ในโลกของสตรีทแฟชั่นและรองเท้าสนีกเกอร์ หากจะกล่าวถึงใครสักคนที่เป็นผู้บุกเบิกและผลักดันวงการ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ Jeff Staple อย่างแน่นอน เขาเป็นหนึ่งในคนที่มีอิทธิพลต่อวงการสตรีทแฟชั่นอย่างแท้จริง เห็นได้จากผลงานมากมายที่เขาดีไซน์รวมถึงแบรนด์เสื้อผ้าของเขาเอง
Jeff Staple ได้รับการยอมรับทั้งในวงการแฟชั่นและวงการออกแบบ เขามีผลงาน Collaboration กับแบรนด์ดัง ๆ มาแล้วหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น PUMA, Burton, Converse, Clarks, Levi's, New Balance และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ที่ผู้คนจดจำได้มากที่สุดคือการร่วมงานกับทาง Nike ที่ร่วมกันออกแบบรองเท้า Nike Dunk SB “Pigeon” สร้างปรากฏการณ์คนมาต่อคิวซื้อล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ ซึ่งในช่วงสิบกว่าปีก่อนถือเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆ และที่สำคัญคือเหตุการณ์จราจลที่เกิดขึ้นเมื่อถึงวันวางจำหน่ายรองเท้าในอเมริกา เพราะรองเท้ามีจำหน่ายไม่พอต่อความต้องการ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ในวันต่อมาเหตุการณ์จราจลครั้งนี้ก็ได้ลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ เรียกได้ว่าเป็นการปลุกกระแสวงการสนีกเกอร์ให้เป็นที่สนใจและร้อนแรงขึ้นไปอีก แน่นอนว่าชื่อของ Jeff Staple ก็กลายเป็นที่สนใจของผู้คนมากขึ้นไปอีก
Jeff ได้มีโอกาสเดินทางไปยังหลายประเทศ เพื่อโปรโมทแบรนด์เสื้อผ้าของเขาที่มีชื่อว่า Staple Pigeon ซึ่งสามารถถ่ายทอดความเป็นสตรีทและความเป็นนิวยอร์คเกอร์ได้อย่างชัดเจน ด้วยโลโก้นกพิราบที่แค่เห็นก็ต้องนึกถึงกลิ่นอายของนิวยอร์กแล้ว ล่าสุด Jeff ได้เดินทางมาเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ที่ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยในงานครั้งนี้ทาง Soul4Street ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ Jeff Staple ด้วย ซึ่งเราก็ไม่พลาดที่จะพูดคุยถึงคอลเลคชั่นใหม่ของเขา รวมถึงกระแสสตรีทแฟชั่นในมุมมองของเขา เพราะฉะนั้นอย่ารอช้าไปติดตามอ่านบทสัมภาษณ์กันได้เลย
คำถามแรกเลยที่ผมอยากจะถาม ซึ่งอาจจะเป็นคำถามที่คุณตอบมาจนเบื่อแล้ว แต่ว่าผมและแฟน ๆ ของคุณยังคงสนใจและอยากที่จะรู้! อะไรคือแรงบันดาลใจในการออกแบบของคุณ?
ผู้คน !! ผมเจอคนจากทั่วโลก และนั่นเป็นแรงบันดาลใจสำหรับผม เวลาผมได้เจอผู้คนที่หลากหลายจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มันส่งผลกับการออกแบบของผม เพราะเวลาคุณออกแบบให้กับคนที่อยู่ประเทศไทย หรือคนที่อยู่เมืองบอสตันในอเมริกา มันก็จะแตกต่างกัน หรือโตเกียวกับเมืองเซาเปาโลใน ประเทศบราซิล ก็เช่นกัน การที่ผมสามารถออกแบบอะไรสักอย่างที่ทำให้คนทั้งหมดนี้ชื่นชอบหรือยอมรับ มันเป็นเรื่องที่ท้าทายและเป็นแรงบันดาลใจสำหรับผม
สำหรับคอลเลคชั่นใหม่นี้คุณต้องการนำเสนอและสื่อถึงเรื่องราวอะไรบ้าง?
