ถ้าจะให้พูดถึงร้านรีเทลเลอร์เจ้าใหญ่ชื่อดังถิ่นสยาม ที่อยู่คู่ฟ้าชาวสตรีทแฟชั่นไทยมาอย่างยาวนานกว่า 7 ปี ชื่อของร้าน V.A.C. ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่ว่าใครใครก็ต้องรู้จัก เพราะร้านค้าแห่งนี้ถือได้ว่าเป็น ร้านรีเทลเลอร์ และ Concept Store แห่งแรก ๆ ของเมืองไทยเลยก็ว่าได้
และผ่านมันสมองของผู้บริหารอายุน้อยแต่กำไรร้อยล้าน อย่างคุณบ๊อบ วรากฤช วิวัฒนาเกษม ก็ทำให้ V.A.C. สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างท่วมท้น นับตั้งแต่การเปิดร้านครั้งแรกในปี 2010 ก็ถึงเวลาแล้วที่เขา น่าจะมอบอะไรบางอย่างกลับคืนสู่สังคมบ้างในรูปแบบการกุศล จะเป็นโปรเจ็คท์อะไร จะน่าตื่นเต้นแค่ไหน ลองไปคุยกับเขากันดูได้เลยครับ …
ตอนนี้กำลังทำโปรเจ็คท์อะไรอยู่ครับ ลองเล่าให้ทางเราฟังหน่อย ?
โปรเจ็คท์งาน Collaboration สุดพิเศษในครั้งนี้ของทาง V.A.C. ที่มีชื่อว่า 7th Year Anniversary Project ซึ่งถือเป็นการมอบเซอร์ไพรซ์สุดพิเศษให้กับเพื่อนๆที่คอยสนับสนุนเราและเดินทางร่วมกับเรามาตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันโดยการออก Collection สุดพิเศษ ที่เราได้จับมือร่วมกับแบรนด์อื่นๆถึง 7 แบรนด์
และหนึ่งในเปรเจ็คท์ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในเร็ว ๆ นี้ก็คือโปรเจ็คท์ที่ทางเราร่วมมือกับ The Voice Foundation มูลนิธิการกุศลเพื่อสัตว์เลี้ยงที่ถูกทอดทิ้งของ “คุณเก๋ ชลลดา” นั่นเอง
น่าสนใจมาก รายละเอียดเป็นอย่างไรบ้างครับ ?
เราจะทำการออกวางจำหน่ายเสื้อผ้า และเราก็มีเซอร์ไพรซ์พิเศษร่วมกับแบรนด์ accessories เจ้าใหญ่อย่าง Rastaclat ซึ่งภายในคอลเล็คชั่นนี้ก็จะมีเสื้อยืด หมวก และ Rastaclat อีดิชั่นพิเศษ ซึ่งออกแบบและได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหล่าสัตว์เลี้ยง
ยกตัวอย่างเช่นแพทเทิร์นของลายเสื้อ ที่เรานำลวดลายแพทเทิร์นของขนสัตว์อย่าง สุนัขพันธุ์ดัลเมเชี่ยน , แมวเบงกอล และ ขนสุนัขสีน้ำตาลธรรมดา มาใช้ในงาน สิ่งเหล่านี้คือข้อความที่เราอยากจะบอกว่า พวกสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ไม่ควรจะต้องมาลำบาก เพราะความมักง่ายของคน
คุณบ๊อบคิดว่า ปัญหาสัตว์เลี้ยงที่ถูกทอดทิ้งเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
ปัญหานี้มันก็เกิดจากการตัดสินใจที่ไม่ดี , ความไม่พร้อมของผู้ที่ตัดสินใจจะเลี้ยงสัตว์ และทัศนคติหลาย ๆ อย่างของบุคคลเหล่านี้ และที่เราตัดสินใจยื่นมือเข้ามาช่วย เพราะเรารู้สึกว่าพวกสัตว์เลี้ยงเนี่ย ไม่ได้มีความอาฆาตมาดร้ายต่อเราหรอกนะ ถ้าเราปฏิบัติกับเขาเป็นอย่างดี เรารู้สึกว่าเราช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกในลักษณะนี้ เราสบายใจกว่าช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันซะอีก (หัวเราะ)
เท่าที่เข้ามาภายในร้าน ก็รู้สึกว่าในส่วนของ Interior ของทางร้านเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร ?
เราตัดสินใจ Renovate ในส่วนของ Interior ร้านใหม่ทั้งหมด ซึ่งสเปซการใช้งาน รวมไปถึงการจัดวางต่าง ๆ ก็จะมีความร่วมสมัยมากขึ้น แน่นอนว่าการจัดวางร้านในแบบ Los angeles Concept Store ก็ทำให้เราสามารถวางสินค้า และทำให้มันกลายเป็นจุดสนใจของผู้เยี่ยมชมได้อย่างมากขึ้นอีกด้วย
เท่าที่ทราบมา รู้สึกว่าโปรเจ็คท์ที่มีชื่อว่า 7th Year Anniversary Project จะน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย ลองเล่าให้ฟังหน่อย ?
เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 7 ปีของทางร้าน ทางเราก็มองว่าเลข 7 เนี่ยเป็นตัวเลขที่ดีนะ เราจึงเล่นกิมมิคตรงนี้ด้วยการร่วมงาน Collaboration กับแบรนด์อื่น ๆ ทั้งหมด 7 แบรนด์ด้วยกัน ได้แก่ Carnival , Fuxury , Rastaclat , Urface , The Voice Foundation และ Zimplex ซึ่งแบรนด์เหล่านี้ส่วนใหญ่ ก็ได้รับแรงบันดาลใจมากจากไลฟ์สไตล์ของเราเอง อย่าง Zimplex เนี่ยก็เป็นบาร์แห่งหนึ่งในภูเก็ต ที่มีเอกลักษณ์และจุดยืนของตัวเองแบบชัดเจนมาก ๆ ในขณะที่แบรนด์อย่าง Carnival ที่เราเลือกร่วมงานด้วยทั้งที่เป็นคู่แข่งกันในทางธุรกิจ ก็เพราะว่าเรากับ พรินท์ (คุณพรินท์ Carnival ) เขาเป็นเพื่อนกับเรา และเราก็ Respect เขาในแนวทางและความเก่งกาจทางการค้า
มีอะไรอยากประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการนี้ให้เหล่าสาวกสตรีทแฟชั่นได้รับทราบกันไหม ?
ในวันเสาร์ – อาทิตย์ ที่ 19-20 สิงหาคมนี้ ก็เป็นวันเกิดครบรอบปีที่ 5 ของมูลนิธิ The Voice Foundation พอดี ทางเราก็ขอเรียนเชิญทุกท่านที่สนใจ เข้าร่วมในกิจกรรมเพื่อน้องๆ 4 ขาทุกชีวิต “MHA-MA-THA” (หมามาท่า) โดยภายในงานจะมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Fashion Show , Mini-Concert และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงการวางจำหน่ายเสื้อผ้าคอลเล็คชั่นนี้อีกด้วย
ก็เรียกได้ว่า สำหรับผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างเขา น้อยคนนักที่จะมีจิตกุศลขนาดนี้ ทาง Soul4street ต้องขอชื่นชมในความใจกว้างของเขาจริง ๆ ครับ !!