โดยธรรมชาติของสตรีทแฟชั่นแล้วนั้น เป็นสิ่งที่ยากพอสมควรที่เราจะระบุแบรนด์ใดสักแบรนด์หนึ่งให้เป็นสุดยอดหรือที่สุดของที่สุดในแต่ละปี และสำหรับปีนี้ปี 2016 ก็มีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายเกิดขึ้นทั้งข่าวดีและข่าวร้ายทั่วทุกภาคทวีปทั่วโลก แต่สตรีทแฟชั่นก็ยังคงดำเนินต่อไปตามวัฏจักรของมัน เพราะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นล้วนเป็นสิ่งที่มนุษย์สรรสร้างขึ้นมาเอง
และแน่นอนว่าในปัจจุบันที่ความเร็วอินเทอร์เน็ตนั้นช่างรวดเร็วแปรผันตรงพอ ๆ กับจิตใจคนเรา เทรนด์ต่าง ๆ ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและ "หายไป" อย่างรวดเร็วเช่นกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นทางสำนักข่าวชาวสตรีทระดับโลกอย่าง HYPEBEAST ก็ได้รวบรวมแบรนด์ที่สร้างปรากฏการณ์ทางสตรีทแฟชั่นประจำปี 2016 นี้มาให้พวกท่านได้อ่านและแสดงความคิดเห็นกัน จะมีแบรนด์ใดที่ติดโผรายชื่อดังกล่าวนี้บ้างลองไปรับชมกันได้เลย
Brain Dead
Kyle Ng และ Ed Davis คือสองเพื่อนรักนักแต่งเพลงที่หลงใหลในแฟชั่นอย่างสุดซึ่ง ซึ่งนั่นทำให้ Brain Dead สร้างปรากฏการณ์ในรูปแบบที่แปลกใหม่ จากความหลงใหลใน Subcultures อย่างเพลง Noise Music (แนวเพลงที่ส่วนใหญ่ไม่มีเนื้อร้อง และสร้างขึ้นจากเสียงที่ผิดปกติของระบบวงจรจากเครื่องดนตรี) และหนังสือการ์ตูนฝั่งตะวันตก นั่นทำให้แบรนด์ดังกล่าวนี้ได้รับความนิยมและสร้างจุดยืนในวงการสตรีทแวร์ได้อย่างเข้มแข็งในแบบของตัวเอง
DUST MAGAZINE – DUST CAPSULE / WEARABLE PAGES
เปรียบเสมือนมนต์รักสองหัวเมืองใหญ่ใจกลางยุโรป ซึ่งนั่นคือการร่วมมือระหว่างทีมนักเขียนจากเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันและเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเริ่มแรกพวกเขาเพียงแค่รวมทีมกันเพื่อจัดทำนิตยสารรายเดือนเกี่ยวกับแฟชั่น … เพียงแต่ว่าพวกเขาไปไกลกว่านั้น
DUST MAGAZINE ได้สร้างฐานความป็อปปูล่าร์จากกลุ่มคนที่เรียกได้ว่าเป็น "เนิร์ดแฟชั่น" ชั้นหัวกะทิที่มารวมกลุ่มกัน ซึ่งนั่นทำให้เกิดแรงบันดาลใจในทีมเพื่อจัดทำเสื้อผ้าของตัวเอง และพร้อมที่จะก้าวกระโจนลงสู่สนามการต่อสู้ของแบรนด์สตรีทแวร์ได้อย่างไม่เขินอาย ด้วยดีไซน์เรียบง่ายแต่กลับโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และรสนิยมทางศิลปะชั้นเลิศที่หาตัวจับได้ยาก ทำให้แบรนด์ "DUST CAPSULE / WEARABLE PAGES" ได้ถือกำเนิดขึ้น
ซึ่งจากภาพด้านบนนี้ คือภาพของคอลเล็คชั่น DUST #8 ที่เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ขนาดย่อมของวงการสตรีทแวร์เลยทีเดียว ด้วยดีไซน์ที่ได้รับอิทธิพลมากจากภาพวาดสีอะคริลิคของ Peter De Potter ที่มีชื่อว่า “Young King New Castle” ทำให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มวัยรุ่นโซนยุโรป และถูกรีสต็อคถึงสองครั้งสองคราด้วยกันในปีนี้
KITH
