ถ้าพูดถึงคำว่า "เจ้าพ่อ" ในวงการสตรีทแฟชั่นไทยทุกวันนี้ เห็นที่คงจะหนีไม่พ้นผู้ชายผู้โกงอายุได้อย่างแยบยล และยังคงความเท่ห์ได้เท่ากับคนหนุ่มสาว ด้วยทั้งความคิดและทัศนคติอันสุดโต่งของเขา ที่ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองใหญ่ ที่พลิกโฉมวงการสตรีทแฟชั่นไทย และยกระดับให้วงการสตรีทแฟชั่นไทยขับเคลื่อนและพัฒนามาได้จนถึงทุกวันนี้
นอกจากนิตยสาร Cheeze และ Looker แล้ว ใครจะไปรู้ว่าเขาคนนี้แหละ เคยเป็นบรรณาธิการนิตยสารวัยรุ่นที่ดังที่สุดในยุค 90s อย่างนิตยสาร Katch Magazine ดูเหมือนว่านิตยสารแต่ละเล่มที่เขาทำจะบ่งบอกความเป็นตัวของเขาดีมากๆ แน่นอนว่าต้องเริ่มจากความชอบ ตั้งใจ และทำมันออกมางานนั้นมันถึงสมบูรณ์ เลยกลายเป็นนิตยสารวัยรุ่นอันดับหนึ่งของเมืองไทยอย่างเช่นทุกวันนี้
ซึ่งถ้าเปรียบเทียบดูดี ๆ นั่นหมายความว่า การประสบความสำเร็จของเขาในยุคนั้น ช่างประจวบเหมาะและไล่เลี่ยกับปรากฏการณ์ของ Nike Air Max 1 ในปี 1987 เสียพอดิบพอดี !
ดังนั้นในวันนี้ ทาง Soul4street ขอนำพาทุกท่านเข้าร่วมบทสนทนาระหว่างเรา กับ พี่ปู "จิรัฏฐ์ พรพนิตพันธุ์" ว่าด้วยเรื่องการรื้อลิ้นชักความทรงจำกับมนต์ขลังแห่ง Nike Air Max 1 ที่ไม่เคยเสื่อมคลายไปตามกาลเวลา !
ทำไมถึงเลือกสวมใส่ Nike Air Max 1 ครับ ?
เรื่องของสมรรถภาพและการดีไซน์ล้วน ๆ เลย คือตอนแรกเรายอมรับเลยว่าเราไม่ได้อินกับรองเท้าคู่นี้อะไรมากมาย จนกระทั่งเราได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น และมันต้องเดินเยอะไงนึกออกมั้ย ? แล้วความติดใจรองเท้าคู่นี้ของผมก็เริ่มจากตรงนั้นแหละ ไม่ว่าจะเดิน จะวิ่ง จะกระโดด รองเท้าคู่นี้ใส่สบายมาก (ย้ำว่ามาก !) เพราะเทคโนโลยีแอร์ของรองเท้ารุ่นนี้ อีกอย่างที่ติดใจไม่เปลี่ยนแปลงเลยคืองานดีไซน์ เพราะว่าการจับคู่รองเท้าคู่นี้กับการแต่งตัว มันหลากหลายมาก
สีไหนของรองเท้ารุ่น Nike Air Max 1 OG ที่พี่ปูชื่นชอบที่สุด ?
สีแดงนี่แหละ ออริจินัลที่สุดแล้ว เพราะภาพติดตาของโมเดลตัวนี้คือสี ขาว – แดงตัวนี้มาแต่ไหนแต่ไร
ถ้ามองในแง่ของงานออกแบบ ในมุมมองของพี่ปู อะไรทำให้เจ้า Nike Air Max 1 OG ตัวนี้คงอยู่คู่กับทุกยุคทุกสมัยมาอย่างยาวนาน ?
