จากพ่อค้าขายเสื้อยืดออนไลน์ เร่ขายของตามตลาดนัด ใครจะคิดว่า “Q Design and Play” จะเป็นหนึ่งในแบรนด์ไทยที่ไปเฉิดฉายอยู่ในเวทีโลก และมีรากฐานของตัวเองอย่างมั่นคง ด้วยร้านค้าออนไลน์และช็อปบนชั้น 3 ของ Siam Center ในปัจจุบัน
แต่กว่าที่เขาจะสามารถประสบความสำเร็จมาถึงจุดนี้นั้น เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง ? ในวันนี้ทาง Soul4street จะมานั่งพูดคุยกับคุณอาร์ท ประพัฒน์ สมบูรณ์สิทธิ์ ผู้ก่อตั้ง Q design and play แบรนด์สตรีทไทยที่ไปไกลถึงเวทีโลก !
เริ่มต้นแบรนด์ Q design and play ได้อย่างไร และตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ?
ต้องเล่าย้อนไปก่อน เราจบ Graphic design มาจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ก็มาทำงานอยู่ที่เอเจนซี่โฆษณา แล้วเราก็พบว่าเราไม่ได้มีความสุขกับตรงนั้น จึงมาทำธุรกิจของตัวเอง ซึ่งก็เริ่มจากขายเสื้อยืดออนไลน์ประมาณช่วงปี 2010 (เป็นเรื่องที่ใหม่มากในสมัยนั้น) จากนั้นเอาเงินเดือนก้อนสุดท้าย มาเช่าร้านเล็กๆ อยู่ที่สวนลุมไนท์บาร์ซา ซึ่งเปิดได้ประมาณ 4 เดือนก็มีม็อบ ซึ่งด้วยสถาณการณ์ทางการเมืองตอนนั้นก็ทำให้เราเจ๊งไปเลย (หัวเราะ)
ช่วงกลางปีเหตุการณ์เริ่มสงบ หลังจากนั้นเราก็เริ่มแก้เกมส์ ด้วยการไปเปิดร้านขายของแบกะดินตามตลาดนัดต่าง ๆ พอได้ทุนมาก้อนหนึ่ง เราก็เห็นช่องทางของสถาณการร์ในตอนนั้นคือ มีคนปิดตัวเพราะขายของไม่ได้เยอะมาก เราก็ได้พื้นที่เป็นของตัวเองตรงใต้โรงหนังลิโด้ ซึ่งจากจุดนั้นเราก็เริ่มทำคอลเล็คชั่นของตัวเองออกมา
ช่วงเดือนธันวาคมมีร้าน Multibrand ที่ชื่อ Mob.F อยู่ในตอนนั้น (ตอนนี้ปิดตัวลงแล้ว) เราก็เลยตัดสินใจขอเข้าไปร่วมแจม ซึ่งการตัดสินใจในวันนั้นมันไม่ผิด เราได้เรียนรุ้เรื่องระบบการสต็อตสินค้าของที่นั่น เริ่มมีห้างต่าง ๆ ติดต่อเข้ามามากขึ้น ทุกอย่างเริ่มต้นจากจุดนั้นครับ …
ที่มาของชื่อ Q Design and Play มาจากอะไร ?
ไม่มีความหมายครับ คือตัวโลโก้ของแบรนด์ออกมาก่อน เป็นดีไซน์แนวแบบ Geomatrix หน่อย ทีนี้มันดันไปคล้ายกับตัว Q เราก็เลยเอาชื่อนี้แหละ Q Design and Play เชื่อมกับคอนเซ็ปท์ของแบรนด์ที่ว่า “We design , You Play ด้วยไปในตัว”
แล้วจุดเริ่มต้นที่คิดว่าทำให้ Q Design and Play เริ่มเป็นที่รู้จัก คิดว่ามาจากอะไรครับ ?
ในปี 2013 ตอนนั้นเป็นคอลเล็คชั่นที่มีชื่อว่า “อินทรีย์แดง” ได้รับเชิญให้ไปร่วมงาน Seoul Fashion Week ในจุดแรกที่เขาเชิญเรา เราไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นอะไรที่ทำให้แบรนด์ของเราบูมขึ้นมาได้หรอกนะ แต่หลังจากที่กลับมาก็มีสื่อทั้งไทยและต่างประเทศให้ความสนใจเราเยอะมาก
ซึ่งคอลเล็คชั่นดังกล่าวนั้น ก็พูดถึงสถาณการณ์บ้านเมืองที่ระส่ำระส่ายในตอนนั้น ว่าประเทศของเราต้องการฮีโร่สักคนหนึ่ง มากอบกู้ความยุ่งเหยิงทั้งหมดทั้งมวล ซึ่งการหาประเด็นต่าง ๆ ในสังคมมาเล่าผ่านเสื้อผ้า ก็เป็นจุดยืนในเรื่องของคอนเซ็ปท์การออกแบบของเรามาโดยตลอดนะ …
มีอะไรในใจที่อยากจะบอก เกี่ยวกับการทำงานออกแบบเสื้อผ้าไหมครับ ?
ผมมีเรื่องอยากจะพูดเยอะมาก แต่คนไม่ค่อยฟัง คือถ้าให้พูดกันจริง ๆ เราเป็น Nobody ในวัยเด็กนะ ไม่ใช่คนที่โดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ ซึ่งมันก็ส่งผลกับพลังในการออกแบบของเราอยู่เหมือนกัน เพราะตอนเด็ก ๆ เราไม่ค่อยได้พูด
ไลฟ์สไตล์ของคุณอาร์ทเป็นอย่างไรบ้างครับ ?
