Nike SB เป็นไลน์รองเท้าที่มักจะให้ความสำคัญกับคอนเซ็ปต์ต่างๆที่นำมาใช้ในงานออกแบบรองเท้า ตั้งแต่รองเท้าไลน์นี้เริ่มวางจำหน่ายในปี 2002 Nike SB มีโปรเจกต์การร่วมงานพิเศษกับแบรนด์หรือศิลปินต่างๆอยู่ตลอดเวลา วันเฉลิมฉลองเทศกาลต่างๆก็เป็นหนึ่งในคอนเซ็ปต์ที่ Nike SB มักจะหยิบยกมาใช้อยู่เรื่อยๆ ไล่ตั้งแต่ St. Patrick’s Day, Cinco de Mayo, Dia de los Muertos, Thanksgiving และ Christmas แต่หากเราจะพูดถึงหนึ่งวันที่ Nike SB ให้ความสำคัญไม่แพ้วันไหนๆหรือบางทีอาจจะมากกว่าเสียด้วย วันนั้นก็คือวันที่ 20 เดือน 4(4/20) ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นวันกัญชาโลกของทุกปีนั่นเอง
วันกัญชาโลก(4/20) มีจุดเริ่มต้นมาจากปี 1970 โดยกลุ่มวัยรุ่นในแคลิฟอร์เนียที่เรียกตัวเองว่า The Waldos ในแต่ละวันพวกเขาจะนัดมานั่งสูบกัญชากันช่วงบ่ายเวลา 4:20 ด้วยการขยายตัวของสังคมผู้สูบกัญชาในแคลิฟอร์เนียทำให้เรื่องราวนี้ถูกแพร่กระจายออกไปจนมีการกำหนดให้วันที่ 20 เดือน 4 ของทุกปีเป็นวันกัญชาโลก เมื่อเวลาผ่านไปก็ได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมีการจัดงานเทศกาล, คอนเสิร์ต หรือนำเรื่องราวไปใช้ในการทำเพลงหรือภาพยนต์กันมากขึ้นเรื่อยๆ
ปี 2004 คือจุดเริ่มต้นของการที่ Nike SB นำเรื่องราวซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ 4/20 มาใช้ในการออกแบบรองเท้า นับเป็นช่วงเวลาสองปีหลังจากที่ไลน์รองเท้า Nike SB ก่อตั้งขึ้น รองเท้าที่ออกวางจำหน่ายในครั้งนั้นมีชื่อเรียกกันว่า “Hemp Pack” โดยเป็นรองเท้าที่มีการนำวัสดุเส้นใย Hemp มาใช้กับรองเท้า Nike SB Dunk Low มีด้วยกันทั้งหมดสามสี คือ mahogany red, bonsai green และ cascade blue
“ความจริงที่ว่าพวกเขาสามารถทำตลาดรองเท้าด้วยการใช้เส้นใยจาก weed ได้มันก็เป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่า Nike SB นั้นเป็นไลน์รองเท้าตกหล่นจากเรดาห์เพียงใดหากเทียบกับไลน์รองเท้าอื่นๆของบริษัท” Jimmy Gorecki อดีตโปรสเก็ต และปัจจุบันเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า Standard Issue กล่าวไว้ โดยเขายังได้เสริมอีกว่า “คุณเคยจินตนาการว่ามีรองเท้าบาสเก็ตบอล 4/20 ของ Nike? หรือรองเท้าสตั๊ดในธีม Purple Skunk ไหมล่ะ?”