ต้องยกความดีความชอบให้กับคุณ Tinker Hatfield เลยนะ คืออะไรก็ตามที่ออกแบบมา ในเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานมันสำคัญที่สุดอยู่แล้ว ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตลอดตามกาลเวลา แต่ในเรื่องของรูปลักษณ์มันก็ทำออกมาได้อย่างไร้ที่ติ นึกออกมั้ย ? รองเท้าคู่นี้มันก็เหมือนกับความคลาสสิคตลอดกาลไปแล้ว มันเป็นมากกว่ารองเท้า มันคือประวัติศาสตร์ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ผมไม่อยากให้มันเลอะ ต้องทำความสะอาดตลอด (หัวเราะ)
แล้วในบริบทของ "สตรีทแฟชั่นไทย" บทบาทของเจ้า Nike Air Max 1 OG เป็นอย่างไรบ้างครับ ?
เหมือนซูเปอร์สตาร์ในทีมฟุตบอล เป็นตัวชูโรงที่ไม่ว่าในนัดไหนก็ต้องได้ลงเล่น มีไม่กี่แบรนด์หรอกที่เรายินดีที่จะใส่โลโก้ของมัน และ Nike ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ตอนนี้วงการแฟชั่นล้วนโหยหาความเป็นอดีต (Nostalgia) ด้วยกันทั้งนั้น พี่มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ ?
ไม่ใช่แค่วงการแฟชั่นหรอก มันเป็นทุกวงการ (หัวเราะ) คือต้องพูดก่อนนะว่า ถ้าจะยกสิ่งหนึ่งให้ขึ้นชื่อว่าเป็น "ออริจินัล" เนี่ย แสดงว่ามันถูกพิสูจน์ด้วยการเวลามาแล้ว คือการออกแบบมันออกมาไม่สิ้นสุดอยู่แล้ว ตราบเท่าที่มนุษย์ยังไม่สูญพันธ์ แต่สิ่งที่เราจะเรียกว่า "ออริจินัล" มันมีอยู่ไม่กี่อย่างหรอก ว่าไหม ? อีกด้านหนึ่งมันก็แสดงให้เห็นถึงวงจรของแฟชั่นนะ มันก็เป็นการหมุนเวียนเปลี่ยนผ่าน และทำซ้ำกันอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ
ได้ยินมาว่าพี่มีแคมเปญพิเศษกับ "พี่พลอย – หอวัง" เป็นโฮสท์ของรายการด้วย ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม ?
พลอย มีความคิดสนุก ๆ ที่จะทดสอบผมกับเด็กกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนหนึ่งของแคมเปญ Nike Air Max Day นี้ โดยพลอยจะตั้งคำถามสนุก ๆ ซึ่งก็เป็นคำถามกวน ๆ สำหรับคนที่อยู่มาหลายยุคของเราอยู่แล้ว เช่น ท่าเต้นนี้ของวงอะไร ? อะไรทำนองนี้ เพื่อที่จะนำมาลิงค์กับคอนเซ็ปท์ที่ว่า "ความออริจินัลไม่มีวันเสื่อมคลาย" แล้วผมก็จะพาน้อง ๆ ไปท่องยุค 90s กัน ก็คือชวนไปทำแม็กกาซีนน่ะแหละ แล้วก็พยายามทำให้มันเป็นอารมณ์ในยุค 90s เช่นโพสท่าถ่ายภาพและยกขาสูง ๆ ซึ่งสมัยนั้นเป็นอะไรที่เท่ห์มาก (หัวเราะ)
ก็จบกันไปแล้วกับการพูดคุยกับพี่ปูในวันนี้ เชื่อมั่นว่าหลายท่านคงจะได้รับรู้ถึงเรื่องราวของยุคสมัยในมุมของเขา ผ่านรองเท้าสนีกเกอร์ Nike Air Max 1 OG คุ่นี้ได้เป็นอย่างดี สำหรับสัปดาห์หน้าศิลปินรับเชิญของเรา ภายใต้เทศกาลสุดพิเศษ Nike Air Max Day จะเป็นใครนั้น สามารถติดตามกันได้ที่นี่ Soul4street
