BEYBLADE จากลูกข่างประชันพลัง สู่การแข่งขันระดับโลก

“Go Shoot!” หลายคนในวัยเด็กต้องเคยพูดคำนี้ จากการเล่น ‘Beyblade’ ลูกข่างสุดฮิตกันมาบ้าง ซึ่งช่วงเวลาที่ของเล่นชิ้นนี้ฮิตจะอยู่ในช่วง ค.ศ. 2000 – 2003 เป็นช่วงที่อนิเมะ ‘เบลย์เบลด ศึกลูกข่างสะท้านฟ้า’ ออกอากาศ ทำให้ของเล่นชิ้นนี้ฮิตไปทั่วโลก และกลับมาฮิตอีกครั้งเมื่อปี 2016 ตอนช่วงที่อนิเมะเรื่อง ‘Beyblade Burst’ ออกอากาศ จนติดลมบนฮิตมาถึงทุกวันนี้ จนจัดการแข่งขันหาตัวแทนระดับประเทศกันเลยทีเดียว วันนี้ S4S ขอพาทุกคนย้อนรำลึกถึงออริจินัลและพาไปอัพเดตเบลย์เบลดในยุคนี้กันว่ามันเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง!

What is BEYBLADE?

Beyblade เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1999 โดยบริษัททาคาระ (ปัจจุบัน คือบริษัท ทาคาระโทมี่) โดยเบลย์เบลด ได้รับแรงบันดาลใจจากลูกข่างแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ‘Beigoma’ สู่การต่อยอดเป็นมังงะ และอนิเมะ ทำให้เบลย์เบลดฮิตไปทั่วโลก กลายเป็นอนิเมะ 4 ซีรี่ย์ ตั้งแต่ปี 1999 , 2009 , 2016 และ 2023

Beigoma (ลูกข่างแบบดั้งเดิม)

BAKUTEN SHOOT BEYBLADE (1999)

BEYBLADE หรือ BAKUTEN SHOOT BEYBLADE เป็นสื่อชิ้นที่ 3 ถูกใช้โปรโมทของเล่น โดยสื่อชิ้นแรกคือ วิดีโอเกม Next Generation Beigoma Battle: Beyblade และชิ้นที่ 2 คือ มังงะ Bakuten Shoot Beyblade ที่ประสบความสำเร็จ จนต่อยอดกลายเป็นอนิเมะถูกดัดแปลงที่เราได้ดูอยู่ทุกวันนี้ แม้ว่าอนิเมะจะหยิบองค์ประกอบต่าง ๆ จากมังงะมา เช่น ตัวละครต่าง ๆ ในมังงะ แต่โดยส่วนใหญ่รายละเอียดถูกนำมาใช้ในลักษณะใหม่ให้ต่างออกไปจากมังงะ แถมมีการเพิ่มตัวละครใหม่ และเส้นเรื่องที่แตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย โดยอนิเมะ Bakuten Shoot Beyblade มีภาคย่อยทั้งหมด 3 ภาค คือ Bakuten Shoot Beyblade (1999) , Bakuten Shoot Beyblade 2002 (2002) , Bakuten Shoot Beyblade G-Revolution (2003) จนสุดท้ายอนิเมะทั้งสามภาคก็ถูกซื้อลิขสิทธิ์โดย Nelvana ไปฉายต่อในระดับโลก โดยถูกดัดแปลงชื่อจาก Bakuten Shoot Beyblade ให้เหลือเพียง Beyblade เพียงอย่างเดียว มี 3 ภาคเช่นเดียวกัน Beyblade , Beyblade VForce และ Beyblade GRevolution 

METAL FIGHT BEYBLADE (2009)

METAL FIGHT BEYBLADE เป็นการพัฒนาโปรเจกต์ Beyblade โดยเริ่มขึ้นในปี 2008 หลังจากซีรี่ย์ Originals จบลงไป ซึ่งประกอบไปด้วยมังงะและอนิเมะ โดยดัดแปลงจากมังงะ Metal Fight Beyblade เล่มที่ 1-4 แต่มีความแตกต่างหลายจุด เช่น ตัดระบบต่าง ๆ ออก อีกทั้งยังมีความแตกต่างในการพัฒนาเบลย์เบลดของมังงะและอนิเมะด้วย เพราะในมังงะเบลย์เบลดจะค่อย ๆ ถูกอัพเกรดไปทีละนิด แต่อนิเมะเบลย์เบลดจะถูกเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ หรือได้เบลย์เบลดอันใหม่แทน โดยซีรี่ย์ Metal Fight Beyblade มีภาคย่อย 4 ภาค คือ Metal Fight Beyblade (2009) , Metal Fight Beyblade Baku (2010) , Metal Fight Beyblade 4D (2011) และ Metal Fight Beyblade Zero-G (2012) 

