ย้อนรอยอดีตที่หอมหวานของ Riccardo Tisci กับ Givenchy ด้วยเหตุการณ์ที่น่าจดจำในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา

ข่าวที่สร้างกระแส ทอล์ค – ออฟ – เดอะทาวน์ ในวงการในวันนี้ คงหนีไม่พ้นการที่ Riccardo Tisci ได้พร้อมประกาศวางมืออย่างเป็นทางการกับแบรนด์ไฮเอนด์แดนน้ำหอมชื่อก้องโลกอย่าง Givenchy โดยคอลเล็คชั่น Spring/Summer 2017 นี้จะเป็นคอลเล็คชั่นสุดท้ายที่เขาจะได้รับหน้าที่ในการควบคุมงานผลิตในฐานะ Creative Director

เขาได้สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จให้กับ Givenchy ได้อย่างท่วมท้นจากจุดเริ่มต้นที่เริ่มจากศูนย์ ด้วยคำสบประหม่าต่าง ๆ นา ๆ แต่สุดท้ายเขาก็สามารถพิสูจน์ตนเองได้อย่างชัดเจนว่า เขาคือ "ตัวจริง" ในเกมประลองบนสนามเสื้อผ้าระดับโลกนี้ ด้วยการสร้างปรากฏการณ์ต่าง ๆ ให้กับวงการอย่างมากมายภายใต้ชื่อของ Givenchy ดังนั้นในบทความนี้จะนำพาทุกท่านไปย้อนรอยอดีตที่แสนหวานของเขากันในวันนี้ .

 

2005 Fall Haute Couture Collection: งานแจ้งเกิด

เรียกได้ว่านี่คืองานแจ้งเกิดของเขาในฐานะ Creative Director ของแบรนด์ Givenchy อย่างแท้จริง จากดีไซน์เนอร์โนเนมที่ไม่มีใครรู้จัก (และโดนสบประมาทในทีแรกว่าไม่น่าจะรับตำแหน่งที่กดดันขนาดนี้ไหว) แต่คอลเล็คชั่นฉบับเต็มของเขาคอลเล็คชั่นนี้ ก็แจ้งเกิดด้วยเสื้อผ้าชิ้น "โอ-ตูกูร์" ซึ่งดีไซน์ได้อย่างประณีตงดงาม ฉายความเจิดจรัสในแบบฉบับชาวปาริเชี่ยน

 

ได้รับตำแหน่ง Creative Director ไลน์เสื้อผ้าบุรุษของ Givenchy

ในวันที่ Riccardo Tisci ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง Creative Director ไลน์เสื้อผ้าบุรุษของ Givenchy ในแรกเริ่มเดิมทีนี่อาจจะไม่ใช่อะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจขนาดนั้น แต่ใครจะไปรู้ว่าหลังจากวันนั้น เหตุการณ์ดังกล่าวก็กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของแฟชั่นโลกที่ทุกคนจดจำได้ไประยะหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งรูปภาพคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าสำหรับผู้ชายคอลเล็คชั่นแรกภาพนี้ เป็นหนึ่งในภาพที่เหล่านักเรียนแฟชั่นและผู้สนใจจำเป็นจะต้องศึกษา เพราะว่านี่เป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของ "ปรากฏการณ์กราฟฟิคดีไซน์บนเสื้อผ้า" เลยทีเดียว

 

คอสตูมคอนเสิร์ตของ Madonna "Sticky & Sweet Tour"

Madonna’s Sticky & Sweet Tour

 

Riccardo Tisci ได้ถูกรับเลือกจากศิลปินตัวแม่ซูเปอร์สตาร์ตลอดกาลอย่าง Madonna (ขุ่นแม่) ให้ออกแบบดีไซน์ชุดคอสตูมของหล่อนในงานคอนเสิร์ตครั้งใหญ่อย่าง "Sticky & Sweet Tour" (ปี 2008) ซึ่งสิ่งที่เขาทำก็คือการออกแบบเสื้อผ้าให้กับเจ้าหล่อนทั้งบนเวทีและนอกเวที ซึ่งสิ่งนี้เป็นอีกหนึ่งงานที่สร้างโอกาสสำคัญให้เขาได้ร่วมงานกับศิลปินตัวเป้งคนอื่น ๆ ในอนาคตอีกมากมาย

 

Featuring Transexual Model, Lea T as the Face of Givenchy’s 2010 Fall/Winter Collection

นอกจากในเรื่องของเสื้อผ้าแล้ว เขายังเป็นที่เลื่องลือในเรื่องของการปฏิวัติวงการโมเดลขนาดย่อม ด้วยการนำนายแบบ – นางแบบเพศที่สามมาเป็นแบบในตัวงาน ชื่อของ Joan Smalls, Lara Stone, Rob Evans และ Simon Nessman ล้วนเป็นแบบที่ถูกพูดถึงทั้งสิ้นในวงการแฟชั่นโลกปัจจุบัน

แต่ที่ปังที่สุดคงหนีไม่พ้นชื่อของ Lea T นางแบบเพศที่สามชาวบราซิลที่ได้รับเลือกในคอลเล็คชั่น fall/winter collection ปี 2010 ของ Givenchy ซึ่งหล่อนมีชื่อเสียงได้ทุกวันนี้เพราะ Riccardo Tisci ผู้นี้นี่เอง !

