15 แบรนด์สตรีทแวร์อเมริกันที่มาแรงที่สุดในตอนนี้

ในปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสของ Street Fashion นั้นมาแรงแบบหยุดไม่อยู่จริงๆไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้ หรือแม้แต่วัฒนธรรมเพลงต่างๆก็ยังมีกลิ่นอายของ Street Fashion มาเป็นส่วนผสมอยู่ด้วย เรียกได้ว่าจากแฟชั่นเฉพาะกลุ่มวิวัฒนาการจนเป็นกระแสหลักที่แม้แต่แฟชั่นแบบ Haute Couture หรือ Luxury แบรนด์ต่างๆยังหันมาสนใจและเพิ่มความเป็น Street ในเสื้อผ้าของตัวเองหรือแม้แต่การ Collaboration กับศิลปิน Street Art ก็ตาม ซึ่งจะว่าไปแล้วแบรนด์ต่างๆนั้นมีมากมายหลายแบรนด์ แต่แบรนด์ที่น่าจับตาและมาแรงสุดๆเราได้รวบรวมไว้ในคอนเทนต์นี้แล้ว 15 แบรนด์สตรีทแวร์อเมริกันที่มาแรงที่สุดในตอนนี้

 

15. UNDEFEATED

แบรนด์ Streetwear และ Retailer จาก Los Angeles โดย Eddie Cruz และ James Bond ที่เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ OG แบรนด์นึงเลย ด้วยลักษณะที่เน้นความเป็น Lifestyle ที่เน้นการใช้ในชีวิตประจำโดยยังคงแฝงกลิ่นอายความเป็น Street เข้ามา และนอกจากไลน์เสื้อผ้าของตัวเองแล้ว Undefeated เองยังชื่นชอบที่จะไปร่วมแจมกับแบรนด์อื่นๆอย่างเช่นการ Collaboration  กับ Timberland, Bape หรือ Capsule Collection สุดจี๊ดกับ Adidas และล่าสุดทางแบรนด์ได้จับมือกับทีม eSports แห่งมหานคร New York อย่าง New York Excelsior หากใครสนใจอยากสัมผัสความเป็นสตรีทแบบ OG จาก L.A. ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บ undefeated.com

 

14. Carhartt WIP

Carhartt WIP ( Work In Progress ) แบรนด์ Street แนว Workwear ที่แยกมาจากแบรนด์แม่อย่าง Carhartt ก่อตั้งปี 1989 ในยุโรปและได้ขยายตัวเข้ามาในอเมริกาในปี 2011 เป็นแบรนด์ที่เน้นการเพิ่มดีเทล ลูกเล่นต่างๆ และใส่ความ Street เข้าไปใน Workwear อย่างเช่น การใช้วัสดุน้ำหนักเบา ดีเทลในการตัดเย็บหรือเดินด้ายต่างๆ และ การปรับแก้ทรงให้มีความทันสมัยแต่ยังคงใช้งานได้ดี

 

13. Aimé Leon Dore

แบรนด์ Street สไตล์ Preppy 90’s โดย Teddy Santis ก่อตั้งในปี 2014 ที่เน้นเอาเเสื้อ Sportwear จากยุค 90 มาปรับปรุงและใส่ดีเทลเพิ่มความหรูหราเข้าไป อย่างเช่นการเอาหมวก Yankees มาทำใหม่โดยการใช้ผ้าสักหลาดและหนังกลับมาแทนของเดิม หรือการเอาบูทของ Timberland มาเปลี่ยนวัสดุใหม่ ส่วนเสื้อผ้าของแบรนด์เองก็เด็ดไม่แพ้กันโดยจะเน้นความ Minimal แต่เพิ่มสีสันและดีเทลเล็กๆน้อยๆเข้าไป

 

12. Awake

เริ่มแบรนด์ในปี 2012 โดย Angelo Baque อดีตพนักงานจาก Supreme โดยได้แรงบันดาลใจมาจากความหลากหลายของวัฒนธรรมต่างๆในมหานคร New York ไอเทมหลักของแบรนด์จะเป็นเสื้อสกรีนโลโก้ของแบรนด์ ซึ่งแต่ละคอลเลคชั่นก็จะมีการเล่นกับโลโกให้ต่างออกไป ทางแบรนด์เองยังมีธีมที่นำเอาสตรีผู้ที่เป็นคนสำคัญหรือเป็น Iconic มาทำเป็นคอลเล็คชั่นเสื้อผ้า และนอกจากนี้ทาง Angelo Baque เองได้เปิด Pop-up สุดพิเศษ Social Studies ที่นอกจากจะขายสินค้าแล้วยังเปิด Workshops ด้วย ซึ่งบอกเลยว่าเป็นอะไรที่เด็ดสุดๆ ส่วนใครที่อยากได้เสื้อผ้าจาก Awake อาจจะต้องพยายามกันสักหน่อยเพราะปัจจุบันมี Retailer น้อยเจ้าที่จะมีจำหน่าย แต่ก็ยังมี Influencer เจ้าใหญ่อย่าง Dover Street Market, Union Los Angeles และ Slam Jam ที่นำ Awake มาให้ชาวสรีทได้จัดกัน

