นี่คือเหตุผลว่าทำไม Bape ถึงได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์สตรีทแวร์ที่ไม่มีวันตาย

เมื่อไม่นานมานี้ มีการต่อคิวเป็นแถวยาวหน้าร้าน  A Bathing Ape ซึ่งตั้งอยู่บนถนน Greene Street ในย่าน SoHo เมือง Manhattan  ในวันนั้นภายในร้านกระจกเล็กๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างเรียบง่าย  ไม่ได้มีอีเว้นท์  หรืออะไรที่พิเศษกว่าทุกๆวัน  อีกทั้งไม่ได้มีผลงานพิเศษใดๆ มาวางขายภายในร้านอีกเช่นกัน  กลุ่มคนที่ต่อคิวอยู่นั้นส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นชาย พวกเขาบอกกับเราว่า  พวกเขาเพียงแค่ยืนรอคิวเพื่อจะซื้อสินค้าของ Bape ที่มี Ape Head เป็นโลโก้สัญลักษณ์  และโลโก้นี้ได้ปรากฏบนเสื้อยืดและเสื้อฮู้ดต่างๆทั่วโลก  ภายใน 23 ปีให้หลัง จากตอนเริ่มเปิดตัว

Bape แบรนด์ที่มีชื่ออยู่ในงาน ComplexCon ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1993 โดย Nigo (เขาได้ออกจากบริษัทในเดือนมีนาคม ปี 2013) ช่วงเริ่มแรก เขาได้เริ่มจากร้านขายเสื้อยืด  ซึ่งเป็นร้านเล็กๆเก่าๆในย่านฮาราจูกุ  เมืองโตเกียว  ในช่วงปี 2000 Bape ได้เติบโตอย่างรวดเร็วจากวัฒนธรรมย่อยของการแต่งตัวแนวสตรีท  จนได้กลายมาเป็นกระแสหลักและยังถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ร่วมกันสำหรับทุกคน  ตั้งแต่บรรดาสาวก streetwear ไปจนถึงเหล่าเซเล็ปชื่อดังทั้งหลาย เช่น Clipse, Pharrell, Kid Cudi  และ Jay Z   ในขณะที่streetwear แบรนด์อื่นๆกลับมีกระแสนิยมลดลง  และมากกว่า 20 ปีให้หลัง กลุ่มนักช้อปก็ยังคงแห่ไปให้ความสนใจในแบรนด์ Bape อย่างต่อเนื่อง

Mike Camargo's Bape Dodge Charger. (Image via Mike Camargo)

Mike Camargo ที่ปรึกษาด้านการตลาดและการขายใน New York ได้กล่าวไว้ว่า “หากเวลาคือการทดสอบ    มีเพียงไม่กี่แบรนด์หรอกที่สามารถยืนหยัดได้”  ในปี 2003 Camargo เริ่มต้นสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์ Bape และเริ่มสะสมคอลเลคชั่นที่เขาประทับใจ  ตั้งแต่  เสื้อผ้า, กระดาษชำระ, ถุงมือจับของร้อน, นาฬิกา, เก้าอี้ Bean bag และอื่นๆอีกมากมาย  ต่อมาในปี 2007 เขาได้แต่งรถยนต์ Dodge Charger คันสีขาวของเขา  ให้ภายในรถนั้นเป็นสีดำเหมือน Bape และเปลี่ยนโลโก้ที่กระจังหน้ารถให้เป็นโลโก้ Bape Ape Head

