"วันนึงผมผิดพลาดกับสิ่งที่ผมคาดหวังไว้มากที่สุด เมื่อผลลัพธ์มันเลวร้าย
ผมแทบล้มตัวลงนอนแบบไม่อยากลุกขึ้นมาอีกเลย จนผมรู้สึกตัว
ผมเริ่มคิดว่าผมควรสร้างบางสิ่งขึ้นทดแทนกับสิ่งที่ผมทำมันพังไป "
ออกตัวแรง ๆ ก่อนเลยว่าความรู้สึกแรกที่ผู้เขียนได้รับชมมิวสิควีดีโอตัวนี้ คือความก้าวร้าวดิ้นด้านของเส้นเลือดใหญ่ ที่ข่มขวัญเส้นเลือดดำที่กำลังทำหน้าที่ของมันอยู่อย่างถ่อมตัว ด้วยสารเคมีที่มีชื่อว่า "อะดรีนาลีน" ซึ่งสูบฉีดเดือดพล่านอย่างทะลุเพดานความตื่นเต้นของร่างกาย การกำกับภาพของมิวสิควีดีโอตัวนี้ทำได้ดีเหลือเกิน จนผู้เขียน (ซึ่งมีความชอบในเรื่องของการถ่ายทำวีดีโออยู่แล้วเป็นทุนเดิม) ตื่นเต้นกับเซนส์การมองโลกผ่านเลนส์ของตากล้องมากกกกกก
ไม่แน่ใจว่านี่เป็นเพลงที่เท่าไหร่ของศิลปินคนนี้ แต่ Liberate P ก็เป็นอีกหนึ่งศิลปินฮิปฮอปไทยที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน ทั้งในแง่ของเทคนิคการแร็ป , สัมผัสพยัญชนะ ไปจนถึงเนื้อหาที่เขาต้องการจะพูดถึง
จากความใกล้ชิดกับบุคคลที่ทำงานเกี่ยวกับศิลปะอยู่มากมายแทบทุกวงการ ผมจำแนกประเภทของศิลปินได้เป็นสองประเภทหลัก (ตามประสบการณ์ของผมเอง) ตามแบบฉบับภาษากรีกที่ถูกหยิบนำมาใช้เป็นครั้งแรกในงานเขียนอย่างคำว่า Dystopian และ Utopian (ซึ่งมาจากคำว่า Dystopia , Utopia คู่หูดูโอ้หยินหยางของคำศัพท์วงการสังคมศาสตร์ที่ถูกนำมาใช้ครั้งแรกโดย Sir Thomas More)
ถ้าจะให้จัดประเภทของ Liberate P ว่าเป็นแบบไหน เขาอยู่ในประเภท Dystopian อย่างแน่นอน …
(เริ่มรุ้สึกว่าใช้ภาษาวิชาการจนเกินไปแล้ว ขอเรียกว่าเขาเป็นพวกมองโลกในแง่ร้ายละกันนะครับ)
บทเพลงของ Liberate P ไม่เคยสดใส เขามักพูดถึงเรื่องใกล้ตัวไปจนถึงเรื่องเหมือนจะไกลตัว (อย่างการเมือง) ด้วยความตึงเครียดอยู่เสมอ อาจทำให้เหล่าผู้ฟังที่ไม่ถนัดแนวนี้อึดอัดอยู่บ้าง แต่เราปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ผู้ชายคนนี้คือหนึ่งในศิลปินฮิปฮอปชาวไทยที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่ง ณ วินาทีนี้ ด้วยการจับประเด็นเหล่านี้มาเล่นอยู่เสมอนี่แหละ
และที่น่าสนใจคือเพลงนี่ "ไม่การเมือง " เพลงนี้เล่นกับอารมณ์และความหมกมุ่นส่วนตัวของเขาเอง
ลำดับต่อไปผู้เขียนขออนุญาติก็อปปี้เรื่องของการฆ่าตัวตาย มาจาก วิกิพิเดียนะครับ …
