ยังคงเป็นรองเท้าที่ทุกคนต่างตั้งตารอคอยและติดตามข่าวกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับรองเท้า adidas Yeezy Boost 750 ซึ่งมีข่าวและภาพต่างๆหลุดออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งในแวดวงของเหล่าสนีกเกอร์ต่างลุ้นกันกันไม่น้อยเลย เพราะสีล่าสุดที่วางจำหน่ายนั้นเป็นลำดับที่สามของรองเท้าในตระกูล Yeezy Boost 750 โดยสีที่ออกใหม่มีชื่อว่า “Light Grey/Gum” และทันทีที่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก adidas Originals กระแสในโลกโซลเชี่ยลเรียกได้ว่าร้อนเป็นไฟเลยทีเดียว ทั้งในไทยและต่างประเทศต่างหาข้อมูลกันให้วุ่น และในเมื่อเป็นรองเท้าที่คนให้ความสำคัญและต้องการมากขนาดนี้ ทาง Soul4street ก็ไม่พลาดที่จะมารีวิวให้ได้ชมกันถึงความพิเศษและอะไรคือความน่าสนใจจากรองเท้าคู่นี้
ก่อนจะไปรีวิวให้ได้อ่านกันย้อนความกันสักนิดก่อนเกี่ยวกับรองเท้าคู่นี้ รองเท้าคู่นี้เป็นการร่วมงานกันระหว่าง adidas Originals และแร็ปเปอร์ชื่อดัง Kanye West สำหรับในรุ่น Yeezy Boot 750 ได้วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 สีได้แก่สีเทา (Grey) และ สีดำ (Triple Black) สำหรับคู่นี้ถือเป็นสีที่ 3 แล้วที่วางจำหน่ายออกมา
สำหรับรองเท้า adidas Yeezy Boost 750 “Light Grey/Gum” นั้นได้วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลก คือเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา สำหรับบางร้านในต่างประเทศที่วางจำหน่ายแบบใครมาก่อนได้ก่อนนั้น มีการมาแคมป์กันก่อนวันวางจำหน่ายหลายวัน แต่ก็มีหลายร้านในหลายประเทศที่เปิดให้ลงทะเบียนลุ้นสิทธิหาผู้โชคดีในการซื้อรองเท้าคู่นี้
รองเท้า adidas Yeezy Boost 750 “Light Grey/Gum” มาพร้อมกล่องสีเทาเข้มซึ่งจะแตกต่างจากรุ่น Yeezy Boost 350 ที่เป็นสีน้ำตาล เปิดกล่องออกมาด้านในมีถุงผ้าสีดำที่ไว้เอาไว้ใส่รองเท้า กระดาษห่อรองเท้ามาเป็นอย่างดี โดยใต้รองเท้านั้นยังมีคล้ายๆฟองน้ำรองมาอีกชั้น เพื่อกันรองเท้ากระแทกและคอยรองรับกระแทก ตรงฝากล่องนั้นถูกออกแบบออกมาให้เรียบง่ายโดยจะมีแค่สติ๊กเกอร์ระบุแค่ไซส์กับรุ่นของรองเท้าเท่านั้น
การออกแบบรองเท้า
รองเท้าถูกออกมาในทรงแบบหุ้มข้อ การออกแบบถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างได้อารมณ์ของความเป็นรองเท้าไฮเอนด์ ตัวรองเท้าจะมาในโทนสีเทาอเข้ม รองเท้าในส่วนของ Upper ใช้วัสดุหนังกลับต้องถือว่าคุณภาพสูงใช้ได้เลยล่ะ เพราะค่อนข้างเนียนนุ่มมือดีเลยทีเดียว ตรงรูร้อยเชือกมีด้วยกันทั้งหมด 5 รู โดยส่วนตัวชอบการออกแบบรูร้อยเชือกที่ดูต่างจากรองเท้าทั่วๆไป