หลังจาก Hemp Pack ออกวางจำหน่ายในปี 2004 ทาง Nike SB ก็ทิ้งช่วงไปถึง 6 ปีทีเดียวกว่าที่จะนำคอนเซ็ปต์ 4/20 กลับมาใช้กับรองเท้าของพวกเขาอีก ที่มาของรองเท้าคู่นี้มาจาก Todd Bratrud อดีตพนักงานของ Nike SB ผู้เคยออกแบบรองเท้า Nike SB Dunk “Send Help” ซึ่งถือว่ามีชื่อเสียงมากคู่หนึ่ง โดยเขาได้นำเสนอคอนเซ็ปต์ของรองเท้า Nike SB Dunk High “Skunk” ให้กับ Shawn Baravetto ผู้จัดการอาวุโสด้านผลิตภัณฑ์ในขณะนั้น Baravetto ชอบแนวความคิดนี้จึงมอบหมายให้ Stephen Pelletier ชายผู้ถูกขนานนามว่า “นักเสพกัญชาที่หลงใหลในเรื่องวัสดุ” ร่วมดำเนินการต่อ
Bratrud และPelletier ได้ผสมผสานไอเดียจนกลายมาเป็นรองเท้าที่หน้าตาเหมือน weed เปียกชื้นที่มากจากการผสมสานของหนังกลับที่เป็นขุยสีเขียวและม่วง พร้อมภาพวาดรูปตัวสกั๊งค์หน้าตามึนเมาบริเวณพื้นรองเท้าด้านใน Nike SB Dunk High “Skunk” ถือเป็นการพยักหน้าต้อนรับ “กัญชา” ก่อนที่หลังจากนั้นกฏหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียจะบัญญัติให้มันเป็นพืขถูกกฏหมายในเวลาต่อมา
Nike SB Dunk High “Skunk”
Baravetto กล่าวว่า “รองเท้าคู่นี้เป็นรองเท้า 4/20 คู่แรกที่พวกเราต้องระวังเรื่องข้อกฏหมาย ผมต้องส่งเรื่องไปตรวจสอบข้อกฏหมาย และคำตอบที่ได้กลับมาก็คือ ในส่วนของตัวสกั๊งค์ คุณช่วยทำให้มันดู…ป่วยน้อยลงกว่านี้ได้มั้ย?”
หลังจากที่ Bratrud ได้ปรับในส่วนของดวงตาที่ดูแดงไปหน่อยของตัวสกั๊งค์รองเท้าคู่นี้ก็ได้เวลาออกวางจำหน่ายที่ร้านสเก็ตและมันก็กลายเป็นหนึ่งในรองเท้า Nike SB สุดคลาสสิคในทันที มันได้กลายเป็นตัวจุดประกายการเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ทุกปีด้วยรองเท้า Dunk ในเวลาต่อมา แน่นอนว่ามันไม่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการโดย Nike
“แผนกอื่นๆของ Nike ทุ่มเทให้กับเดือนเมษายนไปกับเทศกาลอีสเตอร์ ดังนั้นสำหรับพวกเรา มันเป็นวิธีที่โดดเด่นและสร้างสรรค์” Pelletier กล่าวต่อไปว่า “อย่างที่คนเก่าคนแก่ว่าไว้นั่นล่ะ การขอขมาทำได้ง่ายกว่าการขออนุญาตเสมอ”
“Sandy Bodecker อดีตรองประธานด้านโปรเจกต์พิเศษและที่ปรึกษาของ Nike SB หนุนหลังพวกเรา” Baravetto กล่าวต่อไปว่า “พวกเราทำในส่วนของคอนเซ็ปต์, งานออกแบบ และขึ้นตัวอย่างเพื่อนำไปพูดคุยกับตัวแทนระดับภูมิภาค จากนั้นก็ทำการพรีเซ้นต์กับเจ้าของร้านสเก็ตต่างๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวเชิงลึกเกี่ยวกับรองเท้า Dunk คู่นั้นจึงออกไปสู่ Blog ข่าวและร้านค้าก่อนที่คนนอกเหนือจากในทีม Nike SB จะได้เห็นงานออกแบบของมัน”
