“มวยปล้ำ” เป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตั้งเเต่อดีตจนปัจจุบัน เชื่อว่านี่คือหนึ่งในกีฬาที่มีเเฟนๆ รายล้อมอยู่ทั่วโลก ไม่เเพ้ฟุตบอลเเละบาสอย่างเเน่นอน เเต่ถ้าให้ เพื่อนๆ นึกถึงนักมวยปล้ำในดวงใจสัก 1 คน เชื่อว่าต้องมี Sting, The Rock, Stone Cold เเละ นักมวยปล้ำในตำนานเอีกหลายคนอย่างเเน่นอน
เเต่นาทีนี้! ปี พ.ศ. นี้! การันตีเลยว่าคงไม่มีใครมาเเรงกว่า Cody Rhodes อย่างเเน่นอน ซึ่งเขาเพิ่งชนะแมตช์ Royal Rumble 2 ปีซ้อน และล่าสุดคว้าแชมป์โลก WWE เป็นครั้งแรกในศึก Wrestlemania 40
.
กว่าที่เราจะประสบความสำเร็จ เชื่อว่าต้องเจอปัญหาเเละอุปสรรคที่เยอะมาก อย่างเเน่นอน เเต่สำหรับชายที่ชื่อ Cody Rhodes ขวางหนามที่เขาต้องฝ่าฝันมันช่างยากเย็นจนบางทีเเฟนๆ คิดว่าสิ่งที่เขาต้องเจอมันช่างไม่เเฟร์ซะเลย เเละวันนี้เนื่องในวันเกิดของ Rhodes เราจึงอยากจะเอาเรื่องราวของเขามาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันสักหน่อยก็เเล้วกัน
โดยเส้นทางในวงการมวยปล้ำของ Cody Rhodes เรียกได้ว่ามีเเต้มต่อการคนอื่นๆ เพราะเขาคือ “The American Dream” หรือ Dusty Rhodes ตำนานนักมวยปล้ำชื่อดังจากยุค 80s ดังนั้น Cody จึงเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นเด็กฝึกของ WWE แต่ถึงเเม้ว่ามีต้นทุนมากกว่าคนอื่น Cody ก็ไม่ยอมให้ ใครดูถูกเขาด้วยคำว่าเด็กเส้นหรือโตมาได้เพราะของบารมีพ่อ
.
ในตอนนั้น Cody Rhodes สังกัด Ohio Valley Wrestling (OVW) ซึ่งเป็นค่ายลูกของ WWE ต่อมา ในช่วงปี 2006-2007 เขาได้รับคำชมอย่างมากจากเหล่านักวิจารณ์นักมวยปล้ำ และได้รับการโหวตให้เป็นดาวรุ่งอันดับหนึ่งของฝั่งอเมริกา
.
เเละเมื่อเริ่มฉายแววตั้งแต่ยังเป็นนักมวยปล้ำในค่ายพัฒนา ทักษะ ดังนั้น WWE จึงไม่รอช้ารีบดัน Rhodes ขึ้นสู่ค่ายใหญ่ทันที ในช่วงแรกเขาได้รับบทบาทเป็นคู่แท็กทีมของนักมวยปล้ำรุ่นเก๋า Hardcore Holly เเละทั้งคู่ประสบความสำเร็จร่วมกันในฐานะแชมป์โลกแท็กทีมหนึ่งสมัยเป็นระยะเวลานานถึง 202 วัน
เมื่อถึงจุดหนึ่ง WWE เล็งเห็นว่า Cody Rhodes มีฝีมเเละมีความสามารถพอที่จะยืนด้วยลำเเข้งของ ตัวเองได้เเล้ว Rhodes จึงถูกเลือกเป็นหนึ่งในสามสมาชิกของกลุ่ม The Legacy กลุ่มนักมวยปล้ำ ฝ่ายอธรรมที่รวมลูกของนักมวยปล้ำชื่อดังในอดีต เนื้อเรื่องของเขากับ Legacy ดำเนินไปได้ดีสุดๆ เขากับ Ted DiBiase Jr. ถูกดันไปสานต่อเรื่องราวกับสองคู่หูระดับตำนานอย่าง D-Generation X (DX) Tripple H ในปี 2009
.