 

11. Rhude

ก่อตั้งโดยดีไซนเนอร์หนุ่มชาวฟิลิปปินส์ Rhuigi Villaseñor  โดยแบรนด์ของเขาได้รับความสนใจอย่างมากจากการที่ Kendrick Lamar หยิบเสื้อลาย Paisley print ของเขามาใส่ในเวที BET Music Awards ปี 2012 เค้าเริ่มจากการเป็นเด็กที่ถูกเพื่อนๆล้อในโรงเรียนถึงสไตล์การแต่งตัวของเขาจนมาเป็นดีไซนเนอร์ของแบรนด์ Street ที่ทุกคนยอมรับกันในตอนนี้ Rhude มีทีเด็ดท่การเอาโลโกแบรนด์ที่เป็น Iconic มาปรับใส่ความขี้เล่นลงไปอย่างเช่นการเอาโลโกของ Marlboro และ Honda มาเพิ่มลูกเล่นแล้วใส่ลงไปในเสื้อผ้าของเขา แบรนด์ Rhude เองก็มีซิกเนเจอร์ของแบรนด์คือการผสมผสานระหว่าง Track pant กับ traditional tuxedo pant เข้าด้วยกัน

 

10. 424

424 ( four two four ) แบรนด์เสื้อผ้าและ Retailer ก่อตั้งโดย Guillermo Andrade โดยเริ่มจากการเปิดตัว 424 Los Angeles boutique ซึ่งเป็นร้าน Retail ก่อนในปี 2010 ในตอนแรกนั้นตัว Andrade เองยังไม่ได้มีความรู้เรื่องการดีไซน์มากเท่าไหร่โดยเค้าเริ่มจากการเอาจี้เล็กๆมาใส่ลงบนรองเท้าโดยมีแรงบันดาลใจมาจาก Cufflinks ซึ่งเป็นการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ของเขา จนเขาเริ่มทำคอลเลคชั่นเครื่องประดับก่อนและสุดท้ายเขาจึงได้ทำเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายออกมาในปี 2014 ด้วยความสามารถในการเล่าเรื่องราวของเขาที่ใส่ลงไปบนเสื้อผ้าทำให้แบรนด์ 424 ของเขานั้นโด่งดังและประสบความสำเร็จขนาดที่ Kendrick Lamar และ YG แรปเปอร์ชื่อดังยังเป็นแฟนคลับของแบรนด์ โดยซิกเนอเจอร์ของแบรนด์ที่โดดเด่นสุดๆคงต้องยกให้ Armband สีแดงสดที่มาพร้อมชื่อแบรนด์อย่าง 424 ที่เขาต้องการแสดงถึงควมโหดร้ายของตำรวจนั่นเอง

 

 

9. GOLF WANG

แบรนด์ที่ใครๆหลายคนคงรู้จักกันดีอย่าง GOLF โดยแรปเปอร์สุดจี๊ดขวัญใจมหาชนอย่าง Tyler, the Creator และชาวคณะผองเพื่อนจาก Odd Future เป็นแบรนด์ที่โดดเด่นด้วยสีสันสุดจี๊ดและลายกราฟฟิคสุดแนว ไอเทมเด็ดประจำแบรนด์คงหนีไม่พ้น เสื้อผ้าสีสันสดใสกับลายกราฟฟิคสไตล์ GOLF ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด หมวก ถุงเท้า หรือ Accessories ต่างๆเช่น แผ่นสเก็ต พวงกุญแจ สร้อยคอ และที่เด็ดไม่แพ้กันคงจะเป็นรองเท้าที่ไป Collaboration กับแบรนด์ต่างๆตั้งแต่ Vans และล่าสุดกับ Converse GOLF LE FLEUR*

 