ปี 2011 Bratrud, Pelletier และ Baravetto ร่วมกันทำงานจนออกมาเป็น Cheech & Chong Dunk ที่มีผ้า Bandana สีแดงบนตัวรองเท้าซึ่งสื่อถึงคู่หูตลกจอมเมากัญชาแห่งยุค 70 โดยผืนผ้าแคนวาสสีขาวด้านบนของตัวรองเท้าสามารถถูกฉีกออกเพื่อเผยให้เห็นหนังกลับสีเขียวที่อยู่ภายในได้ซึ่งก็มีเหล่า Sneakerhead บางคนนำไฟเผาบางส่วนของแคนวาสเพื่อให้ตัวรองเท้ามีหนาตาเหมือนมวนกัญชาที่ถูกจุดสูบแล้ว
Nike SB Dunk High “Cheech & Chong”
Cheech & Chong Dunk นั้นก็เป็นเหมือนกับโปรเจกต์รองเท้าอื่นๆของไลน์นี้ที่มีการออกแบบอ้างอิงถึงแต่ไม่ได้มีการติดต่อไปยังตัวแทนของบุคคลหรือองค์กรที่เป็นต้นแบบ พวกเขาไม่ได้ติดต่อไป Cheech หรือ Chong แต่อย่างใด ทำให้หลังวันที่ 4/20 ซึ่งรองเท้าคู่นี้ออกวางจำหน่าย Pelletier จึงถูกหัวหน้าของเขาในขณะนั้นเรียกตัวเข้าไปพบ
“ผมไปทำงานและคนแรกที่ผมเจอก็คือ John Martin อดีตผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Nike SB และเขาพูดกับผมว่า “เพื่อน พวกเรามีปัญหาแล้วว่ะ” จากนั้นก็ลากผมเข้าไปในออฟฟิศของเขา” Pelletier เล่าถึงเรื่องนี้ “ในตอนนั้นผมเริ่มกังวลแล้ว และเมื่อผมนั่งลง สิ่งแรกที่เขาพูดขึ้นมาก็คือ “เมื่อเช้านี้ฉันได้รับสายจาก Mark Parker (อดีต CEO ของ NIke) และเขาไม่พอใจอย่างมากเกี่ยวกับ Cheech & Chong Dunks และฉันได้รับสายจากตัวแทนฝ่ายกฏหมายของคุณ Chong ด้วย” ในตอนนี้ผมเริ่มกังวลและคิดหาทางว่าจะทำยังไงเพื่อให้พวกเราแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ แต่ Martin ก็หยุดผมไว้ด้วยการพูดว่า “กลายเป็นว่าคุณ Chong ตื่นเต้นกับรองเท้าคู่นี้ และเขาต้องการมันเป็นจำนวน 30 คู่เพื่อจับฉลากสำหรับงานการกุศลของมูลนิธิ และเขาต้องการจะมอบตั๋วผ่านเข้าไปหลังเวทีการแสดงของเขาในโชว์ต่อไปที่พอร์ทแลนด์ให้กับนาย” ดังนั้นแทนที่ผมจะตกงานกลายเป็นว่าผมได้พบกับ Cheech and Chong ที่หลังเวทีแทน ทุกอย่างออกมาดีมากเลย”
ช่วงกลางทศวรรษ 2010 Baravetto ได้แยกตัวออกจาก Nike ในขณะเดียวกัน Pelletier ก็ย้ายแผนกไปดูแลด้านฟุตบอลแทน ทีม Nike SB ยังคงวางจำหน่ายรองเท้าสำหรับเทศกาล 4/20 อยู่อย่างต่อเนื่องแต่มันได้สูญเสียความน่าสนใจเฉพาะตัวไป ในปี 2016 Nike SB กลับมาพร้อมวัสดุ Hemp อีกครั้งโดยคราวนี้ใช้สีแดง, เขียว และเหลืองแต่งแต้มให้นึกถึงคู่สีแบบราสต้า จากนั้นในปี 2017 พวกเขาก็ออกวางจำหน่ายรองเท้า Nike SB Dunk Low “Intergalactic” ที่มาพร้อมกับพิ้นผิวรองเท้าสีดำเงาลวดลายอวกาศที่สื่อถึงความรู้สึกของผู้ที่ได้สูบกัญชาดีๆจนรู้สึกเหมือนหลุดออกไปอยู่ในอวกาศ