BEYBLADE BURST (2016)

BEYBLADE BURST เป็นอนิเมะซีซั่นที่ 8 ของซีรี่ย์ Beyblade ซึ่งเป็นซีรี่ย์ที่มีภาคย่อยถึง 6 ภาค ตั้งแต่ Beyblade Burst (2016) , Beyblade Burst God (2017) , Beyblade Burst Cho-Z (2018) ,  Beyblade Burst GT (2019) ,  Beyblade Burst Superking (2020) และ Beyblade Burst Dynamite Battle (2021) เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เบลย์เบลดกลับมาฮิตอีกครั้ง จากการปรับเปลี่ยนรูปแบบของเบลย์เบลดให้จริงจังมากขึ้น ซับซ้อน และมีลูกเล่นกว่าเดิม

BEYBLADE X (2023)

BEYBLADE X เป็นซีรี่ย์ที่ 4 ของ Beyblade หลังจากจบซีรี่ย์ BEYBLADE BURST ไป เริ่มฉายในปี 2023 โดยซีรี่ย์นี้เป็นภาคล่าสุดที่ตอนนี้กำลังฉายอยู่ และเนื้อเรื่องยังไม่จบ เป็นภาคที่ทำให้กระแสของเบลย์เบลด์เป็นที่รู้จักในหมู่เด็ก Gen Alpha มากขึ้น 

การแข่งขัน BEYBLADE CHAMPIONSHIP

จากมังงะ ต่อยอดไปอนิเมะ สู่การแข่งขันบนโลกแห่งความเป็นจริงกับ BEYBLADE CHAMPIONSHIP ที่ให้เหล่า Blader จากทั่วทุกมุมโลกมาประชันพลัง เพื่อหาสุดยอดผู้แข็งแกร่งที่สุดในสนามนี้ โดยการแข่งขันนี้มีมาทั้งหมด 9 ครั้ง แบ่งเป็น ASIA CHAMPIONSHIP 4 ครั้ง และ WORLD CHAMPIONSHIP 5 ครั้ง ประกอบไปด้วย

  1. BEYBLADE WORLD CHAMPIONSHIP 2002 HELD (2002) *แข่งขันไม่เป็นทางการ*
  2. BEYBLADE WORLD CHAMPIONSHIP 2004 HELD (2004) *แข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรก*
  3. BEYBLADE ASIA CHAMPIONSHIP 2010 HELD (2010) 
  4. BEYBLADE ASIA CHAMPIONSHIP 2011 HELD (2011) 
  5. BEYBLADE WORLD CHAMPIONSHIP 2012 HELD (2012) 
  6. BEYBLADE BURST WORLD CHAMPIONSHIP 2018 HELD (2018) 
  7. BEYBLADE BURST ASIA CHAMPIONSHIP 2019 HELD (2019) 
  8. BEYBLADE X ASIA CHAMPIONSHIP 2024 (2024) 
  9. BEYBLADE X WORLD CHAMPIONSHIP 2025 (2025)

นอกจากการแข่งขันระดับเอเชีย และระดับโลกแล้ว ในประเทศไทยของเราก็มีการแข่งขันเพื่อหาสุดยอด Blader ที่แข็งแกร่งที่สุดเหมือนกันอย่างงาน BEYBLADE X G1 Tournament Imperial World Samrong Cup 2025 ที่เพิ่งจัดไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวันที่ 1-9 พฤศจิกายนที่ผ่านมานี่เอง! ค

แล้วทำไม ‘BEYBLADE’ ถึงกลับมาฮิตในช่วงนี้กัน?

หากเราสังเกตถึงวิวัฒนาการของ ‘Beyblade’ จากจุดเริ่มต้นซีรี่ย์ Beyblade (1999) จนถึง Beyblade X (2023) ซึ่งภาค X เป็นการจุดประกายให้กระแสของ Beyblade กลับมาฮิตอีกครั้งในหมู่เด็กยุคนี้ และทำให้เราได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ตัวของเบลย์เบลด ที่มีการถูกปรับเปลี่ยนให้มีความสามารถเฉพาะตัว และปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ ไม่เหมือนสมัยแรก  ที่บอกแค่ตัวนี้เป็นมังกรฟ้า หรือเต่าคะนอง รวมไปถึงวิธีการสู้ สมัยแรกตัวไหนหยุดหมุนก็คือแพ้แค่นั้น แต่ตอนนี้มีลูกเล่นเพิ่มเติมมากมาย และยังมีอีก 6 เหตุผลที่ทำให้ ‘Beyblade’ กลับมาฮิตในยุคสมัยนี้อีกครั้ง