ถ้าคุณคิดว่าภาพลักษณ์ของดีไซน์เนอร์คือคนเปรี้ยว ๆ ใช้ชีวิตโลดโผน นั่นไม่ใช่ผมแน่นอน (หัวเราะ) เป็นคนที่อยู่ในกรอบมาตลอด แต่ถามว่าเป็นคนดื้อมั้ย … ใช่ เราดื้อเงียบ แต่เราก็ไม่ใช่คนที่กล้าเสี่ยงหรือมีลูกบ้าบิ่นอะไรขนาดนั้น บวกกับผมโตมากับวีดีโอเกมส์ (ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังเล่นอยู่) ชอบอ่านหนังสือการ์ตูน ชอบต่อกันดั้มมาก คือพอเราโตมากับความที่พ่อแม่เราค่อนข้างเคร่งขรัดกับโลกภายนอก สิ่งเร้าเหล่านี้ก็มีอิทธิพลกับผมมาก ๆ จนถึงตอนนี้
แล้วเข้ามาคลุกคลีอยู่ในวงการเสื้อผ้าได้อย่างไรครับ เพราะสิ่งที่คุณเล่ามาค่อนข้างขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของดีไซน์เนอร์ทั่วไป ?
เราก็สนใจเรื่องเสื้อผ้าแบบเงียบ ๆ ของเราอยุ่ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนะ ไม่ว่าจะในสื่อประเภทไหน ๆ เราก็จะดูเรื่องของเสื้อผ้าอยู่เสมอ
บวกกับตอนเด็ก ๆ ผมชอบโดนสบประมาท เพราะผมเป็นคนแบบนี้นี่แหละ มันเลยเป็นแรงผลักดันชั้นดีที่จะทำให้คนอื่นเห็นได้ว่า ผมทำได้นะ เห็นรึยัง ?
ลองพูดถึงคอลเล็คชั่น YOU CAN'T HURRY LOVE SS 2017 หน่อยครับ ได้ข่าวว่ามีเสียงตอบรับไปในทางที่ดีมาก !
คอลเล็คชั่นนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมาก … มาก ๆ เลยแหล่ะ คือตัวนี้มันได้ไปเดินที่งาน Paris Fashion Week และ ELLE Fashion Week ที่ผ่านมา ซึ่งผลวิจารณ์ส่วนใหญ่ไปในเชิงบวก และมันเป็นตัวเราจริง ๆ ความขบถ ความเป็นเด็กเก็บกด เรื่องพวกนี้ถูกเล่าผ่านเสื้อผ้า ด้วยเรื่องราวของเพศล้วน ๆ
คนไทยอายเวลาไปซื้อถุงยาง แม้แต่ผมเองผมยังอายเลยนะเวลาไปจ่ายเงิน ซึ่งมันผิด ! ถุงยางเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตคน เป็นสิ่งที่ปกป้องและรัดกุม แต่คนไทยเอาเรื่องเหล่านี้ไปหมกไว้ใต้พรม และสอนความรู้เรื่องนี้แบบผิด ๆ จนทำให้เกิดปัญหาสังคมขึ้น
คุณอาร์ทมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับสถาณการณ์สตรีทแฟชั่นในปัจจุบันครับ ?
เราชอบ Opening Ceremony เขาสนุก และเรื่องที่เขาเล่ามันเสียงดังมาก ผมรักในจริตและงานสีสันของเขา แล้วก็ Demna Gvasalia (เจ้าของ Vetements) เขาก็กล้าดี ทำอะไรสนุก ๆ ออกมา ถ้าสังเกตดูจริง ๆ คือเราชอบศิลปินแนวขบถหมดเลย เรารู้สึกการหยิบประเด็กของสังคมมาเล่า มันมีความหมายนะ เพราะเสื้อผ้ามันมากกว่าเครื่องแต่งกายในแต่ละวันอยู่แล้ว มันสื่อข้อความที่คุณต้องการจะสื่อออกมาได้ ผ่านเสื้อผ้านี่แหละ
ส่วนสถาณการณ์แฟชั่นในปีนี้ก็สนุกดี Louis Vuitton ก็พยายามจะเข้าหาความเป็นสตรีทแวร์มากขึ้น ซึ่งมันทำให้แฟชั่นสนุกขึ้นนะเราว่า แต่ถ้าถามว่าเขาจะเปลี่ยนโฉมตัวเองไปเลยมั้ย ก็คงไม่หรอก … มันเป็นเรื่องของเทรนด์มากกว่า
และนี่ก็เป็นเรื่องราวของอีกหนึ่งดีไซน์เนอร์คนไทยที่น่าจับตามองที่สุดในปัจจุบัน ด้วยแนวคิดที่จะส่งเสียงดังในบริบทของสังคมไม่ว่าเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ผ่านเสื้อผ้าของเขาได้อย่างแยบยล และคมคาย อีกทั้งยังมีความหมายให้ได้ตีความกัน ซึ่งก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ขับเคลื่อนวงการสตรีทแฟชั่นไทยให้น่าสนใจยิ่งขึ้น ไม่มากก็น้อย …
Photo by : Chang Songaksorn