Nike SB Dunk “Hemp Pack”(2016)
Nike SB Dunk Low “Intergalactic”
เมื่อ Pelletier ย้ายกลับมาที่แผนก Nike SB ช่วงปลายทศวรรษ 2010 Bratrud ก็ได้กลับมาดูแลงานออกแบบของซีรี่ย์ 4/20 อีกครั้ง เขาเริ่มงานของตัวเองด้วยการเลือกโมเดล Dunk Mid มาใช้บ้าง พร้อมกับนำงานวาดของตัวเองที่เป็นรูปแมงมุม White Widow ที่ตาแดงจากการเสพกัญชามาใส่ไว้ที่พื้นรองเท้าด้านในเช่นเดียวกับรุ่น Skunk เมื่อหลายปีก่อน ถือได้ว่ารองเท้ารุ่นนี้เป็นเหมือนภาคต่อโดยตรงกับรองเท้ารุ่นนั้นเลย
Nike SB Dunk Mid “White Widow”
ในตอนนั้น Bratrud ได้กลายเป็นตำนานของวงการสเก็ตบอร์ดทางฝั่งตะวันตกตอนกลางรวมถึงแวดวงออกแบบ เขามักจะใส่เรื่องราวของกัญชาลงในงานศิลปะของเขาอยู่เสมอ โดนมีโอกาสได้นำเสนอมันผ่านแบรนด์สก็ตบอร์ดของตัวเองที่ชื่อว่า The High 5
“เมื่อคุณมีโอกาสได้ทำงานกับคนที่มีพรสวรรค์แบบ Todd งานของคุณก็คือการหาวิธีเพิ่มสิ่งที่เขาทำอยู่แล้ว” Baravetto กล่าวไว้ “เมื่อพวกเขามีแนวคิดอะไรออกมา ก็แค่พูดว่าโอเคออกไปแล้วปล่อยให้ใครบางคนพยายามทำมันออกมาให้เป็นรูปร่าง คุณได้เห็นแล้วตอนนี้มันออกมาเป็น Weed Dunks ความคิดสร้างสรรค์ของ Todd ระเบิดออกมาเพราะมันเป็นสิ่งที่เขาให้ความสำคัญ”
ในปี 2019 Pelletier ได้ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ที่เขาจินตนาการมาตลอดห้าปีนั่นคือ Nike SB Dunk High “The Dog Walker” นอกเหนือไปจากรองเท้าสเก็ต ตอนนี้ Pelletier ได้รับผิดชอบในส่วนของรองเท้าสโนว์บอร์ดด้วย และเช่นเดียวกับบรรดานักสเก็ตที่ Nike SB เป็นสปอนเซอร์ซึ่งชื่นชอบการสูบกัญชาระหว่างการถ่ายทำวีดีโอ บรรดานักสโนว์บอร์ดชั้นนำก็ไม่ต่างกัน มีผู้ทดสอบผลิตภัณฑ์คนหนึ่งที่ยังไม่มีชื่อเสียงซึ่งไม่เพียงเป็นที่รู้จักกันในเรื่องทักษะการเล่นสโนว์บอร์ดของเขาเท่านั้นแต่เขายังเป็นผู้ที่แอบปลูกกัญชาอีกด้วย สายพันธ์ุที่มีชื่อเสียงที่สุดที่เขาปลูกน่ะหรอ? เป็นพันธุ์ผสมจากโอเรกอนซึ่งเรียกว่า “Dog Walker” Pelletier ฝันถึงการทำรองเท้า Dog Walker ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยเขาได้วางแผนเกี่ยวกับคู่สีของรองเท้า, วัสดุที่ใช้, ป้ายห้อยคอสุนัขพร้อมคำว่า “Sparky” ถุงเก็บอุจจาระสุนัขที่นำมาใส่เชือกสำรอง รวมถึงรอยเปื้อนอุจจาระสุนัขที่พื้นด้านใต้รองเท้า
Nike SB Dunk High “The Dog Walker”
