ตอนนี้หนึ่งในกระแสรองเท้าที่กำลังเป็นที่พูดถึงจาก Nike คงต้องยกให้กับ Nike Air Presto Ultra Flyknit เพราะเป็นการนำเอาโมเดลสุดคลาสสิค มาเพิ่มเติมความน่าสนใจด้วยใส่เทคโนโลยีสมัยใหม่ เรียกได้ว่าปล่อยมาได้ถูกจังหว่ะอย่างมากเลยทีเดียว เพราะกระแสของสตรีทแฟชั่น กำลังกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง และแน่นอนว่ารองเท้าสนีกเกอร์เป็นหนึ่งในไอเท็มหลักของการแต่งตัวในสไตล์นี้เลย สำหรับรองเท้ารุ่นนี้มีรายละเอียดหลายอย่างที่น่าสนใจ แต่ว่าจะมีตรงจุดไหนบ้างที่น่าสนใจและตรงจุดใดบ้างที่ Nike ได้พัฒนาเพิ่มเติมเข้าไป ทาง Soul4street เรามีคำตอบให้ อย่ารอช้าไปติดตามอ่านรีวิวกันเลยดีกว่า
ย้อนความถึงรองเท้ารุ่น Air Presto กันก่อน สำหรับรองเท้ารุ่นนี้เป็นหนึ่งในทรงคลาสสิคของทาง Nike เลยก็ว่าได้ ซึ่งครั้งแรกที่วางจำหน่ายนั้นต้องย้อนไปถึงปี 2000 หรือเมื่อ 16 ปีที่แล้ว โดยการออกแบบของ Tobie Hatfield (น้องชายของ Tinker Hatfield ดีไซเนอร์ระดับตำนานของ Nike) ตอนนั้นก็ต้องบอกเลยว่ารองเท้ารุ่นนี้มีความล้ำสมัย ทั้งเรื่องของรูปทรงและอีกหนึ่งเรื่องที่ถือเป็นเรื่องที่ใหม่มากในวงการสนีกเกอร์ตอนนั้น ก็คือคอนเซปต์ "T-Shirts for your foot" ซึ่งเป็นการนำไซส์ของเสื้อคือ S, M, L, XL มาใช้แทนการบอกไซส์รองเท้า
ด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจในปี 2106 นี้ทาง Nike จึงได้นำรองเท้ารุ่นนี้มาปรับปรุงให้ทันสมัยมากขึ้น เพิ่มเติมเทคโนโลยีใหม่ๆเข้าไป อย่างแรกเลยคือการเลือกใช้วัสดุอย่าง Flyknit ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีการถักทอขั้นสูงของ Nike เข้าไปใช้ตรงส่วนของ Upper ซึ่งข้อดีเลยคือรองเท้าจะมีน้ำหนักที่เบา สามารถหยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี และยังระบายอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างที่สอง Nike ได้ปรับเปลี่ยนมาใช้วัสดุ TPU ที่มีความแข็งแรงมากขึ้นตรงส่วนที่เรียกว่า Cage ซึ่งอยู่ตรงด้านข้างของรองเท้าที่คอยช่วยพยุงหน้าเท้า
การปรับเปลี่ยนจากทรงแบบ Low-Top มาเป็นทรงแบบ Mid-Top โดยเพิ่มในส่วนของ Sock Lining เข้ามาและในส่วนของ Mid Sole และ Out Sole นั้นได้ใส่เทคโนโลยี Ultra เข้ามา นั้นก็คือการใช้ EVA เข้ามาเป็นส่วนผสมหลัก และเซาะตรงร่องพื้นเพื่อให้มีน้ำหนักเบาขึ้น สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น
หลังจากเราได้แนะนำถึงโฉมใหม่ของรองเท้า Nike Air Presto Ultra Flyknit กันไปแล้ว ว่ามีอะไรที่เพิ่มเติมเข้ามาบ้าง ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นรองเท้าอีกหนึ่งรุ่นที่มีทั้งเรื่องราว รวมถึงการออกแบบและฟังก์ชั่นการใช้งานที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ถ้าหากใครที่สนใจสามารถไปแวะชม และลองใส่กันได้ที่ร้าน Seek สาขา Central Embassy ชั้น 3 โดยจะวางจำหน่ายของผู้ชาย 3 สีได้แก่ All White, Core Black, Wolf Grey และของผู้หญิง 3 สีเช่นกัน All White, Core Black, Bright Mango ในราคา 5,800 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 59 เป็นต้นไปพร้อมกันกับ Top Store ทั่วโลกครับ
Facebook : www.facebook.com/seekofficialTH
Instagram: @SeekOfficialTH
SEEK Central Embassy, 02-160-5689
SEEK Megabangna, 02-105-1835