Thirstin Howl the 3rd และเพื่อนๆของเขาในปี 1988
ในมุมมองจากการใช้งานได้จริงนั้น คุณต้องการหาหมวกใส่บังแดดซักใบ หมวกทรงบัคเก็ต (bucket hat) คงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก หมวกสาน (straw hat) ต่างหากคือคำตอบ แต่ถ้าหากมองถึงความหลากหลายของกลุ่มคนที่ชอบใส่หมวกแล้ว หมวกทรง bucket จะเป็นทรงที่โดดเด่นออกมาจากหมวกทรงอื่นๆ
เมื่อวิเคราะห์ถึงวัฒนธรรม Hip-Hop ในภาพกว้างๆ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม สิ่งที่ใช้สวมใส่บนศีรษะที่แต่ก่อนใส่โดยทหารอิสราเอลช่วงปี 1940 เริ่มมีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายในแร็ปเปอร์ดังๆ เช่น Schoolboy Q แต่ดูเหมือน จะเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับ การใส่หมวก bucket visor ของ Steve Spurrier หรือการใส่หมวกในแบบที่ Gilligan ชอบใส่เป็นประจำ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างนึงคือ Ludacris ได้ใส่ bucket hat ถึง 5 ใบในมิวสิควิดีโอ เพลงฮิต “Holidae In” ในปี 2003 บล็อกเกอร์ท่านนึงได้กล่าวไว้
สิ่งต่างๆเหล่านี้ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่ง ของแฟชั่น Hip-Hop เริ่มตั้งแต่ (หรืออย่างน้อยที่สุด) ในยุค 80s ในหนังสือของพวกเขา Bury Me With the Lo On จัดทำโดย Rapper – Thirstin Howl the 3rd และ ช่างภาพ Tom Gould ได้เล่าเรื่องราวพร้อมทั้งมีภาพประกอบผ่านทางหนังสือเล่มนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า Polo ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่า เป็นเสื้อผ้าของพวกชนชั้นสูงได้กลายมาเป็นศูนย์กลาง ซึ่งมีอิทธิผลมายาวนานต่อวัฒนธรรมย่อยของแฟชั่น Hip-Hop ได้ยังไง
นอกจากอาชีพ Rap ของเขาแล้ว, Thirstin Howl ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อนตั้ง Lo Lifes, กลุ่มๆนึงที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1988 จากการส่งเสริมและรวมตัวกันของกลุ่มวัยรุ่นสองกลุ่มคือ Ralphie's Kids จาก Crown Heights และ Polo USA (United Shoplifters Association) จาก Brownsville ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ติดกับ Brooklyn โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการสะสมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของ Polo Ralph Lauren ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม Thirstin Howl ได้เขียนไว้ว่าพวกเราเหมือนได้เดินแฟชั่นโชว์ทุกวัน สวมใส่เสื้อผ้าดีๆที่ขโมยมาจากร้านค้า ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมไปถึงร้านต่างๆ ในรัฐแมนฮัตตันด้วย