ความรักในงานศิลปะของผม คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพวาดของแอนดี้ วอร์ฮอล (Andy Warhol) แต่ในการนำเสนองานของผม ผมจะอธิบายว่าทำไมเวลาดูคอลเลคชั่นผม คุณจะไม่คิดถึง หรือเห็นอะไรที่เกี่ยวกับแอนดี้ วอร์ฮอล แต่ต้นกำเนิดของแรงบันดาลใจนั้นมาจากแอนดี้ วอร์ฮอล ผมจะอธิบายว่าผมเริ่มจากภาพวาดแอนดี้ วอร์ฮอล จนกลายออกมาเป็นคอลเลคชั่นนี้ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นสำหรับคอลเลคชั่นใหม่นี้ ผลงานของแอนดี้ วอร์ฮอล เป็นแรงบันดาลใจของผม
อย่างที่ทราบกันดีว่าตอนนี้กระแสของสตรีทแฟชั่นนั้นกลับมาเป็นที่พูดถึงกันมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่ก่อนหน้านี้เหมือนกระแสจะหายลงไปบ้าง คุณมีความคิดเห็นยังไงบ้างกับเรื่องนี้?
กระแสสตรีทแฟชั่นในแต่ละประเทศก็จะแตกต่างกันออกไป ผมคิดว่าแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงเอเชียในส่วนอื่น มันยังเป็นอะไรที่ร้อนแรง ยังใหม่ และกำลังมาอยู่ แต่ที่อเมริกากระแสสตรีทแฟชั่นมันมีมานานแล้ว มันเติบโตเต็มที่จนเป็นแบบนี้แล้ว มันไม่ไปไหนเท่าไหร่ มันต้องมีอะไรใหม่ ๆ มากระตุ้นวัฒนธรรมสตรีทที่อเมริกา แต่สำหรับผม ในเอเชีย วัฒนธรรมสตรีทยังเติบโตอยู่เรื่อย ๆ
คุณคิดว่าสตรีทแฟชั่นในปัจจุบันนั้นแตกต่างจากเมื่อก่อนยังไงบ้างในมุมมองของคุณ?
ทุกครั้งที่ผมกลับมาที่ฟิลิปปินส์มันเติบโตขึ้นเรื่อยๆเลย ผมเคยมาที่นี่ 5 ครั้งแล้ว และทุกครั้งที่ผมมา ก็จะมีคนที่สนใจในการแต่งตัวมากขึ้น ร้านมากขึ้น แบรนด์เพิ่มขึ้น และ คอนเน็คชั่นที่มากกว่าเดิม มันเป็นอะไรที่เยี่ยมมากเลย
เทรนด์ของสตรีทแฟชั่นในอนาคตคุณคิดว่ามันจะออกมาในรูปแบบหรือในสไตล์ไหน?
ผมว่ามันจะเติบโตมากขึ้น ที่จริงมันก็พัฒนามาไกลแล้ว แต่แบรนด์สตรีทหลาย ๆ แบรนด์ก็ยังมีแต่เสื้อยืด ที่มีสีเดียวด้วยซ้ำ เมื่อไหร่ที่เขาเริ่มให้ความสนใจกับดูเรื่องการตัดเย็บ หรือ การออกแบบตัวเสื้อผ้า ถ้าแบรนด์สตรีทต่าง ๆ เริ่มเข้ามาดูในจุดนี้มากขึ้น มันจะช่วยผลักดันทุกคนให้ทำเสื้อผ้าที่ดีขึ้น มีแฟชั่นที่น่าสนใจมากขึ้น
คุณคิดว่าตลาดทางฝั่งอเมริกากับเอเชียนั้นมีความแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด?
