แน่นอนว่าต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว นอกจาก Neil Young ที่เป็นอีกหนึ่งศิลปินไอคอนิคของแบรนด์สเก็ตบอร์ดจากเมืองนิวยอร์คแบรนด์นี้ ด้วยการไปปรากฏตัวอยู่บนเสื้อยืดของ Supreme หลายท่านก็น่าจะเคยเห็นหน้าค่าตาของสุภาพสตรีหน้าคม ผมดำยาว ดูมีสเน่ห์และแรงดึงดูดได้เพียงแค่มองใบหน้าของหล่อนบนรูปภาพ ซึ่งในวันนี้ทาง Soul4street จะพาทุกท่านมารู้จักกับเธอกันซักหน่อย …
ซึ่งชื่อของเจ้าหล่อนคนนี้ก็คือ Sade (หรือที่รู้จักกันดีในอีกชื่อหนึ่งว่า Helen Folasede Adu) เป็นศิลปินนักร้องชาวไนจีเรียน ที่ไปเติบโตในอังกฤษ เธอถือเป็นศิลปินฝีมือฉกาจอีกคนหนึ่งของวงการ และเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินในยุคหลังอีกมากมายทั้งในฝั่งฮิปฮอป และเพลงแนวอื่น ๆ อีกทั้งยังเคยร่วมแสดงในภาพยนตร์นอกกระแสบางเรื่องอีกด้วย
Sade เริ่มต้นอาชีพของเธอด้วยการเป็นดีไซน์เนอร์ออกแบบเสื้อผ้าผู้ชาย และเปิดกิจการโมเดลลิ่ง ซึ่งในระหว่างที่เธอทำงานสองชิ้นนั้นเป็นหลัก เธอก็ได้สานต่อความฝันในวงการดนตรีด้วยการเป็นนักร้องแบ็คอัพให้กับวง Pride ซึ่งในภายหลัง สมาชิกภายในวงนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของวงเมื่อตอนที่ Sade ได้ทำการเซ็นสัญญากับ Epic Records แล้วเป็นที่เรียบร้อย
โดยอัลบั้ม Diamond life ที่ปล่อยออกมาในปี 1984 ที่เป็นการเดบิวท์ชีวิตนักดนตรีของ Sade อย่างเป็นทางการเลยก็ว่าได้ โดยอัลบั้มดังกล่าวนี้ ใช้เวลาในการทำงานเพียง 6 สัปดาห์เท่านั้น ที่ Powerplants Studio ใจกลางกรุงลอนดอน ซึ่งอัลบั้มดังกล่าวนี้ก็ดังเปรี้ยงปร้างจากเหล่าซิงเกิ้ลอย่าง "Smooth Operator" และ "Your love is king" ซึ่งนี่ถือว่าเป็นปรากฏการณ์แห่งยุค 80s อย่างแท้จริง ด้วยยอดขายเทปกว่า 6 ล้านก็อปปี้ในยุคนั้น และอัลบั้มนี้ยังถือได้ว่าเป็นอัลบั้มหญิงเดี่ยวชาวบริติชที่มียอดขายอัลบั้มเดบิวท์สูงที่สุดอีกด้วย
ในปีถัดมา หลังจากที่อัลบั้ม Promises ได้ออกสู่หูประชาชน และครองชาร์ทอันดับที่ 1 ในตอนนั้น Adu ก็ได้เริ่มเดินทางเข้าสู่วงการจอเงินเป็นครั้งแรก ด้วยการรับบทบาท Athene Duncannon นักร้องคาแรคเตอร์จัดในภาพยนตร์เรื่อง Absolute Beginners ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีพอสมควร และนี่ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องเดียวที่เธอเล่นจนถึงทุกวันนี้
และนับตั้งแต่ช่วงนั้น จนมาถึงปี 2000 เธอก็ปล่อยอัลบั้มออกมาอีกสองอัลบั้ม ในช่วงระยะเวลากว่า 10 ปีนั้น (ได้แก่ Stronger than pride ในปี 1988 และ Love Deluxe ในปี 1992 ) แต่ท้ายที่สุดแล้วอัลบั้ม Lovers Rock ก็เป็นอัลบั้มสุดท้ายของเธอ เธอตัดสินใจที่จะยุติการทำอัลบั้มไว้แต่เพียงเท่านี้ ด้วยเหตุผลที่เธอต้องการให้เวลากับการเลี้ยงและดูแลลูกสาวของเธออย่างเต็มที่ แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็กลับมารวมตัวกับทางวงอีกครั้งในปี 2010 ภายใต้โปรเจ็คท์ที่มีชื่อว่า Soldiers of love และคว้ารางวัล Grammy awards ไปครอง กับเพลงชื่อเดียวกันกับอัลบั้มนั้น
ซึ่งนอกจากความสามารถที่มากมายหลายหลาก และใบหน้าทรงสเน่ห์หาตัวจับยากของตัวเจ้าหล่อนแล้วนั้น หล่อนยังถือได้ว่าเป็นศิลปินที่เข้าถึงยาก และรักษาความเป็นส่วนตัวมากเป็นอย่างยิ่งคนหนึ่งของวงการ (เมื่อเทียบกับความดังของเธอ) และเมื่อบวกกับการที่เหล่าศิลปินฮิปฮอปทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นเล็ก มักจะนำเพลงของเธอไป Sampled อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น Snoopdogg , Drake หรือแม้กระทั่ง Rick Ross ก็ล้วนแล้วแต่เคยนำเพลงของเธอมาแซมเปิลกันหมดแล้วทั้งสิ้น
และเมื่อต่อยอดเรื่องราวไปถึงตัวของ Angelo Baque อดีต Creative director ของแบรนด์ Supreme ซึ่งตัวเขานั้นเป็นแฟนตัวยงของ Sade ก็คงทำให้ข้อสงสัยที่ว่าทำไม Supreme ถึงทำเสื้อลายของ Sade นั้น ได้ถูกทำให้กระจ่างไขได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
Supreme เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของผู้นำทางรสนิยมดนตรีที่ดีมาตั้งแต่สมัยก่อน พวกเขาไม่ได้จำกัดตัวเองไว้ด้วยการฟังเพลงแนวใดแนวหนึ่ง เพราะพวกเขาถือว่า คนเราสามารถชอบอะไรได้ตั้งหลายสิ่งในเวลาเดียวกัน ซึ่งนั่นก็เป็นเมนไอเดียและคอนเซปท์ในการทำเสื้อผ้าของเขา และแนวคิดดังกล่าวนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันแบรนด์ Supreme ให้เดินมาถึงสุดยอดระดับโลกได้จนทุกวันนี้ .