เมือง Brownsville ได้ถูกมองว่าเป็นเมืองที่ใช้ชีวิตได้ลำบากและยากจนที่สุด คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ได้มีชีวิตที่ยากลำบาก และเมืองนี้ยังเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นสนามฝึกการเป็นอาชญากรของกลุ่ม Lo Lifes หลายๆคน แต่ในอีกทางหนึ่งคล้ายๆกับการเป็นสัญลักษณ์ Polo บนตุ๊กตาหมี เพราะได้มีการกล่าวไว้ในส่วนหนึ่งของหนังสือว่า สมาชิกของกลุ่ม Lo Lifes อย่างน้อย 40 คนขึ้นไป ได้ใส่เสื้อคลุม Polo พร้อมๆกัน ที่ the late Empire Roller Skating Center เมือง Crown Heights จะเห็นแล้วว่า Lo Lifes เคยเป็นแก๊งค์ที่มีตัวตนอยู่จริง ซึ่งเริ่มหลังจากที่พวกเขาได้ที่สวมใส่ชุดของ Polo ที่บ้านในย่าน Andover
ในส่วนหนึ่งของหนังสือ Bury Me ได้แสดงให้เห็นลักษณะและรูปแบบเฉพาะของกลุ่ม Lo Lifes ในรายละเอียดด้านความหรูหราและความรักผ่านทางรูปภาพวิจเทจ และข่าวต่างๆ ที่ตัดมารวมไว้ในหนังสือเล่มนี้ โดยมี Thirstin Howl นั่งอยู่ ถัดไปจากภาพถ่ายจาก Gould ของกลุ่ม Lo Lifes และกลุ่มคนอื่นๆ ที่รัก Polo ส่วน Gould นั้นแต่เดิมเขาอยู่ที่นิวซีแลนด์ แล้วได้ย้ายมาอยู่นิวยอร์ก เพื่อที่จะได้เข้าไปสัมผัสกับวัฒนธรรมของ Hip-Hop แบบใกล้ชิด เขายังได้กำกับมิวสิควิดิโอให้กับ Action Bronson (มีผู้บริหารของ Polo ได้ปรากฏอยู่ในหนังสือ) และ Joey Bada$$
ยังมีหนังสือเล่มนึงที่ได้รวบรวมคำคมและงานเขียนต่างๆจาก Rapper รุ่นใหญ่เช่น Bronson (Raekwon และ Just Blaze ก็แสดงความเห็นเช่นเดียวกับ Bronson) ได้เขียนถึง Polo ได้แผ่ขยาย เข้าไปสู่กลุ่ม Hip-Hop ได้อย่างไร หนังสือเล่มนี้แม้ไม่ได้เกี่ยวกับ Bury Me แต่มันก็ใช้เป็นข้อพิสูจน์อีกชิ้นหนึ่งถึงการเข้ามามีอิทธิพลของ Polo ในกลุ่ม Hip-Hop เช่นกัน ในความเป็นจริงแล้วสองสิ่งที่แตกต่างกัน และมีชื่อเสียงในขณะนั้นคือ Polo และ Rapper ได้มาบรรจบพบกันและรวมทั้งสองสิ่งนี้เข้าไว้ด้วยกัน
"Lo Lifes เคยเป็นแก๊งค์ที่มีตัวตนอยู่จริง ซึ่งเริ่มหลังจากที่พวกเขาได้ที่สวมใส่ชุดของ Polo ที่บ้านในย่าน Andover"
ในปี 1994, Raekwon สวมเสื้อ Polo Snow Beach Pullover (Vintage Polo Collection ) เพื่อเล่น Music Video ในเพลง “Can It All Be So Simple” ของ Wu-Tang's จากบันทึกประวัติของ Polo เกี่ยวกับกลุ่มศิลปิน Hip-Hop ที่เล่าสืบต่อกันมาจากปากต่อปากอย่างหนักหน่วงนั้น ได้กล่าวไว้ว่า “Snow Beach กลายเป็นส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์ของประวัติศาสตร์ในวงการ Hip-Hop และเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดสำหรับผู้นำทั่วโลกของกลุ่ม Lo Lifes, และแน่นอนว่า Snow Beach นั้นขายดีมาก ในวันนี้มันขายได้มากกว่า 2,000 ดอลลาร์ในเว็บไซต์ eBay 10 ปีให้หลัง, Kanye West สวมสเวตเตอร์ Polo Bear ถ่ายปกอัลบั้ม The College และยังได้ Rap ไว้ในเพลง “Barry Bond” อีกว่า “But I'm doing pretty good as far as geniuses go, and I'm doing pretty hood in my pink polo,” (แต่ผมกำลังไปได้ดีตราบเท่าที่ยังมีความเป็นอัจฉริยะ และ ผมก็รู้สึกดูดี ในเสื้อโปโลมีฮู๊ด สีชมพูตัวนี้)
