6 ปีหลังจากปล่อยอัลบั้ม “My World” ของเขาออกมา ในจักรวาลนี้ก็ยังคงไม่สามารถค้นพบวิธีรักษาอาการ “Bieber Fever” ได้เลย นับตั้งแต่ที่เขาเข้าวงการเมื่อตอนอายุเพียง 15 ปี เขาก็ต้องเผชิญกับการจัดอันดับเพลงฮิตของชาวแคนาดา รวมถึงแบกรับรางวัลมากมายที่เขานั้นได้รับ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังต้องรับมือกับเหล่าแฟนคลับสุดบ้าคลั่งที่เรียกตัวเองว่า “Beliebers” ซึ่งมันดูแตกต่างจากศิลปินร่วมสมัยคนอื่นๆมาก
ในขณะที่เรามองดู Justin Bieber เติบโตพร้อมกับความปวดร้าวมากมายภายใต้ความฝันของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องการทำตามความฝันของตัวเอง เขาพยายามพัฒนาสไตล์ของตัวเองมาโดยตลอด และเขาก็สมควรที่จะได้รับการยอมรับจากผู้คนรอบข้างเช่นกัน หลายปีที่ผ่านมาเราอาจะได้เห็น JB เปลี่ยนการแต่งตัวจากเสื้อฮู้ดสีม่วงสุด swag มาเป็นการแต่งตัวแนว streetwear มากยิ่งขึ้น
เมื่อเราได้ลองฟังและดูมิวสิควีดีโอจากอัลบั้มที่สี่ “Purpose” ของเขาแล้ว เราก็ได้ตัดสินใจที่จะลองมองย้อนกับไปถึงการพัฒนาในสไตล์ของ Justin Bieber ตลอดเวลาที่เขาอยู่ในวงการบันเทิง จากเด็กมัธยมทั่วไปสู่ความเป็นผู้นำแฟชั่น เราคงได้เห็นแล้วว่า Justin Bieber มีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เราจะพาไปดูกัน
Mall Kid Who Still Shop With His Mom (2009)
เด็กน้อยที่ยังคงช็อปปิ้งกับคุณแม่ สไตล์นี้คงเหมาะกับ Justin Bieber สมัยยังคงสวมใส่เสื้อฮู้ดสีม่วงขึ้นโชว์บนเวที จากการแต่งตัวของเขาแล้วดูเหมือนว่าเขาเลือกหยิบเสื้อผ้าลดราคาจากชั้นวางในร้าน Zumiez มาตามสไตล์ของแฟนชั่นเสื้อผ้าเด็กที่อยู่ในแม็กกาซีนแจกตามห้างสรรพสินค้า บางครั้งก็เลือกใส่เสื้อเชิร์ตแขนยาวหลากสี หรือจะเป็นเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ หมวกเบสบอลที่ไม่ใช่ทีมจากแคนาดา และรองเท้าคู่โปรดอย่าง Supra Sky-Top
แต่ความจริงแล้วช่วงเวลานั้น เป็นช่วงเวลาที่เขาปล่อยซิงเกิล “Baby” ออกมา ทั้งใน MV ยังเลือกใส่เสื้อฮู้ดสีม่วงอีกด้วย ทำให้เกิดกระแสเสื้อผ้าสีม่วงเกิดขึ้นมาเพราะเหล่าแฟนคลับที่คลั่งไคล้ดันแต่งตัวตาม Justin Bieber กันยกใหญ่
I’m Not a Boy, Not Yet a Man (2010)
จะเด็กก็ไม่ใช่ จะผู้ใหญ่ก็ไม่เชิง ในที่สุดเสียงของนักร้องหนุ่ม Justin Bieber ก็แตกหนุ่มเสียที รวมถึงสไตล์การแต่งตัวของเขาก็เปลี่ยนไปเยอะด้วยเหมือนกัน แต่สำหรับเสื้อฮู้ดตัวโปรดของ Justin Bieber ก็ยังคงติดตาใครอีกหลายคน ก่อนหน้านี้คงมีคนอคติกับการแต่งตัวของเขาอยู่มาก แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เพราะการเลือกเสื้อผ้าของเขานั้นเปลี่ยนไปจนได้รางวัล “Kids Choice Awards” ด้วยการแต่ตัวที่มีความเป็น High-Street Fashion และดูคล้ายกับการแต่งตัวของ Usher อยู่เหมือนกัน เปลี่ยนเป็นเสื้อคลุม เสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำ แว่นตากรอบหนาๆ แต่ก็ยังคงเลือกใส่รองเท้า Supra อยู่เหมือนเดิม