มาถึงสองจุดเด่นที่ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ อย่างแรกเลยคือสายรัด (Strap) ที่ทำจากวัสดุผ้าและจรงปลายเป็นยางที่มีไว้เพิ่มความกระชับ จริงๆแล้วก็ถือเป็นเอกลักษณ์อย่างนึงของรองเท้ารุ่น Yeezy และหากคุณดึงสายรัดขึ้นมา หากเป็นรองเท้าข้างขวาจะมีโลโก้ของ adidas Originals และข้างซ้ายมีคำว่า YZY มาถึงอีกจุดเด่นคือซิป (YKK) ที่อยู่ด้านข้างของรองเท้า ด้วยทรงของรองเท้าเป็นแบบหุ้มข้ออาจจะทำให้การสวมใส่ค่อนข้างลำบาก จึงได้ออกแบบให้มีซิปเข้ามาช่วยในการทำให้ใส่รองเท้าได้ง่ายขึ้น ซิปที่ติดมานี้ค่อนข้างลื่นรูดขึ้นลงได้ง่ายไม่มีปัญหา
ตรงส่วนของปลายรองเท้าจะเจาะรูเพื่อช่วยในเรื่องการระบายอากาศ มาถึงด้านในของรองเท้ากันบ้างซึ่งไม่มีฟองน้ำบุแต่จะเป็นวัสดุแบบเดียวกับ ด้านนอกเลย แต่เวลาเดินไม่ได้ทำให้รุ้สึกแข็งกระด้าง มาดูตรงส่วนพื้น (Sole) กันบ้างซึ่งแน่นอนว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทางแบรนด์ใช้เป็นอีกหนึ่งจุดขาย ตัวพื้นรองเท้าดีไซน์ออกมาได้แบบไม่เหมือนใคร
และเป็นพื้นในลักษณะแบบสีน้ำตาลอ่อน Gum Sole และสิ่งที่ทำให้รองเท้าคู่นี้โดดเด่นและน่าสนใจกว่า 2 สีที่ออกมาก่อนหน้านี้ ก็คือตรงพื้นสามารถเรืองแสงได้ในที่มืด (Grow in the dark) ต้องบอกก่อนเลยว่ารองเท้ารุ่นนี้ค่อนข้างมีน้ำหนักเนื่องจากทำจากหนังกลับทั้งหมด ดังนั้นทาง adidas ต้องทำพื้นออกมาให้มีน้ำหนักที่เบา การใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Boost technology ซึ่งเราจะเห็นอยู่ด้านใต้ของพื้นรองเท้า (คล้ายๆเม็ดโฟมอัด) ตัวพื้นค่อนข้างรองรับน้ำหนักได้ดี ทำให้เวลาใส่เดินจะรู้สึกได้ว่าค่อนข้างนุ่มสบาย
โดยรวมแล้วรองเท้าคู่นี้ทำออกมาได้ดีทีเดียว ทั้งการดีไซน์ที่ทำให้ดูแตกต่างจากที่เคยเห็นมาในรองเท้าสนีกเกอร์ การนำเทคโนโลยี Boost technology มาช่วยทำให้รองเท้าน่าใส่ขึ้นมาเยอะเลยเพราะช่วยรับแรงกระแทกระหว่างเดินได้ เป็นอย่างดี แต่ข้อควรระวังคือการดูแลเพราะรองเท้าใช้วัสดุอย่างหนังกลับทั้งคู่ อาจทำให้การดูแลรักษาค่อนทำได้ยาก และสีกางเกงยีนส์จะตกใส่ได้ง่าย รวมถึงรองเท้าค่อนข้างมีน้ำหนักในระดับนึง ตอนนี้ราคารองเท้าคู่นี้ค่อนข้างพุ่งขึ้นไปอย่างมากประมาณ 1500 USD + ซึ่งไม่ใช่มีแค่ใจที่ชอบเท่านั้นแต่ต้องมีทุนทรัพย์ที่มากพอด้วย แต่หากใครที่กำลังมองหารองเท้าที่แตกต่างด้วยเทคโนโลยีและการดีไซน์แล้วละ ก็ไม่ควรพลาดเลยสำหรับรองเท้าคู่นี้
Photographer : Supasin Daungkrajan