สิ่งต่างๆเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของ Lo Lifes ในแฟชั่นการแต่งตัวในแบบ Rapper เช่น Raekwon และ Kanye รวมไปถึง Darke และกลุ่ม Lo ที่รวมตัวขึ้นจากทางตอนใต้ของประเทศ ในมุมที่กว้างขึ้นไปสิ่งที่แฝงอยู่ในความสัมพันธ์ระหว่าง Hip-Hop และแฟชั่น สามารถทำให้มองย้อนกลับไปถึง Thirstin Howl และเพื่อนๆของเขา หัวข้อหนึ่งในหนังสือของ Thirstin Howl และ Gould สะท้อนให้ระลึกถึงแบรนด์ Polo นั่นก็คือ “Rest in Polo” ในท้ายหนังสือ ซึ่งได้บรรยายให้เห็นภาพสไตล์ของ Polo แบบแกะกล่องอย่างแท้จริง อีกทั้งยังมีท่อนฮุคที่ไม่สามารถลืมได้เลยในปีที่ผ่านๆมาไม่นานนี้ นั่นก็คือ “When I die, bury me inside the Gucci store / when I die, bury me inside the Louis store.” (ถ้าผมตาย ฝังผมไว้ในร้าน Gucci / ถ้าผมตาย ฝังผมไว้ในร้าน Louis หลุยส์วิคตอง) และมองย้อนกลับไปประมาณ 10 ปี มันเป็นช่วงเวลาที่ Pharrell (Pharrell William – นักร้อง Rapper ชื่อดัง) เขาเริ่มก้าวเข้าสู่แบรนด์แฟชั่น Streetwear (แฟชั่นการแต่งตัวที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน) A Bathing Ape และ Nelly ได้เขียนเพลงที่มีเนื้อหาทั้งหมดนั้นเกี่ยวกับรองเท้า Nike Air Force Ones สิ่งต่างๆเหล่านี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงความภักดี ความรัก ในแฟชั่นที่ได้ถูกฝังเข้าไปในรูปแบบต่างๆของดนตรี
Polo ที่เป็นที่นิยมในสมัยก่อนนั้นมีความงดงามร่วมสมัยกับสังคม Hip-Hop จนถึงปัจจุบันนี้ ความเด่นชัด, รูปแบบสีพื้นฐานตั้งแต่ดั้งเดิม, รูปแบบและลวดลายที่ชัดเจน ความมีเสน่ห์ของศิลปะ Kitsch, ความหรูหราแบบสปอร์ต, สไตล์เนี๊ยบสะอาดสะอ้านดูดีมีชาติตระกูล คุณสมบัติและสไตล์ทั้งหมดนี้จึงเป็นหัวใจสำคัญและเป็นเครื่องหมายที่ทำให้แฟชั่นสไตล์ Streetwear มีโปรไฟล์ที่สูง และดูดีเฉกเช่นเดี่ยวกับแบรนด์ Supreme และ Only NY. แนวคิดที่เกิดจากการโต้แย้งกันนั้นยังพบว่า Polo ยังคงเป็นเสื้อผ้า Streetwear ที่ดีที่สุดอยู่ตลอดเวลา, เว็บไซต์ Streetwear – Highsnobiety ระบุไว้ให้เห็นจากปีที่แล้วว่า “คุณสามารถกล่าวคำขอบคุณ Polo พร้อมกับเฉลิมฉลองไปพร้อมกับแบรนด์ Supreme's ที่ผลิตเสื้อผ้า oxfords ออกมาได้อย่างประณีตและมีคุณภาพ, เขานำเสื้อผ้าที่มีเฉดสีต่างๆมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว, ผลิตเสื้อผ้าแนว Rugby และสามารถก้าวไปเป็นแบรนด์สากลได้”
