เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์สตรีทแวร์ที่น่าจับตามองที่สุดในขณะนี้ สำหรับ VLONE ผ่านการบริหารงานของสามยอดมนุษย์ของวงการสตรีทแฟชั่นในปัจจุบันอย่าง A$AP Rocky , A$AP Bari และ Edison Chen แห่ง CLOT ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเพียงแบรนด์เสื้อผ้าสตาร์ทอัพขนาดเล็กเท่านั้น ณ เวลานี้ ด้วยจำนวนเสื้อผ้าที่ผลิตมาจำนวนไม่ได้มากมายนัก และมุ่งเป้าไปที่การขายเสื้อผ้าผ่าน Pop-up Store เล็ก ๆ ของพวกเขาเพียงเท่านั้น …
ซึ่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา พวกเขาก็สร้างปรากฏการณ์ขนาดเล็กพริกขี้หนูไปแล้วอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการร่วมงานกับ OFF-WHITE ของ Virgil Abloh การร่วมงานกับ Fragment design ของคุณพ่อ Hiroshi Fujiwara หรือแม้กระทั่งการนำไอดอลของพวกเขาอย่าง 2 Pac ที่สามารถสะท้อนนิยามคำว่า "Thug life" ออกมาได้อย่างครบเครื่อง มาร่วมถ่ายทอดความงดงามน่าหลงใหล ผ่านเสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่ได้อย่างลงตัว
VLONE x fragment design @ PARK ING GINZA
จากที่เกริ่นมาอาจจะดูเหมือนว่า เสื้อผ้าของเขามีเพียงแต่กลิ่นอายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนาน ความคึกคะนองของเด็กแก๊งค์ ที่น่าจะหล่อหลอมผ่านสภาพแวดล้อมของ Harlem แห่งเมืองนิวยอร์ค ที่พวกเขาและแก๊งค์ A$AP Mob เติบโตมา ต้องขอบอกเลยว่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่ใกล้เคียงเลยสักนิด เพราะตัวคอนเซ็ปท์ของแบรนด์นั้น นำมาจากคำพูดหนึ่งของสุดยอดผู้กำกับภาพยนตร์ชั้นครู เจ้าของผลงานอย่าง Citizen Kane ที่ว่า
“We’re born alone, we live alone, we die alone. Only through our love and friendship can we create the illusion for the moment that we’re not alone.”
(เราเกิดมาอย่างโดดเดี่ยว เพื่อมีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว และลาโลกใบนี้ไปอย่างโดดเดี่ยว มีเพียงแค่มิตรภาพและความรักเท่านั้น ที่เป็นภาพลวงตาชั่วขณะว่าเราไม่เคยโดดเดี่ยว)
ประโยคที่กล่าวมา เรียกได้ว่าเป็นประโยคที่โคตรดาร์ค ท่านที่เพิ่งอ่านประโยคเมื่อสักครู่จบไป ก็อย่าเพิ่งปิดเฟสบุ๊คแล้วบอกเลิกคบเพื่อนสนิทในทันที เพราะถึงแม้ว่าตัวของ Orson Welles จะเคยพูดไว้ซะน่าหดหู่ขนาดนี้ A$AP Mob ก็เป็นแก๊งค์ที่เป็นตัวอย่างที่ดีของมิตรภาพระหว่างเพื่อน ที่พวกเขามีให้กันมากมายอย่างไม่รู้จบจนถึงปัจจุบัน