จากนั้น Legacy ถูกวางบทบาทให้แตกทีม โดยทำให้เขาได้ขึ้นปล้ำในศึก WrestleMania 26 ในแมตช์ 3 เส้า ซึ่งเป็นแมเนียครั้งแรกในชีวิตของ Cody ถึงจะไม่ชนะ แต่ชีวิตหลังจากนั้นในรั้ว WWE เริ่มเติบโตจนถูกผลักดันให้ฉายเดี่ยวแบบจริงๆ จังๆ ครั้งแรก
Rhodes ถูกย้ายไปทำงานในศึก SmackDown ในช่วงปี 2010 เขาจัดการปรับลุค เปลี่ยนเพลงเปิดตัว หรือพูดง่ายๆ คือ สร้าง Cody ขึ้นมาใหม่ในคอนเซปต์นักมวยปล้ำที่ดูดี ดูหล่อ ในลุค ‘Dashing’ แต่ถึง อย่างนั้นกิมมิกนี้ก็ดูจะไม่ได้หวือหวาอะไรสำหรับแฟนมวยปล้ำ เขาถูกส่งไปปล้ำรายการประจำ สัปดาห์เรื่อยๆ และคว้าแชมป์แท็กทีมร่วมกันในศึก Night of Champions 2010 สุดท้ายครองแชมป์ ได้แค่ 34 วัน ก่อนจะเสียแชมป์
.
Cody ถูกผลักดันให้ฉายเดี่ยว เขาไปถึงจุดที่มีเนื้อเรื่องที่พีคมากๆ ครั้งในหนึ่งในชีวิตร่วมกับ Rey Mysterio จากนักมวยปล้ำที่ไม่รู้อนาคต ไม่รู้ทิศทางของชีวิต และถูกส่งให้ขึ้นปล้ำไปวันๆ Cody ได้รับโอกาสครั้งใหญ่ของชีวิตจากRey Mysterio ทุกอย่างไม่ซับซ้อน เพียงเพราะ Ray ต้องการทำงานร่วมกับ Rhodes และทำแมตช์สนุกๆ สำหรับ WrestleMania 27
แต่ทุกอย่างไม่เคยง่ายสำหรับเขา นับจากนั้นบทบาทของเขากับ WWE ก็ไม่มีอะไรให้หวือหวาไป หลังจากนั้นโคดี้จับมือกับพี่ชายของเขา Dustin Rhodes หรือ Goldust ในนาม The Brotherhood สามารถปราบ The Shield คว้าแชมป์แท็กทีมร่วมกันอีกครั้งแบบประทับใจแฟนๆ มวยปล้ำ แม้ว่า เขาจะสร้างโมเมนต์ในวงการดีๆ กับ The Brotherhood พี่ชายและพ่อของเขา แต่ชีวิตใน WWE ของเขาไปไม่ไกลกว่านี้อีกแล้ว โคดี้ที่ไม่พอใจในแผนงานระหว่างตัวเองกับ WWE เขาตัดสินใจ ยื่นเรื่องขอให้สมาคมฯ ปล่อยตัวเขาออกไป
Cody ตระเวนไปปล้ำตามสมาคมมวยปล้ำต่างๆ อย่างเช่น Independent Circuit, Ring of Honor (ROH), TNA, New Japan Pro-Wrestling และจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตก็คือการถือกำเนิดกิมมิก The American Nightmare พร้อมเข้าร่วมกลุ่ม Bullet Club กลุ่มใน NJPW ที่รวมนักมวยปล้ำยอดฝีมือไว้มากมายในนั้น The American Nightmare หรือ Cody Rhode เริ่มมีชื่อเสียงที่โด่งดังมากขึ้นในวงการมวยปล้ำระดับ Pro Wrestling เขาโชว์ทักษะต่างๆ ที่ไม่เคยทำให้เห็นใน WWE ออกมาให้ แฟนๆ ได้เห็นว่าเขาคือคนที่มีของกว่าที่ WWE มองเห็น