นอกจากนั้นคุณยังสามารถกล่าวคำขอบคุณแบรนด์ Only's แบรนด์แฟชั่นที่ผลิตเสื้อผ้ายุค'80s ที่มีความคิดที่ยอมรับด้านกีฬาและนำมาผสมผสานกับแบรนด์เสื้อผ้าของเขา, หรือกล่าวขอบคุณสำหรับแบรนด์ที่มีความทันสมัย และคิดค้นเสื้อผ้าที่มีต้นกำเนิดมาจากสิ่งแวดล้อมทางทะเล เฉกเช่น (seagulls, whales, fish, sailboats, and stripes, often in loud colors (นกนางนวล, ปลาวาฬ, ปลา, เรือใบ และลวดลาย ที่ทำให้เสื้อผ้ามักจะมีสีสันสดใสอยู่เสมอ) สิ่งที่ดีที่สุดก็คือเสื้อผ้า Vintage Polo นั้นได้สืบทอดต่อๆมาจนถึงกลุ่มคนรุ่นหลังและยังคงดำเนินอยุ่อย่างนั้นไปอย่างต่อเนื่อง ไปถึงสิ่งของและเครื่องประดับในหมู่ชาวอเมริกา หรืออย่างน้อยที่สุดก็คือ สไตล์ที่เนี๊ยบสะอาดสะอ้านดูดีมีชาติตระกูลนั้นยังเป็นส่วนย่อยที่ยังคงมีอยู่ใน Vintage Polo กระแสผู้นำด้านดีไซน์ของกลุ่มชาว Hip-Hop ในปัจจุบันอาจจะไม่ใช่เหตุบังเอิญที่เกิดขึ้น – สิ่งนั้นเริ่มก้าวเข้าไปสู่จุดที่เราค้นพบ Yeezys เหมือนกับสิ่งที่ยากเท่ากับการค้นหา Snow Beach Pullover – เขาดึงเอาสไตล์ของเขาออกมาสู่กลุ่ม Lo, และนั่นคือสิ่งที่เขามักจะทำให้ความฝันทางด้านแฟชั่นของเขานั้นผลักดันไปสู่แง่ของการเมืองและดิ้นรนไปเพื่อสู่สังคมนิยม, การแข่งขันเพื่อที่จะบุกเข้าในโลกแห่งความมั่งคั่งและความสามารถพิเศษที่เขามีเพื่อจะฝ่าฟันจากสิ่งกีดขวางทั้งหมดไปสู่ความสำเร็จด้วยความโปร่งใส
ความแข่งแกร่งอีกหนึ่งสิ่งที่บอกไว้ใน Bury Me คือ Bury Me บอกสถานการณ์เป็นนัยๆว่าวิสัยทัศน์กลุ่ม The Lo Lifes มีอุดมการณ์ที่สวยงาม สำหรับพวกเขาแล้ว แรงบันดาลใจขั้นพื้นฐานในการสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์ดังเช่น Polo นั้นเปรียบเสมือนการทำอะไรซ้ำๆวนไปวนมาอย่างไม่มีเบื่อซึ่งเป็นความฝันของชาวอเมริกัน ในบทนำของหนังสือที่เขียนโดยนักข่าว Hip-Hop ชื่อดัง – Bönz Malone เขียนไว้ว่า : พวกเขาคือกลุ่มคนที่ขโมยเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวเนื่องจากว่าสังคมนั้นบอกกับพวกเขาว่า พวกเขาไม่สามารถซื้อความฝันของพวกอเมริกันได้ แต่พวกเขาเลือกที่จะไม่ฟังคำพูดเหล่านี้ พวกเขาท้าทายกลุ่มคนเหล่านั้นด้วยการสวมใส่เสื้อ Polo และทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่าเสื้อผ้าเหล่านี้ไม่ได้มีความหมายกับพวกเขา และพวกเขาก็ทำมันให้เป็นของของพวกเขาเอง
การเดินทางของกลุ่ม Lo Lifes ไปยัง Red Bull สตูดิโอ ในประเทศเชลซี เพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนและร่วมประชุมอภิปรายในกิจกรรมงานหนังสือร่วมกับ Malone ในสุดก็พบว่า ข้อมูลเดิมจากหนังสือต้นฉบับของกลุ่ม Lo Lifes นั้นเป็นที่ยอมรับ ผู้บรรยายกล่าวออกมาด้วยอารมณ์ที่เร่าร้อนว่า หากผู้ฟังคนใดคนหนึ่งพบสิ่งที่ไร้สาระจาก Polo ที่แนบมากับเนื้อความการอภิปรายก็คงจะไม่ใช่ พวกเขาต้องการเพียงแค่ต้องแสดงให้ทุกคนมองเห็นความขาดแคลน ในหมู่บ้าน Marcus Garvey หรือที่โรงเรียนในรัฐ Brownsville ที่ที่คุณครูบอกกับเขาว่า เขาไม่เคยทำมันได้อย่างดีเยี่ยม เขาจึงบอกต่อไปว่า “มันไม่เคยเกี่ยวข้องกับ Ralph” แต่มันเกี่ยวข้องกับ “ชิ้นส่วน ส่วนหนึ่งของส่วนทั้งหมด”