นับตั้งแต่การจากไปของ A$AP Yams ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาผ่านจุด "Coming of age" กันมาด้วยกันทั้งหมด และมีความสุขุมนิ่มนวลมากขึ้น เมื่อเจอปัญหาหรือคำถามน่ากดดันต่าง ๆ จากเหล่าสื่อ ถึงอย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังคงรักษาจุดยืนของความเป็น "เด็กแก๊งค์" เอาไว้ได้อย่างมั่นคง พวกเขาไม่ได้มองว่าการทำเสื้อผ้า VLONE เป็นธุรกิจเชิงพาณิชย์แม้แต่น้อย ที่พวกเขาตั้งใจขายมันในแบบ Pop-Up Store ก็เพื่อที่จะรักษาจุดยืนตรงนั้น
แม้จะควบคุมอะไรทั้งหมดไม่ได้ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็เป็นความพยายามที่พวกเขาตั้งใจให้มันเป็นจริง … พวกเขาเคยตอบกับผู้สื่อข่าวบนบทสัมภาษณ์กับทาง Highsnobiety ว่า พวกเขาไม่เคยนิยามตัวเองว่าเป็น Street fashion พวกเขาคือ Hood fashion
พวกเขามีความรู้สึกว่า VLONE คือตัวแทนของวัฒนธรรมย่าน Harlem ที่พวกเขาเติบโตมา เมื่อตัวเสื้อผ้าได้ไปโลดแล่นที่ใดก็ตามบนโลกใบนี้ วัฒนธรรมของเด็กย่าน Harlem ก็ถูกพกติดตัวไป เพื่อเผยแพร่และแสดงออกอย่างชัดเจนด้วยในเวลาเดียวกัน
VLONE x 2 Pac Pop-up Store in Los Angeles
แต่ถึงอย่างนั้นความ "HYPE" ก็เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่พวกเขาจะควบคุม เกิดการ Resell รองเท้าสนีกเกอร์ VLONE x Air Force 1 ของพวกเขาพุ่งไปเกือบเฉียดแสน เสื้อผ้าที่วางจำหน่าย ณ Pop-up Store ของเขาทุกหนแห่งหมดเกลี้ยงในสอง – สามชั่วโมงแรกที่เริ่มวางจำหน่าย และงาน Collaboration กับแบรนด์ดังต่าง ๆ มากมายที่รอต่อคิวร่วมงานกับพวกเขา เพราะในแง่เชิงพาณิชย์ "มันขายได้" และยังขายดีแบบเทน้ำเทท่าเสียด้วย
แต่ถ้าจะให้ตั้งคำถาม เกี่ยวกับความพยายามที่จะทำให้เสื้อผ้าตัวนี้ "ไม่อยู่ในกระแส" ของ A$AP Bari แต่กลับกลายเป็นกระแสในตอนนี้นั้น ก็คงยาก เพราะสุดท้ายพวกเขาก็ออกตัวตั้งแต่ต้นแล้วว่า พวกเขาแค่อยากจะเป็น "เด็กแสบ" แบบนี้ต่อ ๆ ไป และไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรในชีวิตแบบเป็นหลักเป็นวา นี่คือสิ่งที่พวกเขาเป็นมาตลอด …
เพราะฉะนั้นถ้าจะแซะพวกเขาว่า "แหมม … ไม่อยากรวยเหรอจ๊ะ เพิ่งรู้นะเนี่ย !" เราก็คงโดนตอกกลับมาว่า "ก็เงินมันมาเองนี่หว่า จะให้กูทำยังไง ?" เพราะนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นการเดบิวท์ในปี 2006 พวกเขาก็สร้างปรากฏการณ์ต่าง ๆ ให้กับวงการอย่างมากมาย เด็กวัยรุ่นหลายคนอยากรวมกลุ่มกันแล้วเท่ห์เหมือน A$AP Mob , ผู้ชายหลายคนอยากแต่งตัวเท่ห์เหมือน A$AP Rocky และบางทีก็อยากจะมีโมเมนต์ที่ได้สนุกกับชีวิตแบบพวกเขาบ้าง …
คำว่า VLONE สามารถแปลงเสียงเป็นคำว่า "We are alone" ได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในช่วงชีวิตที่เราได้เกิดมา มันก็คุ้มมากแล้วมิใช่หรือกับการที่ได้รู้จักคำว่า "เพื่อน" อย่างแท้จริง นี่คือสิ่งที่ VLONE ก็พยายามจะบอกเราอยู่เหมือนกัน