Ronnie Fieg ได้สร้างรากฐานอย่างมั่นคงสำหรับแบรนด์ของเขาในปีนี้ ดูได้ไม่ยากจากการที่เขาได้รับเชิญให้ร่วมงาน Collaboration ต่าง ๆ มากมายจากแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกหลากหลายยี่ห้อ ตั้งแต่ adidas ไปจนถึง ASICS สนีกเกอร์ที่เขาได้ร่วมงานถูกทำให้เป็นกระแสบนโซเชียลเน็ตเวิร์คชนิดที่เรียกได้ว่าอัพเดทกันแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ แน่นอนว่าเพียง 5 ปีที่ KITH ได้เดินทางมาถึงจุดนี้ ทางเราก็ขอชื่นชมกับความห้าวหาญสามารถของ Ronnie Fieg ด้วยจิตคารวะอย่างแท้จริง
Palace
"ใครเล่าจะเข้าใจหัวอกเด็กสเก็ต…ถ้าไม่ใช่เด็กสเก็ตด้วยกันเอง" เป็นคำพูดที่นิยามแบรนด์นี้ได้จบในประโยคเดียว Palace ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2010 โดยนักสเก็ตชาวอังกฤษ Lev Tanju ซึ่งแต่เริ่มเดิมทีเขามีเจตนาเพียงแค่ต้องการที่จะตัดเย็บชุดสำหรับนักสเก็ตบอร์ดในทีมของเขาด้วยตัวเองเท่านั้น แต่การตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยตัวเองในครั้งนั้นกลับเปลี่ยนชีวิตเขาไปอย่างตลอดกาล ซึ่งสร้างปรากฏการณ์แฟชั่นสำหรับชาวสเก็ตบอร์ดทั่วโลก ด้วยเอกลักษณ์โลโก้สามเหลี่ยมและการหยิบนำเอาเอกลักษณ์ของการแต่งตัวของวัยรุ่นในอังกฤษยุค 90s บวกกับอิทธิพลจาก Subcultures ต่าง ๆ ในยุคนั้น มาผสมผสานกลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์เสื้อผ้าที่ต้องต่อคิวกันยาวเหยียดเพื่อรอซื้อคอลเล็คชั่นใหม่ในเวลานี้
VLONE
การร่วมมือระหว่างสามมันสมองของศิลปินแห่งยุคด้วยชื่อ A$AP Rocky, A$AP Bari และ Edison Chen แห่ง CLOT คือความลงตัวอย่างหาที่สุดมิได้ ด้วยสไตล์เอกลักษณ์ที่ยากจะเลียนแบบ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเข้าถึงความนิยมในกระแสหลักได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีการ Collaboration กับแบรนด์อย่าง OFF-WHITE, Nike และ No Vacancy Inn ให้สิ่งที่มีของตัวเองเพิ่มมูลค่าและไม่ซ้ำซากจำเจ ส่งผลให้แบรนด์ VLONE ขยับขยายกิจการและสาขาได้อย่างรวดเร็วในปีนี้
Noah
Brendon Babenzian หัวเรือใหญ่ของแบรนด์ดังกล่าวนี้เคยรับหน้าที่ Creative Director ของ Supreme มาแล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่าประสบการณ์และความเฉียบคมในการวางแผนที่เขาได้รับมาจากแบรนด์ที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกของสตรีทแฟชั่นได้หล่อหลอมและลับสมองของเขาให้บรรเจิดไอเดียต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย ซึ่งแบรนด์ Noah ของ Brendon Babenzian นั้นได้ถูกก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2000 แต่กลับล้มเหลวไม่เป็นท่าในเริ่มแรก ดังนั้นหลังจากที่เขาได้ฝูกฝักประสบการณ์จาก Supreme และเริ่มรู้สึกถึงจุดอิ่มตัวกับการทำงานให้บริษัทอื่น เขาจึงพร้อมที่จะปลุกแบรนด์เรือยักษ์ดังกล่าวนี้ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เพื่ออธิบายให้ชาวสตรีทได้รู้ว่า Babenzian Styles นั้นเป็นอย่างไร