  1. อนิเมะช่วยส่งเสริมให้กลับมาฮิตอีกครั้ง สำคัญเลยคือ ช่องทางการดูที่ดูฟรีใน Youtube ได้ และยิ่งไปกว่านั้นคือ การนำวงดนตรีสุดป๊อป 2 ฟากฝั่งจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้อย่าง One Ok Rock และ Aespa มาร้องเพลง Opening (Prove) และ Ending (Zoom Zoom) ให้กับ ‘Bayblade X’ ช่วยดึงดูดให้คนมาดูมากขึ้นจากฐานแฟนเพลงของทั้งสองวง 
  2. เจาะตลาดเด็ก Gen Alpha ได้สำเร็จ ด้วยการที่เด็กสมัยนี้มักเป็นวัยดิจิทัลจึงมักจะติดมือถือกันเป็นส่วนใหญ่ แต่การที่เด็ก ๆ หันมาเล่นเบลย์เบลด ทำให้เกิดกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็ก ๆ ได้ใช้เวลากับเพื่อน หรือครอบครัวมากขึ้น
  3. Gameplay ที่สนุกขึ้นกว่าภาคก่อน ๆ ที่สำคัญคือ สนาม ที่มี Extreme Line ช่วยส่งเสริมแรงส่งของเบลย์เบลด์ ทำให้การเล่นสนุกขึ้น สามารถพลิกสถานการณ์ได้ ไม่เหมือนภาคเก่า ๆ ที่พึ่งแต่แรงหมุนของเบลย์เบลด ใครหยุดก่อนแพ้ รวมไปถึงการชนะในรูปแบบเก่า ๆ ที่เราเคยเล่นก็ยังมีอยู่ เช่น ออกนอกสนามแพ้ หรือเบลย์เบลดแตกแพ้ 
  4. Blader ยุคเก่ากลับคืนสังเวียน ผ่านการสนับสนุนลูกให้เล่นเบลย์เบลด แน่นอนว่าเด็กหนวดทุกคนที่เคยเล่น ตอนนี้คงมีลูกแล้ว มีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้อเบลย์เบลดให้ลูกเล่น อีกทั้งยังต่อยอดให้ลูกไปแข่งขันในรายการต่าง ๆ ได้ รวมไปถึงยังเป็นการใช้เวลากับลูกไปในตัวด้วย
  5. พัฒนาการเล่นที่หลากหลายมากกว่าเดิม ยุคสมัยนี้ตัวเบลย์เบลด ประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ Blade , Ratchet และ Bit สามารถเลือกเล่นได้แบบง่าย ไปจนถึงการแข่งขันจริงจังที่ต้องใช้เบลย์เบลด 3 ตัว ที่สามารถปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ หรือคู่แข่งที่เจอ 
  6. มีการจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ที่คัดผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นการจัดการแข่งขันที่จริงจังมากขึ้น ตั้งแต่จัดหมวดอายุของผู้แข่ง รวมไปถึงกติกาสากลของการแข่ง และสนามแข่งที่เป็นระดับโลก ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

และนี่คือ 6 เหตุผลที่เราจึงได้เห็น ‘Beyblade’ กลับมาโลดแล่นในสังเวียนเดือดอีกครั้ง สำหรับใครที่เป็นเด็กหนวด แล้วคิดถึงการประชันพลังแบบนี้ ก็สามารถไปหาซื้อเบลย์เบลด มาลองไปประเดิมสนามกันได้เลย แล้วคุณจะได้หวนกลับไปในวันเก่า ๆ แน่นอน!

Source: BEYBLADE OFFICIAL , BEYBLADE WIKI , KcToys Beyblade X , พ่อบ้าน 4.0 (Youtube)

Share:
On Key

Related Posts

Tokyo Joshi Pro Wrestling (TJPW) สังเวียนมวยปล้ำของสาว ๆ ที่งดงามราวเจ้าหญิง

ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนมวยปล้ำหรือไม่ แต่หากคุณติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแวดวงบันเทิงของประเทศญี่ปุ่น คุณคงมีโอกาสได้เห็นภาพหรือคลิปไวรัลของสาว

WATCHA GONNA ดู

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอม ให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save