8. Noah

อีกหนึ่งแบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นมาจากอดีต Creative Director ของ Supreme อย่าง Brendon Babenzien โดยได้เริ่มตั้งแต่ปี 2002 ก่อนจะปิดตัวลงหลังจากนั้น 5 ปีก่อนจะกลับมาเปิดอีกตัวครั้งในปี 2015 และขึ้นมาเป็นแบรนด์ Street แถวหน้าของ New York เลยทีเดียว โดยเสื้อผ้าของ Noah นั้นจะเป็นการผสมผสานกันระหว่าง Skateboard และ Surf culture เข้ากับ Traditional Menswear อย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นเสื้อ Rugby หรือเสื้อ Sweater ที่ทำจาก Merino wool โดยไอเทมเด็ดของแบรนด์ที่ไม่ว่าจะ Restock กี่รอบก็ขายหมดเกลี้ยงคงจะเป็น Hoodie โลโก้และความพิเศษอีกอย่างจากแบรนด์นี้คือเป็นแบรนด์ที่ชอบเอากิจกรรมทางการเมืองหรือการเคลื่อนไหวต่างๆมาถ่ายทอดลงในเสื้อผ้าของเขา ไม่ว่าจะเป็นเรือง Human Rights หรือภาวะวิกฤตต่างๆของโลกเรา

 

7. Cactus Plant Flea Market

แบรนด์สุดชิคที่มาพร้อมกับต้นแคคตัสและหน้ายิ้ม Cactus Plant Flea Market หรือ CPFM ก่อตั้งโดย Cynthia Lu ดีไซน์เนอร์ผู้ที่เคยร่วมงานกับศิลปินสุดคูลอย่าง Pharrell Williams ใน Billionaire Girls Club และ i am OTHER ที่ได้มาทำแบรนด์ของตัวเอง ความโดดเด่นของ CPFM คือการใช้ Puff Printing หรือการ embroidery แบบไม่สมดุล ที่บอกได้เลยว่า outstanding สุดๆบวกกับโลโก้ Melting Smiley Face และลายสกรีนกราฟฟิคที่ให้ความรู้สึกแบบ psychedelic สุดๆ จนทำให้เซเลปต่างๆชื่นชอบไม่ว่าจะเป็น A$AP Rocky, Travis Scott หรือแม้แต่ Kanye West ซึ่ง CPFM นี่เองที่เป็นคนทำ merch ให้กับอัลบั้ม Kids see Ghosts ของ Kanye West และ Kid Cudi ส่วนล่าสุดก็ได้ Collaboration กับแบรนด์รองเท้าที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง Nike ปล่อย Vapor max CPFM สุด hype ออกมา

 

6. Stüssy

อันดับนี้เป็นของแบรนด์สตรีทแบบ OG ที่อยู่คู่วงการมาอย่างนานอย่าง Stüssy แบรนด์ที่หลายๆคนต้องรู้จักกันอย่างแน่นอน ก่อตั้งโดย Shawn Stussy ความพิเศษของ Stüssy คงจะเป็นความขลังความคลาสสิคที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีโลโก้ Stüssy ไม่ว่าจะแบบวงกลมหรือแบบกราฟฟิตี้ ฟร้อนก็ยังคงดูดีเสมอไม่ว่าจะเอาไปอยู่บนไอเทมอะไรหรือ Collaboration กับใครก็ตาม โดยไอเทมยอดฮิตของแบรนด์อย่าง เสื้อยืด เสื้อฮู้ด แจคเก็ต หรือเสื้อมัดย้อม ที่อาจดูธรรมดาแต่ไม่ว่ายังไงก็ยังคงขายได้ตลอดเรียกได้ว่าเป็นเหมือน Essentials ของชาวสตรีทมาอย่างยาวนาน

 

5. Kith

ก่อตั้งโดย Ronnie Fieg โดยเขาเริ่มจากการเป็นแค่เด็กเช็คสต็อคของ (Stock Boy) ไปเรื่อยๆจนกลายมาเป็น Head Buyer จนเขาเริ่มเปิดร้านของตัวในปี 2011 ที่ Brooklyn Kith เริ่มจากการ Collaboration กับรองเท้านอกกระแสอย่าง Asics และ New Balance จนพอแบรนด์มีชื่อเสียงเขาก็ได้ทำเสื้อผ้าของตัวเอง โดยเสื้อผ้าของ Kith จะเน้นไปที่การใส่คู่กับ Sneaker หรือง่ายๆคือเป็นแบรนด์เพื่อ Sneakerhead นั่นเองเช่นไอเทมเด็ดของแบรนด์อย่าง Mercer jogger Pants ที่เขาบอกว่าทำมาเพื่อใส่กับ Sneaker ทุกคู่ ตัวแบรนด์เน้นทีเรียบง่ายแต่ใช้วัสดุคุณภาพสูงและเน้นที่เรื่องฟังค์ชั่นการใช้งาน และนอกจากขายเสื้อผ้าของตัวเองแล้ว Kith ยังเป็นร้าน Retailer แบรนด์ Hi-End อื่นๆอีกหลายแบรนด์

 