Short Hair, Don’t Care (2011)
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Justin Bieber ที่เรียกว่าสร้างกระแสในวงการบันเทิงได้อย่างมากนั่นก็คือการเปลี่ยนทรงผมใหม่ของเขานั่นเอง ลองจินตนาการดูว่าเหล่า Beliebers จะเป็นอย่างไรเมื่อ Justin Bieber ตัดสินใจตัดผมอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาออกไปทีละนิดจนไม่เหลือ ถึงแม้ว่าเขาจะตัดผมสั้นแล้ว แต่เขาก็ยังคงสวมใส่หมวก Snapback อยู่บ้าง ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูโตขึ้น การแต่งกายของเขาก็ต้องดูโตขึ้นด้วยเป็นธรรมดา การเปลี่ยนจากหมวก Snapback เป็นหมวกทรง Fedora รวมถึงใส่สูทผูกไท หรือใส่เสื้อคลุม Blazer และเสื้อ Varsity เป็นครั้งคราวเวลาออกงาน
Am I Gangsta Yet? (2012)
สไตล์นี้เหมาะจะเป็น Gangster ได้หรือยัง? พวกเราเริ่มได้เห็นว่า Justin Bieber เริ่มคลุกคลีกับเหล่านักร้องแร็พเปอร์ชื่อดังมากมายขึ้นเรื่อยๆ เพราะเหตุนี้เราจึงเห็นการแต่งตัวของเขาเปลี่ยนไป อาจเป็นเพราะเขาได้รับอิทธิพลมาจากแร็พเปอร์รุ่นพี่ก็เป็นได้ สร้อยคอและนาฬิกาสีทอง กางเกงขาจั๊มพ์สไตล์ MC Hammer เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ สวมทับด้วยเสื้อกั๊กยีนส์แบบ Kanye West เรียกว่าสไตล์ของเขานั้นมันสุด swag เลยจริงๆ
Street Goth Biebs (2013)
ถือว่าเป็นปีรุ่งโรจน์ที่สุดของวงการแฟชั่นเลยก็ว่าได้ เมื่อหลายคนหันมาให้ความสนใจกับเสื้อผ้าแนวสตรีทแวร์มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงแฟชั่นแนว Gothic อีกด้วย เราคงจะได้เห็นภาพจากงาน Fashion Week เมื่อหลายคนเลือกใส่เสื้อผ้าสีดำดูคล้ายกับที่เหล่านักร้องแนวฮิปฮอปสวมใส่กัน หรือที่เราเรียกกันว่าสไตล์ Ninja นั่นเอง แต่ Justin Bieber นั้นก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าสีดำแบบธรรมดาเท่านั้น เขายังมีกางเกงหนังขายาว เสื้อแจ็คเก็ตหนัง En Noir และรองเท้า Rick Owens มันพิสูจน์แล้วว่า Justin Bieber นั้นไม่เป็นสองรองใครในเรื่องแฟชั่น เพราะบางครั้งนั้นเขาใส่หน้ากากกันแก๊ซพิษ ผ้าโพกหัวลายกะโหลก รวมถึงหน้ากากไอ้โม่งของ Chanel อีกด้วย
Good Biebs Gone Bad (2014)