ชีวิตของเขาเติบโตขึ้นทุกวัน จนได้โอกาสจับมือกับสหายอย่าง Kenny Omega, สองพี่น้องแมตต์ และ Nick Jackson รวมทั้งนายทุนใหญ่อย่าง Tony Khan ก่อตั้งสมาคมมวยปล้ำ AEW เพื่อมาตี ตลาดมวยปล้ำ แข่งกับ WWE โดยตรง วันเวลาผ่านไปเกือบ 4 ปีกับ AEW ดูเหมือน เขากับสถานที่ แห่งนี้จะเดินทาง มาถึงทางตัน ไม่สามารถทำข้อตกลงทางสัญญาฉบับใหม่ร่วมกันได้
ท้ายที่สุด WWE ไม่พลาดโอกาสที่รอคอยมานานในการขยี้ AEW ด้วยการเปิดตัว Cody อย่างยิ่งใหญ่ ในศึก WrestleMania 38 พร้อมกับวางตัวเขาให้เป็นนักมวยปล้ำฝ่ายธรรมะระดับสูงของสมาคมที่มี ความพร้อมจะชิงแชมป์โลกในทันที แม้เขาจะมีโอกาสโชว์ฝีมือใน WWE รอบสองอยู่ไม่นาน เพราะเขาดันได้รับอาการบาดเจ็บ ก่อนการปล้ำในศึก Hell In a Cell 2022
.
แต่เนื่องจากสปิริตสูงส่งที่ขึ้น ปล้ำทั้งที่ยังบาดเจ็บ นั่นจึงทำให้โคดี้ได้รับคำชื่นชมอย่างมากจากแฟนมวยปล้ำและนักวิจารณ์ แถมยังทำให้เขากลายเป็นนักมวยปล้ำเพียงคนเดียวที่สร้างแมตช์ 5 ดาวใน AEW และ WWE ได้พร้อมกันในปี 2022
.
ถึงตรงนี้ ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า Cody Rhodes คือนักมวยปล้ำฝ่ายธรรมะหมายเลขหนึ่งของ WWE และเป็นรองเพียง Roman Reigns เท่านั้น ในแง่ของบทบาทยิ่งบวกกับผลงานการปล้ำที่เพิ่งสร้าง แมตช์แห่งปีใน สายตาผู้ชม WWE การคว้าตำแหน่งผู้ชนะ Royal Rumble 2023 ของเขาจึงยิ่งกว่า สมเหตุสมผล
แม้ว่าใน Wrestlemania 39 Cody Rhodes จะไม่ได้คว้าแชมป์แบบที่แฟนมวยปล้ำอยากเห็น แต่เขา ไม่เคยที่ยอมแพ้ กลับมีแต่ตั้งใจออกมาทำงานหนัก ความทุ่มเทของเขาไม่เสียเปล่า เขาชนะแมทช์ Royal Rumble อีกครั้งในปี 2024 กลายเป็นนักมวยปล้ำคนแรกในรอบ 26 ปี ที่ชนะแมทช์นี้ได้ 2 ปี ติดต่อกัน
.
Cody Rhodes เลือกชิงแชมป์กับ Roman Reigns แต่คราวนี้เขาไม่ทำพลาดสามารถคว้าแชมป์โลก WWE มาครอง “Finish The Story” ของตัวเองได้สำเร็จ นี่คือเรื่องราวของนักมวยปล้ำผู้ไม่เคยเป็น ที่ต้องการสู่นักมวยปล้ำที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ จากวันที่ WWE ไม่เห็นค่าในตัว Cody วันนี้เขากลับมาเป็น ผู้นำยุคใหม่ของ WWE
