ถ้าพูดถึง Converse แบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน คงไม่แปลกที่จะผลิตรองเท้าออกมามากกว่าหมื่นโมเดล แต่รู้ไหมว่า Converse นั้นเคยผลิตรองเท้าวิ่งด้วยนะ โดยเริ่มมาจากรองเท้า Trainer โมเดล Racer ในปี 1930 จนมันถูกพัฒนาออกมากลายเป็นโมเดลต่าง ๆ ในช่วงปี 70’s – 80’s อย่าง Wave Trainer, Thunderbolt, Equinox และอื่น ๆ อีกมากมาย
ในปีนี้เทรนด์รองเท้าวิ่งยุคเก่าแบบ 90‘s กำลังมาแรง Converse ก็ไม่พลาดที่จะนำเหล่ารองเท้า Trainer จากยุค 80’s กลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง ด้วยเทคโนโลยี CX Foam ที่ให้ความนุ่มสบาย น้ำหนักเบา ผสมผสานความสนุกสนาน มีสีสันที่มากกว่าเดิม ให้กลับมาวัยรุ่นอีกครั้ง เหมือนกับแก๊งนิวเจนอย่าง จาว, ซาร่า และอาริกาโตะ ที่มีความแสบซ่า ซุกซน และสนุกไปกับทุกโมเมนต์ของชีวิตพร้อมกับ ‘Converse RETRO RUNNING’ ทั้ง 3 รุ่น Wave Trainer, Omega Trainer และ Omni Trainer

CONVERSE WAVE TRAINER: “TRUE TO THEN, TUNED TO NOW.”

เริ่มกันที่รุ่นแรก Wave Trainer รองเท้าวิ่งจากปี 1989 โดยที่มาของชื่อ ‘Wave Trainer’ มาจากเทคโนโลยีเก่าของ Converse อย่าง ‘Energy Wave’ เทคโนโลยีพื้นชั้นกลางที่ใช้ EVA อัดแน่นกับโพลียูรีเทน (Polyurethanes) เพื่อรองรับแรงกระแทกและให้ความสบายแก่รองเท้า ซึ่งในยุค 80’s มีการแข่งขันกันทางด้านเทคโนโลยีรองเท้ากันสูงมาก และ ‘Energy Wave’ ถือว่าเป็นหนึ่งจุดขายสำคัญของ Converse ในยุคนั้นเลย ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี 1988 กับรุ่น CONS ERX 400 HI
Converse Wave Trainer ได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมคงเสน่ห์แบบเดิมไว้ครบ ทั้งสีแบบออริจินอล และรูปทรงรองเท้าที่แทบจะเหมือนกับโมเดลในปี 1989 แต่ถูกพัฒนาจากเทคโนโลยี Energy Wave ให้กลายเป็น CX Foam ช่วยให้ผู้สวมใส่รองเท้ารู้สึกนุ่มสบาย เพิ่มความยืดหยุ่นที่พื้นรองเท้า ทำให้ไม่รู้สึกปวดเท้าเวลาใช้งานนาน ๆ เหมาะกับวัยรุ่นที่มีกิจกรรมหลากหลาย หรือวัยทำงานที่ต้องเดินเยอะ ๆ เป็นอย่างมาก
Converse Wave Trainer มีให้เลือกถึง 3 สี คือ Vintage White/Orange, Vintage White/Blue และ Barely Grey/Vintage White มีไซซ์ตั้งแต่ 6 – 11 ราคา 3,900 บาท

CONVERSE OMEGA TRAINER: “OLD-SKOOL LOOK, NEW SCHOOL FEEL.”

ต่อกันที่ Omega Trainer ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Converse Gazelle และ Thunderbolt ในปี 1984 โดย Omega Trainer นั้นจะมีหน้าตาแบบรองเท้าสไตล์เรโทร 80’s แท้ ๆ ที่สามารถใส่ได้ทุกวัน ด้วยวัสดุที่ทำจากผ้าสลับกับหนังกลับแบบคลาสสิก และเทคโนโลยี EVA Foam ผสมผสานด้วยโลโก้ Star Chevron สื่อถึงความเป็นตำนานของ Converse ในด้านสปอร์ตและความเป็นสตรีท สำหรับใครที่เป็นสาย Old-Skool บอกเลย Omega Trainer ตอบโจทย์แบบสุด ๆ
Converse Omega Trainer มีให้เลือก 3 สี คือ Black/Dark Matter, Light Dune/Vintage White และ Barely Grey/Vintage White มีไซซ์ตั้งแต่ 5 – 11 ราคา 2,700 บาท

CONVERSE OMNI TRAINER: “80’S LIFESTYLE, MODERN COMFORT.”

ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งรุ่นอย่าง Omni Trainer โมเดลใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรองเท้า Trainer รุ่น Converse Lydiard Equinox ในปี 1984 ซึ่งเป็นรุ่นนี้มีความสำคัญในวงการวิ่งอย่างมาก เพราะทำร่วมกับ Arthur Lydiard โค้ชสอนวิ่งให้กับนักกีฬาชื่อดังมากมาย ทำให้รองเท้าคู่นี้มีกลิ่นอายจากยุค 80’s ด้วยสีสันที่เหนือกาลเวลา ปรับเปลี่ยนวัสดุจากผ้าไนลอนให้เป็นผ้ากันลม (Ripstop) เพราะมีน้ำหนักที่เบา ทนทานกว่า และมีการปรับดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ส่วนกลางของรองเท้าลงไป เพื่อให้เหมาะกับการสวมใส่ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยี CX Foam เหมือนกับรุ่น Wave Trainer รับรองว่าใส่ได้ทั้งวันแน่นอน!
Converse Omni Trainer มีให้เลือกถึง 2 สี คือ Egret/Vintage White/Black และ Egret/Vintage White/Park Red มีไซซ์ตั้งแต่ 6 – 11 ราคา 3,400 บาท

และขอแอบมาสปอยว่าเร็ว ๆ นี้ในช่วงเมษายน เตรียมพบกับ Converse RETRO RUNNING SUMMER’25 Collection สีใหม่ ต้อนรับซัมเมอร์ โดนใจทุกคนแน่นอน!!!
สำหรับใครที่สนใจ Converse RETRO RUNNING ทั้ง 3 รุ่น สามารถสอบถามได้ที่ Converse สาขาใกล้บ้านคุณ หรือ LINE Official Converse TH @conversethai และชอปผ่านทางออนไลน์ที่ https://bit.ly/4kfK6ij ได้เลย!!!