ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า กระแสของรองเท้าสนีกเกอร์นั้นดีขึ้นแต่ก่อนมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความพรั่งพรูบนข่าวสารโลกออนไลน์ ที่ทำให้ผู้หลงรักรองเท้าสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างง่ายดายกว่าแต่ก่อน บวกกับคลื่นโลกาภิวัฒน์ของ Facebook ที่คอยคุมกลไกราคาของตลาดและราคาโลก ก็ทำให้การเข้าถึงหรือศึกษาศาสตร์รองเท้าสนีกเกอร์นั้น ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน ส่งผลให้ในยุคนี้ มีผู้คนที่ถูกเรียกว่า "สนีกเกอร์เฮด" หน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย
และเรื่องที่ท้าทายเรื่องหนึ่งของเหล่าผู้สวมใส่รองเท้ารายน้อยใหญ่ทุกคน ก็คือการ "ดูแลรักษา" ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ถ้าผู้เขียนหยิบยกขึ้นมาพูดอย่างจริงจัง มันอาจจะดูเหมือนคนขี้ระแวงเกินไปหน่อย แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น การดูแลรักษารองเท้าเป็นเรื่องที่ "ไม่ง่าย" เสียทีเดียว
ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำไมเราจึงควรให้เหล่า "มืออาชีพ" คอยดูแลและรักษารองเท้าของเรา …
เริ่มต้นด้วยความชอบและหลงใหลในกระแสรองเท้าสนีกเกอร์ยุคมิลเลเนียล หนุ่มน้อยวัย 20 ต้น ๆ อย่าง "ชอน" ไชยพร ศิริกลการ "ต้อง" ศรัณย์ อาจปรุ สองเพื่อนรักตั้งแต่สมัยมัธยม และ "ลูกตาล" วิตต์ธาดา เภาคำ เพื่อสาวคนสนิทของชอน เหล่าวัยรุ่นเจนใหม่ไฟแรง ที่มองเห็นช่องทางในการทำธุรกิจครั้งนี้ นับตั้งแต่กระแสรองเท้าสนีกเกอร์บูมเป็นพลุแตกในช่วงปีที่แล้วเป็นต้นมา
แน่นอนว่าในการที่จะเริ่มลงมือทำอะไรในครั้งแรกไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนับจากวันแรกที่ริเริ่มโปรเจ็คท์ SHKLEANER นี้ ทั้งคู่ตัดสินใจเริ่มต้นจากการแจกใบปลิวในหมู่บ้านกว่าหลายร้อยใบ โดยที่มีฟีดแบ็คกลับมาคือลูกค้าเพียงแค่คนเดียว …
ถึงอย่างไรก็ตามนั้น ทั้งสามก็ไม่ได้ละความพยายามแต่อย่างใด แต่กลับตัดสินใจที่จะบุกตลาดรองเท้าแบบเต็มสูบ ด้วยการประสานงานติดต่อไปยังอีเวนท์ Sneaker Party Thailand เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จนสามารถสร้างพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ในการริเริ่มความฝันอันใหญ่โตในห้องโถงใหญ่ ใจกลางห้างสรรพสินค้าขนาดยักษณ์กลางห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งความมุ่งมั่นดังกล่าวนี้ก็ไปเตะตา "คุณพีค" ศุภกฤต ยศฟุ้งกุล แบรนด์เมเนเจอร์ของ SEEK Thailand ผู้มองเห็นความเป็นไปได้ในการขยับขยายแฟรนไชส์ SHKLEANER แบรนด์นี้
ซึ่งทั้งหมดที่เล่ามาข้างต้นนั้น ก็เป็นที่มาของงาน Collaboration ที่มีชื่อว่า SHKLEANER x SEEK THAILAND บูธทำความสะอาดรองเท้าครบวงจร ด้วยพื้นฐานการบริการแบบ 1 – Stop – Service ที่เพียงแค่นำรองเท้ามาฝากไว้ที่พวกเขา ท่านก็สามารถที่จะรอรับรองเท้าคู่เก่าในคราบใหม่ได้เลยด้วยการบริการแบบ Full Service ดูแลรองเท้าของท่านแบบครบวงจร หรือจะเลือกทำความสะอาดแบบพื้นฐานชนิดด่วนจี๋ที่สุด ซึ่งสามารถรอรับได้เลยในระยะเวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น
ซึ่งจากความพยายามทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ก็ดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านั้นเริ่มจะผลิดอกออกผลออกมาอย่างงดงามบานเบ่ง เมื่อทางผู้สัมภาษณ์เห็นจำนวนผู้ใช้บริการพวกเขาในครั้งนี้ ที่มีคิวรองเท้ากองรอไว้มากมายเสียเหลือเกิน …
"นับเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญของเราเลย สำหรับการร่วมงานกับทาง SEEK Thailand ในครั้งนี้ เพราะจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ บวกกับบรรยากาศความเป็นกันเองของทางร้านที่ไม่เลือกประเภทลูกค้าอยู่แล้วว่า จะต้องเป็นสนีกเกอร์เฮดเท่านั้นนะ ถึงจะเข้ามาดูของได้อย่างสบายใจ ด้วยงานบริการที่ดีมีคุณภาพอยู่แล้วของ SEEK ก็ทำให้ร้านเราได้รับผลพลอยได้เป็น Positive minded จากลูกค้าของทางร้านไปด้วย เขาก็จะจำเราในฐานะผู้ให้บริการที่น่ารัก (หัวเราะ)" ลูกตาลตอบอย่างฉะฉาน กับทางผู้สัมภาษณ์อย่างเป็นกันเอง
"แม้กระทั่งน้ำยาที่เราใช้ ก็เป็นสูตรที่ทางเราผสมเองครับ เรามั่นใจว่าคุณภาพของน้ำยาทำความสะอาดทุกชนิดที่เราใช้ ไม่แพ้ยี่ห้อยักษ์ใหญ่ของทางฝั่งต่างประเทศแน่นอน" ชอนและต้องตอบผู้สัมภาษณ์อย่างมั่นใจ ในยามที่เขาได้สังเกตเห็นว่า น้ำยาที่ใช้ดูแปลกตา แตกต่างจากยี่ห้ออื่น ๆ ที่เคยเห็นมาจากที่ ไหน ๆ …
และเป็นที่แน่นอนว่า พวกเขาจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ ด้วยวิสัยทัศน์ที่เปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยานประสาคนรุ่นใหม่ ทำให้ภาพฝันการเปิดจุดทำความสะอาดรองเท้า ตามสถานีรถไฟฟ้าของเขาเริ่มเป็นรุปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว การเปิด Pop – Up Store ที่ SEEK Thailand ทั้งสามสาขา อันได้แก่ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว , สาขาเมก้า บางนา และ สาขาเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ คือจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ ในการขยับขยายแฟรนไชส์ในอนาคต …
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SEEK THAILAND
Facebook : SEEK Thailand
Instagram : SEEK Thailand