“มันคือช่วงหนึ่งของชีวิต  ที่เป็นช่วงเวลาที่ผมขาดสติจริงๆ”  เขากล่าวพร้อมหัวเราะ

Camargo กล่าวไว้ว่า Bape ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์เสื้อผ้าเท่านั้น  แต่มันคือ lifestyle และด้วยความคิดเดียวกันนี้  ทำให้ผู้คนมากมายกลายมาเป็นสาวกของ Bape.  Camargo อธิบายไว้ว่า  นอกจาก Polo แล้ว  มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่สามารถกลายเป็น lifestyle ได้  Supreme ก็เป็นอีกแบรนด์ที่ทำได้  แต่จะให้ความรู้สึกด้านความแปลกใหม่ซะมากกว่า  ส่วน Bape นั้น  เข้าสู่ lifestyle โดยการผลิตทุกอย่างขึ้นมา  มีผลงาน Collaborations ร่วมกับแบรนด์ดังระดับโลกมากมาย  ด้วยแนวทางผสมผสานพื้นฐานของ lifestyle เอาไว้ เช่นเดียวกับ Pepsi can และเครื่องสำอาง MAC ซึ่งเหมือนกับพวกเขาพยายามที่จะแทรกซึมเข้ามาสู่ชีวิตพวกเราทั้งหมด  และพยายามสร้างสิ่งที่มันเหนือกว่า  เจ๋งกว่าให้กับพวกเรา  ในเวลานี้ Bape ได้ขายสินค้าที่หลากหลายออกไป  รวมไปถึง ผ้าขนหนู, แก้ว, พรม และอื่นๆ อีกมากมาย

Bape's store in New York City. (Image via Theo Wargo/Getty)

ย้อนกลับไปวันที่ Bape มีวางขายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น  นั่นหมายความว่าการจะได้ครอบครองสินค้า Bapeนั้น  คุณต้องฝากคนหิ้วหรือตามหาสินค้าจาก  eBay หรือ Rakuten (คล้ายๆ เว็ป Amazon ของญี่ปุ่น) เท่านั้น นอกจากนี้  ลูกค้ายังถูกจำกัดให้ซื้อสินค้าได้เพียง 1 ชิ้น และต้องเป็นไซส์ของพวกเขาเองอีกด้วย  ความยากที่จะได้ครอบครองและเป็นเจ้าของยิ่งกระตุ้นให้แบรนด์เข้าสู่กระแสเพิ่มยิ่งขึ้น  และในที่สุด Bape ได้ถูกวางจำหน่ายที่ Union และร้านค้าปลีกต่างๆ  เช่น Undefeated (เป็นหนึ่งในผู้ร่วมงานกับ Bape), RSVP Gallery และ Concepts  อย่างไรก็ตาม  ไม่ใช่ว่าร้านไหนต้องการที่จะเอา Bape มาวางจำหน่าย  หากจะวางจำหน่ายได้ง่ายๆนั้น  คุณจะต้องเป็นพันธมิตรกับทาง Bape ซะก่อน  คุณถึงจะมีสิทธิ์นำสินค้า Bape มาขายได้ Alex Bruzzi, head buyer at Undefeated ได้กล่าวไว้

Camargo กล่าวเพิ่มเติมว่า  “ผู้คนต้องการความพิเศษอยู่เสมอ  และความพิเศษนั้นได้มาพร้อมกับ Bape” เขายังกล่าวต่ออีกว่า “Supreme ไม่ได้มอบความรู้สึกหรูหราให้กับคุณ  แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณก้าวเข้าไปใน Bape มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่า คุณกำลังเลือกซื้อของอยู่ในช้อป Louis Vuitton”

 รองเท้าสนีกเกอร์ในร้าน Bape ที่ร้านเปิดเมื่อปี 2005 เมืองนิวยอร์ก. (Image via Michael Loccisano/Patrick McMullan/Getty 

Camargo ยังพูดถึงร้าน Flagship Store ของ Bape ว่าได้รับการออกแบบโดย  บริษัทออกแบบตกแต่งภายในชั้นนำอย่างบริษัท  Wonderwall  ซึ่งเป็นบริษัทที่ออกแบบและตกแต่งภายในให้กับร้านค้าย่อยแบรนด์ Uniqlo รวมไปถึงออฟฟิตใหม่ของ Samsung  ใน Meatpacking District  เมืองแมนฮัตตันอีกด้วย  นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยยกระดับแบรนด์ให้ก้าวสูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง  Bape store ในเมือง Shibuya โดดเด่นไปกับระบบไฟ LED หลากสีสันที่ถูกตกแต่งอยู่บนบันได  ส่วนในฮาราจูกุนั้น  ได้แรงบันดาลใจมาจาก American diners “ด้วยดีไซน์ที่แปลกแหวกแนวเหล่านี้  ทำให้คุณอยากที่จะเห็น Bape stores สาขาอื่นๆแน่นอน”  Camargo ได้กล่าวไว้