คงเป็นปีที่หนักหนาสาหัสและเหนื่อยที่สุดของเหล่า PR รวมถึงผู้จัดการของนักร้องหนุ่ม Justin Bieber อย่างแน่นอนสำหรับปี 2014 เพราะเราคงได้เห็นข่าวด้านลบมากมายของเขา จนทำให้เราเกือบลืมภาพลักษณ์ของนักร้องหนุ่มน้อยชาวแคนาดาที่ดูน่ารักน่าเอ็นดูไปได้เลยทีเดียว Justin Bieber ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนที่ก้าวร้าวป่าเถื่อน เนื่องจากเจ้าตัวนั้นได้ขว้างปาไข่ใส่บ้านของเพื่อนบ้าน หลังจากนั้นไม่นานก็โดนจับกุมในข้อหาเมาแล้วขับที่ Miami Beach อีก แถมใบขับขี่ก็ยังหมดอายุมามากกว่า 6 เดือนอีกด้วย ต้องบอกว่าเป็นปีชงของ Justin Bieber เลยก็ว่าได้ แต่อีกสาเหตุหนึ่งนั้นอาจจะเป็นช่วงวัยรุ่นที่ทำไปเพราะความคึกคะนองก็เป็นได้
ในส่วนของสไตล์การแต่งตัวนั้นยังคงจัดจ้านแต่โดดเด่นและมีความเป็นตัวตนมากขึ้นอยู่เสมอ กับสไตล์ที่เป็นแนว Top-Tier มาพร้อมกับผ้าโพกหัวพันรอบคอ หมวก Bucket Hats แว่นตาสีดำ เสื้อยืดกับแจ็คเก็ตยีนส์คู่ใจ ทำให้รู้สึกเหมือนว่านักร้องหนุ่ม Justin Bieber นั้นโตขึ้นมากกว่าเดิม
Hype Machine (2015)
ไม่มีใครหยุดยั้งเขาได้อีกแล้วในปีนี้ เรียกว่าดังจนฉุดไม่อยู่จริงๆสำหรับ Justin Bieber เมื่อเขาได้เซ็นสัญญาร่วมแคมเปญกับ Calvin Klein อีกทั้งยังได้ปล่อยซิงเกิ้ลเพลง Where Are Ü Now ร่วมกับ DJ Producer EDM ชื่อดังอย่าง Jack Ü ออกมาในช่วงซัมเมอร์ แถมยังมีผลงานออกมาให้เราติดตามอยู่มากมาย ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ที่ไหนก็เรียกเสียงกรี๊ดจากเหล่าแฟนคลับ Beliebers ได้อยู่เสมอ เพราะการแต่งตัวของเขานั้นยกระดับภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดู Hype มากยิ่งขึ้นอีกหลายเท่าตัว จนต้องยกฉายา Hype Machine ให้ไปโดยปริยาย ยิ่งเมื่อ Justin Bieber ปรากฎตัวในงานอีเวนท์สำคัญ เราจะเห็นได้เลยว่าเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่นั้นมีความหรูหราจนไม่กล้าไปสืบราคากันเลยทีเดียว แต่เขาก็ยังคงมีความเป็น Street Fashion อยู่เหมือนกัน อย่างเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ใน MV เพลง I’ll Show You อัลบั้ม Purpose นั้น จะเห็นได้ว่าเขาใส่ทั้ง adidas Yeezy Boost 350 และเสื้อฮู้ดของ Off-White อีกด้วย
หากใครเป็นแฟนคลับและชื่นชอบผลงานของนักร้องหนุ่มมากความสามารถอย่าง Justin Bieber ก็ไม่ควรพลาดที่จะอุดหนุนอัลบั้มใหม่ PURPOSE เพราะเราบอกได้เลยว่าอัลบั้มนี้เป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่ดีที่สุดของ Justin Bieber อย่างแน่นอน และในโอกาสหน้า หากมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Justin Bieber ทางเราจะนำมารวบรวมไว้ให้ทุกคนได้อ่านกันอย่างแน่นอน ฝากติดตามกันด้วยนะครับ