Bratud ออกแบบ Nike SB Dunk High “Strawberry Cough” ในปี 2020 ซึ่งเกิดความล่าช้าในการผลิตอย่างไม่มีกำหนดจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่ Bratrud และ Pelletier ไม่ต้องการปล่อยให้ 4/20 ผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาจึงร่วมกันทำรองเท้าที่ลิมิเต็ดสุดๆ ซึ่งเป็นเหมือนภาคต่อของ Nike SB Dunk High “Skunk” เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตัวรองเท้าเป็น Dunk High ที่รีเวิร์สสีในส่วนต่างๆจากรุ่นก่อนหน้า โดยมีการรันหมายเลขการผลิตจำนวน 420 คู่ไว้ที่ด้านข้างรองเท้าด้วย พวกเขาเรียกรองเท้ารุ่นนี้ว่า Nike SB Dunk High Granddaddy Purple (GDP)
Nike SB Dunk High Granddaddy Purple (GDP)
Nike SB Dunk High “Strawberry Cough”
ในปีนี้ Pelletier กลับมาพร้อมกับรองเท้า Nike SB Dunk High “Maui Wowie” ซึ่งเป็นรองเท้าที่เต็มไปด้วยลวดลายดอกไม้ ตัดด้วยสวูซที่ใช้ Hemp เป็นวัสดุ โดยวัสดุชั้นบนของตัวรองเท้าสามารถฉีกขาดเพื่อเผยให้เห็นหนังกลับสีเขียวและลวดลายกัญชาที่อยู่ด้ายใต้ได้
Nike SB Dunk High “Maui Wowie”
รองเท้า 4/20 Dunks หลายคู่จะมีช่องกระเป๋าลับอยู่บริเวณลิ้นรองเท้าเหมือนกับรองเท้าต้นแบบอย่าง Circa รุ่น Pro Model ของ Chad Muska กระเป๋าลับปรากฏขึ้นมาเป็นครั้งแรกกับรองเท้า Nike SB Dunk High “Skunk” ในปี 2010 โดย Pelletier ได้ทดสอบการใช้งานด้วยตนเองโดยนำถุงใส่กัญชาขนาด 8 ออนซ์ใส่ลงไปซึ่งสามารถใส่ได้พอดี หลังจากนั้นกระเป๋าลับก็เป็นรายละเอียดที่ถูกใส่มาในรองเท้า Cheech & Chong, White Widow, Dog Walker, GDP Dunks และ Maui Wowie ในปีนี้
ในขณะที่อุตสาหกรรมกัญชาถูกกฏหมายของสหรัฐอเมริกาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากร้านขายยาใน LA ไปสู่เมือง Detroit จึงทำให้เริ่มมีการออกผลิตภัณฑ์แบบจำกัดจำนวนเหมือนเช่นรองเท้าผ้าใบออกมาบ้าง ผู้คนต่างออกไปต่อคิวซื้อกัญชาสายพันธ์ุใหม่อย่าง Cookies, Sherbinskis, BackpackBoyz และอื่นๆอีกมากมาย
“ความพิเศษซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้มันไฮป์และความต้องการเป็นส่ิงที่ผลักดันตลาดกัญชาเช่นเดียวกับรองเท้าผ้าใบ” Matteo Luciani เจ้าของร่วมของแบรนด์กัญชา The Rare และ Parlay กล่าวว่า “เมื่อคุณเห็นผู้คนต่อคิวเพื่อซื้อรองเท้าและกัญชา พวกเขาก็คือคนประเภทเดียวกัน พวกเขาคือคนที่รักในผลิตภัณฑ์และต้องการสนับสนุนแบรนด์อย่างจริงใจ, เหล่า Hypebeast ที่ต้องการมีส่วนร่วมในซีน รวมถึงรีเซลเลอร์ที่ต้องการแสวงหาผลกำไร แต่กับกัญชานั้นผู้คนจะซื้อมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และทำให้มันหายไปในตลาดมืด รีเซลล์เลอร์จำนวนมากกำลังเข้ามาในตลาดรองเท้าผ้าใบและกัญชา”
