สามารถติดตามอ่านบทความตอนแรก (พัฒนาการของกางเกงยีนส์กับการแต่งตัวสไตล์ Hip-Hop ! PART I 1970s – Early 1990s )ได้ ที่นี่
Mid-1990s
การแต่งตัวสไตล์ฮิปฮอปในยุคนี้เด่นชัดด้วยเสื้อสไตล์ Workwear ในแบบ Oversized และกางเกงยีนส์สไตล์ Baggy จับคู่กับรองเท้าบูท Timberland ซึ่งวนตรีที่ขยับขยายอิทธิพลแนวนี้เห็นจะหนีไม่พ้นชื่อของ Mobb Depp ซึ่งเราจะเห็นภาพที่บรรยายมาข้างต้นได้อย่างชัดเจนผ่านปกหลังของอัลบั้ม The Infamous (BMG Music , 1995)
และในช่วงปีนี้เป็นปีที่แบรนด์ไฮแฟชั่นต่าง ๆ เริ่มกระโดดลงมาเล่นในสนามรบของวงการสตรีทแวร์ต่าง ๆ มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการปรากฏตัวของ Tupac ในงานแฟชั่นโชว์ของ Versace ปี 1996 หรือ Grand Puba และ Snoop dogg ที่ได้รับการสนับสนุนในเรื่องเสื้อผ้าจาก Tommy Hilfigher เช่นเดียวกับ Raekwon ที่ได้รับสปอนเซอร์จาก Ralph Lauren ซึ่งการสนับสนุนเสื้อผ้าให้กับแรปเปอร์เหล่านี้ของแบรนด์ที่กล่าวมา เป็นกลยุทธ์อันชาญฉลาดทางการตลาด ซึ่งทำให้เสื้อผ้าของพวกเขาดูจับต้องได้มากขึ้นเพราะเหล่ากวีข้างถนนเหล่านี้สวมใส่เสื้อผ้าของพวกเขา
แต่ในขณะเดียวกันความตื่นตัวของแบรนด์สตรีทขนานแท้ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Stüssy, Supreme และ A Bathing Ape (BAPE) ก็ทำให้เกิดการตื่นตัวทางการตลาดขึ้นอย่างเป็นกลไก ลองคิดตามผู้อ่านดูว่าในยุคที่ผู้คนต่างเห่อบ้าแบรนด์ราคาสูงอย่าง Versace หรือ Tommy Hilfigher พวกแบรนด์รุ่นลูกเหล่านี้นี่แหละคือผลพวงจากตลาดแฟชั่นระดับสูงให้เกิดการผลิตเสื้อผ้าราคาเบาลงมา ทว่ามีดีไซน์และเอกลักษณ์เป็นของตัวเองเกิดขึ้น จนเกิดเป็นวัฒนธรรม Supreme , วัฒนธรรม BAPE ตามขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่สามารถจะใส่ Versace ได้ทุกชิ้น ไม่ใช่ทุกท่านทีจะมี Tommy Hilfigher เต็มตู้เสื้อผ้า เมื่อเป็นเช่นนั้นคนบางกลุ่มก็จำเป็นที่จะต้องหยิบจับเสื้อผ้าที่มีเรทราคารองลงมาจากเหล่าแบรนด์ไฮเอนด์ทั้งหลาย ซึ่งเราเรียกปรากฏการณ์เหล่านี้ว่า "Urban Clothing"
Early 2000s
นี่คือยุคที่พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเหล่าดีไซน์เนอร์เริ่มมีส่วนเกี่ยวข้องกับเสื้อผ้าของพลพรรคชาวฮิปฮอปอย่างแท้จริง กางเกงยีนส์ที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชื่อดังคือไอเท็มเลอค่าที่ชาวฮิปฮอปต้องไขว่คว้ามาให้ได้ เหล่ากางเกงยีนส์แบรนด์ True Religion, Antik Denim และ Evisu ถูกสวมใส่โดย Jay-Z และ 2 Chainz ( สมัยที่ยังคงใช้ชื่อว่า Tity Boy)ซึ่งสไตล์สุดคลาสสิคในยุคนี้คือการจับคู่กางเกงยีนส์กับเสื้อยืดสีขาวทั้งแขนสั้นและแขนยาว ปิดจ๊อบด้วยรองเท้า Nike Air Force 1 สีขาวสุดคลาสสิค
แต่ถึงอย่างไรก็ตามกางเกงยีนส์สไตล์ Baggy ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุค 90s ก็ยังคงอยู่ในยุคนี้ การสวมใส่กางเกงตัวหลวมโคร่งเพื่อโชว์ให้เห็นขอบกางเกงใน Boxer ตัวเจ็บก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก รองเท้าสไตล์ Boot Cut ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในยุคนี้