.jpg)
มองไปรอบๆห้องพร้อมสายตาที่เป็นประกาย, กิจกรรมจาก Polo ที่ Red Bull สตูดิโอ ดูเหมือนกับว่าเขาจะได้รับรู้ถึงความแตกต่างกับสิ่งที่เกิดในระหว่างตอนนั้นและสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ : “สิ่งแย่ๆเนี่ยมันทำให้รู้สึกดี” แต่ทั้งสองสิ่งที่แตกต่างกันในงานอีเว้นท์นั้น เมื่อปาร์ตี้แชมเปญเริ่มขึ้นมันให้รู้สึกราวกับว่าเป็นการได้รวมตัวพบปะสังสรรค์กันเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันอีกครั้ง เครื่องเล่นวิดิโอโปรเจคเตอร์ถูกฉายขึ้นบนพนัง และ กลุ่ม Lo Lifes ได้สวมกอดอย่างนิ่มนวมเสมือนครั้งที่อยุ่ร่วมกันในยุค 80s ก่อนที่เขาจะลงมือแจกลายเซ็นต์ให้กับแฟนคลับรุ่นเล็กที่หลงรักใน Hip-Hop ในปาร์ตี้นี้มีการเดินแฟชั่นโชว์ มีของที่โดนขโมยไปจากผู้ชายที่สวมใส่เสื้อ Kelly สีเขียว – ใส่เสื้อเชิ้ตมีลวดลายเป็นรูปเรือใบ และใส่กางเกงผ้าลินินสีขาว
Ralph Lauren เขารู้ถึงแบบแผนที่ดีที่สุดสำหรับแบรนด์ของเขาเอง : เขามีช่างตัดเสื้อที่มีความสุขและสนุกสนานในการทำงานเป็นภาพที่มองแล้วช่างน่าตื่นเต้น จึงเป็นหนทางที่จะตัดสิ่งที่แย่ๆออกไปจากแบรนด์ของเขาได้ หลายๆปีที่ผ่านมา, Polo สร้างการผลิตสินค้าเพียงเล็กน้อยและไม่ได้พยายามที่จะต้องการสร้างการตลาดให้กับแบรนด์ของตัวเองเพื่อรวมเข้าเป็นส่วนนึงกับวัฒนธรรม Hip-Hop แต่ทั้งหมดนั้นก็ได้สร้างตลาดใหม่ขึ้นมาสำหรับ Polo, Thirstin บอกกับพวกเราว่า อย่างไรก็ตามทุกคนในงานปาร์ตี้ที่สวมใส่เสื้อ Polo นั้น “พวกเขารู้เรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ของเรา” ทุกสิ่งที่อย่างที่ผ่านไปโดยการอ้างอิงถึงอัลบั้มเพลง The College Dropout จากกลุ่มคนผู้ชื่นชอบผลงาน “The Best Dressed Bear in the World” (เสื้อ Polo ลวดลายหมีที่ดูดีที่สุดในโลก) แต่นั้นไม่ได้กล่าวถึงกลุ่มนักสะสมเสื้อบนเว็บไซต์ eBay ที่หลงใหลใน Hip-Hop พวกเขาได้ทำให้เสื้อ Polo ลายหมีนั้น กลายเป็นตำนานที่น่าจดจำ