ที่อเมริกาคนจะนิยมของเป็นชิ้น ๆ มากกว่า เช่นกางเกงยีนส์แบบนี้ เสื้อยืดแบบนี้ ผมรู้สึกว่าที่เอเชีย คนจะให้ความสำคัญกับตัวผู้ออกแบบมากกว่า คนเอเชียมักจะตามดีไซเนอร์ เช่น ถ้าคุณรัก โยจิ ยามาโมโตะ(Yohji Yamamoto) ไม่ว่าโยจิทำอะไรออกมาคุณก็จะชอบ แต่ที่อเมริกามันไม่ได้เป็นแบบนั้น ถ้าโยจิทำอะไรออกมาอย่างหนึ่ง แล้วพวกเขารู้สึกไม่ชอบ เขาก็จะไม่ชอบโยจิแล้ว ผมว่าที่เอเชียคนจะมีความเคารพต่อดีไซเนอร์มากกว่า ซึ่งดีสำหรับผม เพราะผมก็เป็นดีไซเนอร์
คุณกำลังจะมีโปรเจคท์ หรือการ Collaboration กับแบรนด์ไหนบ้างในอนาคต?
มีหลายแบรนด์มาก ๆ ที่เราจะร่วม Collaboration ด้วย เพราะปีหน้า Staple Pigeon จะครบรอบ 20 ปี สำหรับงานครบรอบ 20 ปี เราจะทำงานร่วมกับคนเจ๋ง ๆ เพียบเลย มันต้องสุดยอดแน่ๆ อยากให้ติดตามกันดี ๆ
เราจะได้เห็นปรากฎการณ์แบบ Nike Dunk SB Pigeon หรือ New Balance Pigeon อีกครั้งไหม?
อาจจะ! ผมไม่รู้เหมือนกัน ผมบอกไม่ได้ มันเป็นความลับ (ฮ่าๆ)
ก่อนจะจบบทสัมภาษณ์ มีอะไรฝากถึงคนที่ติดตามคุณอยู่ในประเทศไทยบ้าง?
ผมหวังว่าทุกคนจะช่วยสนับสนุนผมต่อไป สามารถติดตามผมในอินสตาแกรมได้ที่ @jeffstaple ผมคิดว่าสังคมออนไลน์มันเป็นอะไรที่ดีมาก เพราะผมสามารถคุยและสื่อสารกับทุกคนได้โดยตรง ผมหวังว่าผมจะได้เจอพวกคุณที่ประเทศไทยเร็ว ๆ นี้
สำหรับใครที่สนใจเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่จากแบรนด์ Staple Pigeon และสินค้า Collaboration สามารถติดตามได้ที่ร้าน Bratpack และ SEEK ได้แล้ววันนี้ และ คอยติดตามกันให้ดี เพราะในปีหน้านี้ ครบรอบ 20 ปีของทาง แบรนด์ Staple Pigeon รับรองสินค้าเด็ดๆแบบลิมิเต็ดมาเพียบแน่นอน
พบกับสินค้า Staple Pigeon ได้แล้ววันนี้ที่
Bratpack Central Plaza Pinklao 2nd Floor Tel. 02-884-9972
Bratpack Central Festival EastVille 1st Floor Tel. 02-115-7600
Bratpack Central Plaza Westgate 1st Floor Tel. 02-046-0929
Bratpack MegaBangna 2nd Floor Tel. 02-105-1823
Bratpack Zpell 3rd Floor Tel. 02-150-9154
Bratpack Terminal21, LONDON 2nd Floor Tel. 02-015-9394
Facebook : www.facebook.com/BratpackThailand
IG: instagram.com/BratpackThailand
SEEK MegaBangna 1st Floor Tel. 02-105-1835
SEEK Central Embassy 3rd Floor Tel. 02-160-5689
Facebook : www.facebook.com/seekofficialTH
IG: instagram.com/seekofficialTH
#FlockWithUs #StaplePigeonThailand
#BratpackThailand #SeekThailand #SeekOfficialTH #SeekAndYouShallFind