่เคยจางหาย ตั้งแต่คอร์ดแรกดังขึ้น
นี่ไม่ใช่แค่ดนตรี แต่คือการเชื่อมต่อ ความสุข และจังหวะที่ทำให้ผู้ชมต้องขยับตัวตั้งแต่ต้นจนจบ
If you’ve ever lost yourself in the smooth, irresistible rhythm of Daft Punk’s “Get Lucky,” then you’ve already experienced the magic of Nile Rodgers. That iconic guitar riff? It’s pure Rodgers—timeless, unforgettable, and undeniably his. Earlier this year, the legendary hitmaker finally brought his groove to Bangkok, turning the Land of Smiles into a haven for music lovers.
Rodgers, the man behind countless funk and disco hits, didn’t just perform—he transformed the city. Together with CHIC, he delivered a night filled with energy, soul, and spontaneity, leaving no doubt that the groove never fades. As the first chords rang out, it wasn’t just about the music; it was about the connection, the joy, and the unshakable rhythm that had the crowd moving from start to finish.
“เราไม่ได้มาเพื่อเล่น—เรามาทำให้คุณเต้น” Nile Rodgers กล่าว
Rodgers กล่าวถึงแนวทางการแสดงสดของเขาที่เต็มไปด้วยความจริงใจและเป็นธรรมชาติ “พวกเราคือวงดนตรีสด ทุกคืนเราตัดสินใจ ณ จุดนั้นว่าอะไรเหมาะกับผู้ชม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับไวบ์ (Vibe)” เขาอธิบาย พลังแห่งการด้นสด (Improvisation) นี้ทำให้โชว์ในกรุงเทพฯ กลายเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต เมื่อ CHIC สามารถควบคุมผู้ชมด้วยจังหวะที่ไม่หยุดยั้งและปล่อยให้ทุกอย่างลื่นไหลไปตามเสียงเพลง จนไม่มีใครยืนนิ่งในงาน “แม้ผมอายุ 72 ผมยังรักการเต้น ดิสโก้ และผู้คน” เขากล่าว และกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เขาสัมผัสได้ว่าเขาจะหลงใหลในทุกๆวินาทีของการแสดงเขาเขาแน่นอน
“We’re Not Here to Play—We’re Here to Make You Dance” Nile Rodgers said
Rodgers’ approach to live performances is as authentic as it gets. “We’re a live band. Every night, we decide on the spot what feels right for the crowd. It’s all about the vibe,” he explained. That improvisational energy made Bangkok’s show a once-in-a-lifetime experience, as CHIC worked the audience with unrelenting grooves and seamless rhythm shifts, ensuring there wasn’t a still body in the room. For Rodgers, it’s more than just playing the hits. It’s about creating a moment. “At 72, I still love dancing, disco, and people,” he said, and Bangkok felt every ounce of that passion in his performance.
ประตูกรุงเทพฯ สู่โลกกว้าง
Rodgers เรียกการเปิดตัวในกรุงเทพฯ ว่าเป็น “จุดเริ่มต้นของเฟสใหม่” สำหรับ CHIC ในเอเชีย เขาแสดงความตื่นเต้นในการกลับมาเชื่อมโยงกับผู้ชมในภูมิภาคนี้อีกครั้ง “พวกเราไม่ใช่วงที่พึ่งพาลูกเล่นหรืออะไรแบบนั้น มันคือดนตรีล้วน ๆ และความเรียบง่าย” Rodgers กล่าว
การแสดงในกรุงเทพฯ เป็นเหมือนประตูสู่การกลับมาเชื่อมโยงกับผู้ชมในเอเชีย และ Rodgers ย้ำว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของค่ำคืนแห่งจังหวะฟังก์ที่เต็มไปด้วยพลังงานอีกมากมาย
From Bangkok to the World
Calling his Bangkok debut “the beginning of the next phase” for CHIC in Asia, Rodgers expressed his excitement about returning to the region after years. “We’re not about naked dancers or gimmicks—it’s just music, pure and simple,” he shared. This raw, unfiltered approach brought back the old-school magic that only Rodgers and CHIC can deliver.
Bangkok served as a gateway for CHIC to reconnect with their Asian audience, and Rodgers made it clear that this is just the start of more groove-filled nights across the continent.
มรดกแห่งแรงบันดาลใจ
Nile Rodgers ไม่ใช่แค่นักดนตรี แต่เขาคือสะพานเชื่อมระหว่างแต่ละเจเนอเรชัน จากเพลงอมตะอย่าง “Le Freak” สู่เพลงฮิตร่วมสมัยอย่าง “Get Lucky” และ “Unforgiven” ความสามารถในการพัฒนาโดยยังคงความเป็นตัวของตัวเองทำให้เขาโดดเด่น “จังหวะที่ไม่เคยเลือนจาง” เขากล่าว และการแสดงในกรุงเทพฯ ได้เป็นเครื่องพิสูจน์คำพูดนี้
การแสดงทุกครั้งของ CHIC ถูกรังสรรค์ขึ้น ณ เวลานั้น ขับเคลื่อนด้วยหัวใจของ Rodgers ไวบ์ของวง และพลังของผู้ชม สิ่งที่ทำให้ Nile Rodgers เป็นตำนานคือการอุทิศตนให้กับศิลปะและแฟนเพลง เขาพูดถึงการแสดงของ CHIC ว่า “เป็นมากกว่าคอนเสิร์ต—แต่เป็นประสบการณ์ที่มีชีวิต ที่ถูกหล่อหลอมขึ้น ณ โมเมนต์ๆ นั้น เราสร้างสรรค์ทุกคืน ถ้าผมเห็นใครเต้นยังไง ผมจะเข้าไปร่วมด้วย ทุกอย่างมาจากหัวใจ” เขากล่าว
การเปิดตัวในกรุงเทพฯ ของ Rodgers และ CHIC ไม่ใช่แค่การแสดง—แต่เป็นการเฉลิมฉลองพลังแห่งดนตรีที่เชื่อมโยงและสร้างแรงบันดาลใจ สำหรับแฟนเพลง นี่คือการตอกย้ำว่าจังหวะที่แท้จริงนั้นไร้กาลเวลา
ขอบคุณสถานที่ SOHO HOUSE BANGKOK
A Legacy That Inspires
Nile Rodgers isn’t just a musician; he’s a bridge between generations. From timeless hits like “Le Freak” to modern anthems like “Get Lucky” and “Unforgiven” his ability to evolve while staying authentic sets him apart. “The groove never fades” he said, and his Bangkok performance proved it.
Every CHIC show is crafted in real time, driven by Rodgers’ heart, CHIC’s vibe and the audience’s energy. What makes Rodgers truly iconic is his dedication to his craft and his fans. He spoke of CHIC’s performances as more than concerts—they’re living, breathing experiences shaped in real time. “We make it up every night. If I see someone dancing a certain way, I’ll go over and join them. It’s all from the heart,” he said.
Rodgers’ debut in Bangkok wasn’t just a performance—it was a celebration of music’s power to connect and inspire. For fans, it was a reminder that true groove is timeless.
Thank you to Soho House Bangkok for graciously hosting us at such a wonderful venue.
Photographer: Pattarachai Songaksorn
Creative & Writer: Nareerat Vatcharapichart
Editor: Tanatorn Thitipipatchai