จนกระทั่งตอนนี้ เรื่องราวความเป็นมาของ Polo Ralph ยังคงเป็นที่รู้จักกันดี เป็นสิ่งๆหนึ่งที่หนังสือ Burry Me ได้อธิบายให้ทราบโดยชัดเจนจากความหมายที่คล้ายคลึงกันกับเรื่องราวความเป็นมาของกลุ่ม Lo Lifes การถือกำเนิดของ Ralph Lifschitz มหาเศรษฐีที่เป็นลูกชายของ Bronx-born ชาวยิวผู้ยากไร้ที่อพยพมาจาก Belarus จากประวัติผู้ครอบครองที่วางมือจากการเป็น CEO (ผู้บริหารระดับสูง) เมื่อปีที่ผ่านมาได้ชี้แจงว่า “แม้ในขณะที่เขายังเป็นเด็ก, Lauren ลูกชายคนที่ 3 จากลูกทั้งหมด 4 คนของเขานั้น Lauren มีความหลงใหลในเรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและยังมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงผู้คน : เขาเลียนแบบสไตล์การแต่งตัวที่เนี๊ยบสะอาดสะอ้านดูดีมีชาติตระกูลของเด็กๆชาว New York ที่มีเงิน และในภายหลังเขาสามารถออมเงินได้อย่างรวดเร็วเพื่อเปิดร้านเล็กๆ ที่มีทั้ง distressed denim (กางเกงยีนส์ขาดๆ), cowboy boots (รองเท้าบูทแบบคาวบอย) และ เสื้อแจ๊คเก็ตหนัง” เขาเพ้อฝันถึง Hamptons และ New England และคิดว่าเมื่อไหร่เขาจะมีเงินมากพอที่จะไปที่นั่นได้
Times Square, 1988
หาก Ralph ไม่ต้องการให้ Hip-Hop เป็นภาพลักษณ์ส่วนหนึ่งในแบรนด์ของเขา ตามแบบฉบับที่กลุ่ม Lo Lifes คาดหวังเอาไว้จากอุดมคติที่พวกเขาหวังว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นจริงๆ การสวมใส่ Polo นั้นก็คงจะไม่มีความหมายสำหรับพวกเขาอย่างแน่แท้ “ถึงแม้ว่ามันจะต้องปล้น หรือ ขโมย”, “Raekwon กล่าวไว้ในหนังสือ Bury Me ว่า “Lo เป็นเพียงแต่สัญลักษณ์”, “Yo คือสิ่งที่เป็นของฉัน” (YOLO = You Only Live Once)
Just Blaze ได้กล่าวไว้ว่า “ผมไม่ใช่โคบาล ไม่ใช่นักสกี และไม่ได้เป็นนักแข่งเรือยอร์ช ในตอนนี้ แต่สมัยผมยังเป็นเด็ก แน่นอนว่าผมเคยฝันที่จะได้เป็น และนั่นคือสิ่งบอกว่าทำไม พวกเราถึงได้แต่งตัวในแบบที่พวกเราแต่งอยู่นี้” จากการวิเคราะห์หลักของแฟชั่นทั้งหมดเกิดจาก แรงบันดาลใจ ที่อยากดูดี รู้สึกดี และทำได้ดี แต่สิ่งที่ Ralph และ Lo Lifes แชร์ร่วมกัน คือแรงผลักดันของความตั้งใจจริง ความสามารถที่ไร้ขีดจำกัด ในการสร้างตัวตนขึ้นมา ซึ่งมันได้อยู่ในชื่อของมันอยู่แล้ว กล่าวโดย Thirstin Howl the 3rd
"สิ่งที่ Ralph และ Lo Lifes แชร์ร่วมกัน คือแรงผลักดันของความตั้งใจจริง ความสามารถที่ไร้ขีดจำกัด ในการสร้างตัวตนขึ้นมา"
ทุกวันนี้ความงามแบบ Vintage ของ Polo ได้เผยแพร่ไปอย่างกว้างไกลในญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์ อีกทั้งยังพบเห็นในปาร์ตี้ต่างๆของวิทยาลัยในอังกฤษที่ Ralph ได้ถูกจินตนาการถึง แต่ปาร์ตี้ที่กล่าวมานั้นจะมาในรูปแบบ Hip-Hop เมื่อนำสิ่งต่างๆเหล่านี้มารวมกัน จะกล่าวได้ว่าพวกเขาจะแต่งตัวเลียนแบบ นักเรียนจากเมือง Andover ที่มีแบบมาจาก Kanye West ซึ่งมีลักษณะแนวคนผิวสี และวัฒนธรรมของเด็กๆจาก Brownsville เมื่อ 20 ปีก่อน ที่ได้ขโมยเสื้อผ้าจากร้านดังๆ ที่มีไว้สำหรับ นักเรียนของ Andover มาสวมใส่ไม่แม้แต่ Ralph Lauren ที่เค้าสามารถที่จะจินตนาการถึง
Source : http://www.esquire.com/
Translate by : APPLIQUEz