4. John Elliott

แบรนด์สตรีทจาก L.A. ที่เน้นเรื่องความเรียบหรูแต่แฝงไปด้วยดีเทลแบบจัดเต็ม ไอเทมหลักๆของแบรนด์ถึงจะเป็นอะไรที่ Essentials อย่าง Hoodie Sweatshirt sweatpants แต่ด้วยการใส่ดีเทลที่ละเอียดอ่อนลงไปเช่นใส่ซิปข้างที่ Sweatshirt การเล่นเลเยอร์ต่างๆ การทักทอ หรือแม้ Sweatpants แบบ tailored ที่เน้นใส่สบายแต่ได้ความเท่แบบสุดๆ ส่วนเรื่องของวัสดุเองทางแบรนด์ก็ได้พยายามปรับปรุงขึ้นไปเรื่อยๆในแต่ละคอลเลคชั่น

 

3. Fear of God

Jerry Lorenzo เป็นชื่อที่ทุกคนคงรู้จักในช่วงเวลาไม่นานนี้ เขาเป็นดีไซนเนอร์ที่โดดเด่นและไฟแรงอีกคนนึงเลยทีเดียว Fear of God เริ่มเป็นที่สนใจจากการรีโปรดัคท์เสื้อทัวร์วงร็อกต่างๆในสไตล์แบบ Oversize ไหล่ตกตามสไตล์ของเขาอย่างเสื้อ Metallica Ride the Lightning สุดจี๊ดที่ใครๆก็ามหา และซิกเนเจอร์ของแบรนด์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คงเป็นกางเกงที่ใส่ Zip ปลายขาของ Fear of God และเสื้อผ้าที่เน้นการ Layering นอกจากนี้ทีเด็ดอีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้คงจะเป็นรองเท้าของ Fear of God ที่เด็ดทุกคอลเลคชั่นจริงๆ

 

2. “Off-White”

ดีไซน์เนอร์อีกหนึ่งคนที่ไม่พูดไม่ได้อย่าง Virgil Abloh โดยเขาเริ่มจากการทำแบรนด์ Pyrex Vision ที่เอาเสื้อ flannels ของ Ralph Lauren มาใส่โลโกของเขาเองจนฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองมาแล้วเมื่อไม่กี่ปีก่อน หลังจากนั้นเขาก็ได้เริ่มทำ Off-White กับโลโกรูปตัว X และซิกเนอเจอร์อย่างการใช้ Helvetica Font ที่ไม่ว่าจะใช้บนอะไรก็เท่ไปสะหมด ไอเทมหลักของแบรนด์ก็เป็นพวก เสื้อยืด Hoodie กางเกง และ Accessories ต่างๆที่จะมาพร้อมกับดีไซน์แบบซิกเนอเจอร์ของแบรนด์ทั้งโลโกกากบาทหรือการใช้ฟร้อนเล่นคำต่างๆ บวกกับลายกราฟฟิคหรือดีเทลการสาดสีแบบแปลกๆที่ผสมกันได้ลงตัวสุดๆ ส่วนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คงจะเป็น Zip Tie สีแดงซิกเนอเจอร์อีกอย่างของแบรนด์ที่แค่ห้อยไปบนรองเท้าก็ทำให้ hype ขึ้นได้แบบ 200%

 

1. Supreme

อันดับคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Supreme แบรนด์ street ขวัญใจมหาชนที่ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็ขายดีไปสะหมด Supreme ก่อตั้งโดย James Jebbia ในปี 1994 ใน New York ไอเทมสุด Icon ประจำแบรนด์คงหนีไม่พ้นเสื้อ Box Logo ที่ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืดธรรมดาหรือ Hoodie ขอแค่มีโลโก Supreme ที่ด้านหน้ายังไงก็ hype จนเป็นที่ต้องการของทุกคน แต่ไม่ใช่แค่นั้นนอกจากเสื้อ Box logo แล้วไอเทมอื่นๆก็สวยไม่แพ้กันไม่ส่าจะเสื้อยืด กางเกง หมวก แจคเก็ต และ Accessories อื่นๆ จุดเด่นคือสีสันของเสื้อผ้าที่หลากหลาย และจุดเด่นอีกอย่างของแบรนด์คือการที่ชอบไป collab กับแบรนด์ต่างๆที่ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าแต่เหมารวมไปแทบจะทุกอย่างทั้งของใช้ ของแต่งบ้าน รถยนต์ อุปกรณ์ช่าง แม้แต่ก้อนอิฐเองยังมี ซึ่งการตลาดที่โดดเด่นนี้ทำให้ Supreme เป็นแถวหน้าที่ทุกคนต่างยอมรับกัน

By SK.bell

Source: Complex

Share:

WATCHA GONNA ดู

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอม ให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save