Fear of God
ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา แบรนด์ของ Jerry Lorenzo ดีไซน์เนอร์ชื่อก้องโลกผู้นี้ก็ไม่มีใครไม่รู้จัก และได้เข้าไปอยู่ในทำเนียบของแฟชั่นกระแสหลักยักษ์ใหญ่ในปัจจุบันเป็นที่เรียบร้อย เหล่าเซเลปบริตี้อย่าง Justin Bieber, Kanye West และ Kendall Jenner ต่างล้วนชื่นชอบในเสื้อผ้าของ Fear of God และในปีนี้แบรนด์ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ผ่านงาน Collaboration ต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นกับ mastermind JAPAN, Vans และ SSENSE อีกทั้งเจ้ารองเท้าสนีกเกอร์ดีไซน์รองเท้าบูททหาร Fear of God "military boot" ก็ยังเป็นอีกหนึ่งสนีกเกอร์สุดไฮป์ที่ใครใครก็อยากไขว่คว้ากันมาทั้งนั้นในปีนี้
Supreme
ถ้าไม่กล่าวถึงแบรนด์ Supreme ในโผรายชื่อดังกล่าวนี้ อาจเรียกได้ว่านี่คือความหยาบคายอย่างสุดซึ้งของการเขียนถึงสตรีทแฟชั่น แบรนด์สเก็ตบอร์ดที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดย James Jebbia แบรนด์นี้ก็ยังคงต่อยอดความสำเร็จอย่างสูงสุดของตนเองในปีนี้ด้วยการร่วมงาน Collaboration กับ UNDERCOVER, Timberland และ The North Face อีกทั้งยังเปิดสาขาใหม่ล่าสุดที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ด้วยการผสมผสานทุกวัฒนธรรมลงบนเสื้อผ้า และการสร้างวัฒนธรรมของตัวเองอย่าง "Supreme's Box logo" ทำให้แบรนด์ดังกล่าวนี้คือสุดยอดแบรนด์สตรีทแวร์อย่างไม่ต้องสงสัย
BAPE
ถึงแม้ว่าความยิ่งใหญ่ของ BAPE ที่เคยสร้างไว้ในอดีตผ่านวัฒนธรรมฮิปฮอปนั้นคือปรากฏการณ์ที่ยากจะลืมเลือน แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าสองถึงสามปีก่อนหน้านี้แบรนด์สตรีทแดนปลาดิบอย่าง A Bathing Ape ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่ากับในอดีต จนกระทั่งในปี 2016 นี้ที่แบรนด์ดังกล่าวได้สร้างปรากฏการณ์คลื่นยักษ์ถาโถมวงการสตรีทแฟชั่นอีกครั้ง ด้วยการ Collaboration กับทาง adidas , mastermind JAPAN และแบรนด์ต่าง ๆ อีกมากมาย จนทำให้ลายคาโมได้รับความนิยมอีกครั้งเป็นอย่างมากในปี 2016 นี้
Anti Social Social Club
นี่คือปรากฏการณ์แท้จริงที่เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น รวดเร็ว กระชับ ฉับไวเหมือนกับโลกอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน ซึ่งคอนเซ็ปท์ของแบรนด์ Anti Social Social Club นี้ก็ล้วนมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคที่อินเทอร์เน็ตเร็วพอกันกับจิตใจคนทั้งสิ้น ด้วยฟอนท์โลโก้ที่อ่านแล้วเสียดสีสังคมได้อย่างเจ็บแสบ โดยในปีนี้แบรนด์ที่ขับเคลื่อนโดยหัวเรือใหญ่อย่าง Neek Lurk ก็ได้รับเกียรติในการร่วมงานกับ Dover Street Market, mastermind JAPAN และ UNDEFEATED ซึ่งถือได้ว่าเป็นปีที่วิเศษสำหรับแบรนด์สายแซะจากอเมริกาแบรนด์นี้