 

เขาทำให้ Kanye West ใส่กระโปรงมาแล้วในอัลบั้ม "Watch the throne"

อัลบั้ม "Watch the throne" คือการผสานพลังของสองเทพฮิปฮอปยุคปัจจุบันผู้ยิ่งใหญ่อย่าง Jay-Z และ Kanye West นั้นคือปรากฏการณ์แห่งยุค 2010s อย่างแท้จริง และหนึ่งในสิ่งที่ถูกพูดถึงของปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้นอกจากเรื่องของบทเพลงนั้นคือเรื่องของ "แฟชั่น"

Riccardo Tisci ได้ออกแบบ "Leather Kilt" ให้กับ Kanye West ซึ่งการแต่งตัวในอัลบั้มนี้ของเขาเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของ "ความเท่ห์" "ความบ้า" และ "ความเพี้ยน" ของเทพเจ้ายีซุสกับการแต่งตัวในครั้งนี้ ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ Ricardo Tisci ได้ปฏิวัติวงการแฟชั่นแนวฮิปฮอปไปโดยตลอดกาลตั้งแต่ยุคปี 2011 ที่ผ่านมา

 

The Prints

ในช่วงขวบเวลาที่ Streetweat เริ่มผสมผสานกับ High Fashion ทีละเล็กทีละน้อย เขาก็ได้เพิ่มเติมส่วนผสมของการรวมร่างดังกล่าวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะเขาคือผู้ที่นำลวดลาย Graphic ดั้งเดิมในแบบฉบับของ Givenchy มาประยุกต์ใช้ในบริบทที่ต่างออกไป (ทำให้ลวดลายดังกล่าวนั้นสวมใส่ง่ายขึ้น) ไม่ว่าจะเป็นลวดลาย “Paradise” อันโด่งดัง หรือที่ปังที่สุดอย่างเสื้อยืดลายสุนัข Rottweiler เขาทำให้บริบทของ Streetwear ถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงจนถึงปัจจุบันด้วยลวดลายกราฟฟิคเหล่านี้

 

Nike Air Force 1

Riccardo Tisci เป็นแฟนตัวยงของโมเดลสุดคลาสสิคจากแบรนด์ Swoosh อย่าง Nike Air Force 1 ซึ่งนั่นทำให้เขาได้มีโอกาสในการสร้างงาน Collaboration เป็นของตัวเอง ในปี 2014 ผ่านโมเดลตัวโปรดของเขาตัวนี้ ซึ่งเจ้า Nike Air Force 1 "R.T" ก็เป็นอีกหนึ่งโมเดลทีได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนี่เป็นรองเท้าสนีกเกอร์สุดคลาสสิคที่มีแพทเทิร์นเอกลักษณ์ของเขาวาดลวดลายอยู่บนโมเดลดังกล่าวได้อย่างงดงาม

 

The Wedding : งานแต่งงานของ Kanye West และ Kim Kardashian

หนึ่งในสิ่งที่ถูกพูดถึงที่สุดภายในงานวิวาห์อันแสนหวานระหว่าง Kanye West และ Kim Kardashian ไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องราวของพวกเขาทั้งคู่ก่อนที่จะแต่งงานกันเท่านั้น แต่สิ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือชุดของ Givenchy ที่ทั้งสองสวมใส่ในงาน และฉากหลังอันแสนหวานด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ซึ่งนั่นถือเป็นอีกหนึ่งเซ็ทงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของเหล่าเซเลปบริตี้เลยทีเดียว

 

Nose Rings

Givenchy’s Swarovsky Strass nose rings เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่ขายดีอย่างคาดไม่ถึงของเขา ด้วยการรันแคมเปญที่แปลกตาและชาญฉลาดในขณะนั้น ทำให้ไอเท็มดังกล่าวถูกจำหน่ายหมดลงอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่วัน

 

The Campaigns

และสิ่งที่ชัดเจนที่สุดซึ่งถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของเขา คือการรันแคมเปญและเหล่าภาพถ่ายโฆษณาของแบรนด์ต่าง ๆ ทัศนวิสัยในการดำเนินงานของเขาเป็นมากกว่าดีไซน์เนอร์ เพราะเขาสามารถที่จะเล่นกับกระแสได้อย่างไหลลื่นและสนุกสนาน เช่น การใช้สุนัข Rottweiler มาเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเขาก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ชาญฉลาดและทำให้เขาถูกพูดถึงจากสื่อต่าง ๆ ได้อย่างท่วมท้น

 

Source : HYPEBEAST

Share:

WATCHA GONNA ดู

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอม ให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save