"การฆ่าตัวตาย หรือ อัตวินิบาตกรรม เป็นการกระทำให้ตนเองถึงแก่ความตายอย่างตั้งใจ การฆ่าตัวตายมักเกิดจากภาวะซึมเศร้า ซึ่งเกิดจากความผิดปกติทางจิต เช่น โรคซึมเศร้า โรคอารมณ์สองขั้ว โรคจิตเภท ความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง[1] โรคพิษสุรา หรือการใช้สารเสพติด[2] ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียดเช่นความลำบากทางการเงิน หรือปัญหากับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลก็มีส่วนเช่นกัน ความพยายามป้องกันการฆ่าตัวตายหมายรวมถึงการจำกัดการฆ่าตัวตายด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ปืน และสารพิษ การรักษาอาการทางจิตและการใช้สารเสพติด และการปรับปรุงสถานะทางการเงิน แม้ว่าบริการที่ปรึกษาสายด่วนจะมีทั่วไป แต่แทบไม่มีหลักฐานว่าวิธีนี้จะมีประสิทธิภาพ[3] "
ใช่ครับ แม้ว่าจะมีบริการที่ปรึกษาสายด่วนทั่วไป แต่ก็ไม่มีหลักฐานเลยว่าวิธีนี้จะได้ผลจริงหรือเปล่า ผู้เขียนไม่ได้กล่าวหาว่ามันเป็นวิธีที่ห่วยแตกในการช่วยเหลือผู้คนที่คิดจะฆ่าตัวตาย เพราะจากข้อมูลวิกิพิเดียข้างต้น มันก็ชี้ชัดให้เห็นว่าคนที่เจอภาวะแบบนี้มันแย่ขนาดไหนนะเว้ยเห้ย
กลับมาที่ตัวของ Liberate P ทุกครั้งที่ผู้เขียนฟังเพลงของเขา มักจะทำให้นึกถึงเหล่าศิลปินอย่าง $uicide Boys , Kendrick Lamar และ Schoolboy Q อยู่เสมอ ศิลปินที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นพวกมองโลกในแง่ร้ายทั้งนั้น และเพลงของพวกเขาก็โคตรจะหดหู่ และเพลงบางเพลงก็ยังหาความหมายไม่ได้แม้กระทั่งเหล่านักวิจารณ์เพลงบทโลกอินเทอร์เน็ตจะพยายามอย่างหน่วงหนักในการที่จะเข้าถึงบทเพลงของพวกเขา
Lyrics ของเพลงนี้ก็เช่นกัน ต่อให้เข้าใจก็ไม่ได้เข้าใจทั้งหมดอะครับ …
แต่ด้วยองค์ประกอบทุกอย่างที่อยู่ภายในเพลงนี้ ภาพ , เสียง หรือแม้กระทั่งคอมเมนท์ของเหล่าแฟนคลับในยูทูป มันทำให้ผมสดชื่นหัวใจเอามาก ๆ (แม้เพลงจะฟังแล้วหดหู่ระยำก็เถอะ)
ไม่ค่อยเห็นฮิปฮอปไทยทำเพลงส่วนตัวเกี่ยวกับภาวะทางอารมณ์ในแง่ลบของตัวเองเท่าไหร่ แต่ผมก็เชื่อว่าเพลงนี้เขาก็เขียนและขับร้องมันขึ้นมาเพื่อบำบัดตัวเอง และพี่เขาอาจจะไม่รู้แน่นอนจนตอนนี้ว่า พี่เขาได้ทำการ"บำบัด"รูหูของผมไปด้วย ในวันที่ฮิปฮอปส่วนใหญ่พูดถึงความแก๊งค์ ความโบร๋ และความยิ่งใหญ่ของง่ามไข่ตัวเอง การได้ฟังอะไรแบบนี้เป็นสิ่งที่โคตรจะบรรเทาโสตประสาทของผม …
ดีใจที่มี Liberate P อยู่ในวงการฮิปฮอปไทย 🙂