การรีเซลล์รองเท้านั้นอาจจะไม่ใช้สิ่งผิดกฏหมาย แต่กระแสความนิยมของ Nike SB ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างนักสเก็ตที่มักจะทำลายรองเท้าไปกับการสวมใส่ใช้งานจริง และเหล่า Sneakerhead ที่ต้องการเก็บรักษามันไว้ราวกับเป็นงานศิลปะชั้นสูง แต่การมาถึงของ 4/20 Dunks ทำให้สิ่งเหล่านั้นเปลี่ยนไป Sneakerhead ไม่จำเป็นต้องเตะ kickflip เพื่ออ้างตัวว่าเป็นตัวจริงอีกต่อไป รองเท้าซีรี่ย์นี้เหมือนเป็นจุดตรงกลางระหว่างคนทั้งสองกลุ่ม
แม้ว่าในยุคกล่องน้ำเงินและสีฟ้าน้ำทะเลของ Nike SB จะไม่ใช่ยุครุ่งเรืองเหมือนก่อน แต่ทุกครั้งที่ 4/20 Dunks ออกวางจำหน่ายมันก็ขายหมดแทบจะในทันทีเสมอ ในปี 2010 ที่ความนิยมของ Nike SB เริ่มลดน้อยลง มีเพียง Dunk ที่ทำขึ้นเพื่อต้อนรับ Eric Koston เข้าทีมเท่านั้นที่เป็นที่จดจำ แต่กระนั้น Nike SB Dunk High “Skunk” ก็ยังสร้างปรากฏการณ์ที่ผู้คนต้องต่อคิวกันข้ามคืน และจำหน่ายหมดในทันที ปัจจุบันราคารีเซลล์ต่ำสุดของรองเท้าคู่นี้ใน StockX ก็ยังสูงถึง $2,500 ส่วน Cheech & Chong Dunks ที่ออกวางจำหน่ายในปีถัดมาก็ยังมีราคารีเซลล์สูงถึง $1,500 แม้แต่ช่วงก่อนที่ Nike SB จะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหลังการวางจำหน่ายรองเท้า Collaboration กับ Diamond รอบที่สองในเดือนพฤศจิกายน 2018 รองเท้า 4/20 Dunks ที่วางจำหน่ายในปีนั้นอย่าง White Widow Dunk ก็ยังขายหมดในทันทีที่ออกวางจำหน่าย
ถึงตอนนี้ Baravetto และ Pelletier ได้แยกตัวออกจาก Nike แล้ว โดย Baravetto ออกไปตั้งแต่ปี 2015 เพื่อเริ่มต้นทำ Proper Skateboarding ซึ่งเป็นแบรนด์รองเท้าสก็ตของตัวเอง ส่วน Pelletier ที่พึ่งแยกทางกับ Nike เมื่อช่วงต้นปีก็ฝาก Maui Wowie Dunk ไว้เป็นโปรเจกต์สุดท้ายของเขากับ Nike การจากไปของสองบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังรองเท้าซีรี่ย์ 4/20 ของ Nike SB ทำให้เราต้องรอติดตามกันต่อไปว่าในปี 2022 หรือปีต่อๆไปเรายังจะได้เห็นรองเท้าซีรี่ย์นี้ออกวางจำหน่ายอีกหรือไม่ เชื่อว่าใครที่อ่านมาถึงตรงนี้คงเริ่มเห็นความพิเศษของรองเท้าในซีรี่ย์นี้มากขึ้นแน่ๆ ถ้ามีโอกาสคว้ามันไว้ก็อย่าพลาดแล้วกัน
อ้างอิงบทความบางส่วนจาก complex.com