นอกจากความพิเศษของสินค้าและการดีไซน์ที่โดดเด่นของร้าน  สิ่งที่ช่วยให้ Bape ยืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้คือ  Bape  เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งในสายเลือดของตัวเอง  Lawrence Schlossman อดีตบรรณาธิการ จาก Complex และ Four Pins  และปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการแบรนด์ที่ Grailed กล่าวว่า  “มันมีความงดงามทางศิลปะที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก  และ Bape ยังเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่  ถ้าคุณต้องการแต่งตัวแบบ Bape สไตล์  คุณก็ต้องไป Bape store เท่านั้น  คุณไม่สามารถได้ลุคของ Bape เพียงแค่ไปซื้อ hoodie ลายฉลาม จาก H&M หรือ Zara”  จึงส่งผลให้ปัจจุบัน Bape ติดหนึ่งใน Top 15 แบรนด์ที่มียอดการสั่งซื้อสินค้าสูงสุด จากเว็ป Grailed พอๆกับแบรนด์ดังอย่าง Saint Laurent, Supreme, Rick Owens, และ Raf Simons โดยเฉพาะสินค้าที่ราคาขายต่ำกว่า $300 เหรียญ  เขายังกล่าวเสริมอีกว่า  นอกจาก Supreme แล้วก็มี Bape นี่แหละที่เป็นหนึ่งในแบรนด์ streetwear ไม่กี่แบรนด์ที่ได้วางขายในแถวบนสุดของเว็ป Grailed

Nigo กับงานเปิดร้าน Bape store ที่ Melrose Avenue ในช่วง เมษายน 2008. (Image via Tiffany Rose/Getty)

ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2011 ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า  บริษัท I.T Ltd.จากประเทศฮ่องกง  ได้เข้าซื้อแบรนด์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  และอีก 2 ปีต่อมา Nigo ได้ยุติการทำงานกับ Bape ด้วยระยะเวลาทั้งสิ้น 20 ปีของเขานั้นได้สิ้นสุดลง  จึงเกิดคำถามขึ้นเกี่ยวกับอนาคตของ Bape ที่มีเจ้าของแบรนด์ใหม่และไม่มีผู้ก่อตั้งแบรนด์อีกต่อไป  ในขณะที่หลายๆคนให้สัมภาษณ์เรื่องนี้   โดยยอมรับว่าในระยะเวลาช่วงหลังๆของปี 2000  เมื่อ Bape ไม่ได้รับความนิยมเหมือนก่อน  และยอมรับว่าแบรนด์มีการเปลี่ยนแปลง  แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือ  การที่พวกเขายังคงรักษาเอกลักษณ์ของ Bape ไว้อย่างสมบูรณ์และคงเดิม  Bruzzi กล่าวว่า  “มันคือรูปแบบวิธีการอย่างจริงใจ  ตรงไปตรงมา  สำหรับการออกแบบ, พวกลายกราฟฟิก, สัดส่วน  รวมไปถึงสีที่เลือกใช้  สิ่งเหล่านี้ได้ถ่ายทอดผ่านมุมมอง  ความคิด  ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาได้ทำมาตลอด  นั่นรวมไปถึงสินค้าต่างๆตลอดจนสถาปัตยกรรมของร้านด้วยเช่นกัน  ที่จะยังคงเอกลักษณ์และความเป็น Bape ต่อไป”

Translate by : APPLIQUEz

Source by : Complex.com