และอีกหนึ่งวัฒนธรรมในยุคปี 2000s ที่เราจะมองข้ามไปไม่ได้คือวัฒนธรรมบาสเก็ตบอลที่มี Allen Iverson เป็นไอดอลในการแต่งตัว นักบาสที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งแห่งยุคและนักปฏิวัติวัฒนธรรมการแต่งตัวของลีก NBA ผู้นี้คือบุคคลสำคัญแห่งปี 2000s ทั้งด้วยบุคลิกมาดนิ่มแต่ทะเยอทะยานซึ่งแสดงออกผ่านการแต่งตัวสุดเจ็บในยามที่เขาเดินเข้าสนามก่อนทำการแข่งขันของเขานั้นคือสิ่งที่เด็กยุคมิลเลนเนียลไม่มีวันลืม (ก่อนที่จะถูก David Stern ผู้บริหารของ NBA ปฏิวัติด้วยการบังคับให้ผู้เล่นทุกคนสวมใส่สูทก่อนเข้าสนามเพื่อความสุภาพเรียบร้อย)
Mid-2000s
ยุคทองของสินค้าที่ได้ชื่อว่าผลิตขึ้นในอเมริกา กางเกงยีนส์ผ้าดิบ (Raw denim) ของเหล่าแบรนด์อย่าง Nudie, A.P.C., 3sixteen และ Iron Heart คือไอเท็มอันเลอค่าที่ทุกคนจะต้องมีไว้ในครอบครองอย่างน้อยสักตัวหนึ่ง (ซึ่งเป็นอิทธิพลจากเหล่า denim head ทั้งหลาย) รองเท้าบูทยี่ห้อ Red Wings Shoes เป็นไอเท็มสุดไฮป์ในขณะเดียวกันการต่อคิวเพื่อแย่งรองเท้าหายากจาก Air Jordan หรืองาน Collaboration ของ Supreme ก็ยังมีอยู่ในยุคนี้
และนี่เป็นยุคที่กางเกงยีนส์ตัวหลวมโคร่งสไตล์ Baggy แทบจะไม่มีให้เห็นอยู่อีกต่อไปเพราะผู้ที่ปฏิวัติการสวมใส่กางเกงยีนส์ให้เป็นรูปแบบทรงกระบอกเล็กไปจนถึง Skinny คือ Pharrell Williams ด้วยการมิกซ์แอนแมทช์การแต่งตัวแนวสเก็ตบอร์ดและฮิปฮอปเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ซึ่งนั่นทำให้เกิดการผสมผสานอย่าง "จับฉ่าย" ที่คุณอาจจะสวมใส่เสื้อผ้าของแบรนด์กว่าสิบแบรนด์บนร่างกายในเวลาเดียวกัน ทว่าออกมาด้วยผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ไม่มีอีกแล้วกับการสวมใส่เสื้อผ้าตามแบบแคตตาล็อคให้เข้ากับชุด
และอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจคือการปฏิวัติกางเกงยีนส์ของ Hedi Silmane สุดยอด Creative director ของแบรนด์ Dior ในขณะนั้น เขย่าวงการกางเกงยีนส์ด้วยการดีไซน์กางเกงยีนส์สไตล์ Slim fit ในแบบ "destroyed jeans" (กางเกงยีนส์ขาด) ด้วยการฟอกสีเอกลักษณ์และการตัดเย็บสุดพรีเมียม ซึ่งยังคงได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน จนถึงขนาดมีบทเพลงที่ขับขานบูชาความเจ๋งของการดีไซน์ในครั้งนี้ด้วยบทเพลงจากเทพยี Kanye West – Christian Dior Denim Flow (feat. Kid Cudi, Pusha T, John Legend, Lloyd Banks, Ryan Leslie)
PRESENT
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงยุคปัจจุบันกันเสียที ในยุคที่จิตใจคนเราเปลี่ยนกันได้ง่าย ๆ อย่างแปรผันตรงกับความเร็วอินเทอร์เน็ตไร้สายในปัจจุบัน ในช่วงต้นปีเราอาจจะเห็นกระแสความฮิตติดลมบนของกางเกงยีนส์แนวนักบิด "biker jeans" จากแบรนด์อย่าง Balmain ทว่าไม่นานหลังจากนั้นกระแสกางเกงยีนส์ Super Skinny อย่าง Saint Laurant ก็เฉิดฉายอย่างสง่างาม การ Collaboration ระหว่าง Kanye West กับ A.P.C. และ Virgil Abloh (เจ้าของแบรนด์ OFFWHITE ) กับ Levi's ก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าวัฒนธรรม Hiphop ไม่ใช่วัฒนธรรมรองบ่อนอีกต่อไป แต่กลายเป็นวัฒนธรรมกระแสหลักอย่างชัดเจน
ในยุคนี้ผู้ที่ขับเคลื่อนแนวทางในการแต่งตัวก็คือเหล่าศิลปินฮิปฮอปที่กำลังมาแรงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Young Thug, Travis Scott และ A$AP Rocky ศิลปินเหล่านี้หยิบยกไอเท็มเก่า ๆ ในยุคต่าง ๆ มาปรับใช้ให้เข้ากับสมัยได้อย่างลงตัว ซึ่งสะท้อนถึงคำพูดที่ว่า "fashion snake eating itself" (แฟชั่นก็เปรียบเสมือนงูกินหางตัวเอง) ได้เป็นอย่างดี
