หลังจากที่ได้เปิดตัวเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ Yeezy Season 3 และผลงานเพลงอัลบั้มใหม่ของเขาไปพร้อมๆกันแล้วที่ Madison Square Garden ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ และเราก็คิดว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การนำผลงานรองเท้าที่ Kanye West เป็นผู้ออกแบบมาพูดถึงกันบ้าง เพราะว่าตอนนี้กระแสของรองเท้า Yeezy นั้นมาแรงมากจริงๆ
ในส่วนรองเท้าที่เขาได้ร่วมออกแบบนั้น ทุกคู่จะมีชื่อรุ่นว่า “Yeezy” ทั้งหมด เพราะมันคือชื่อที่แสดงถึงตัวตนของ Kanye West ตั้งแต่คอลเลคชั่นแรกที่เขาได้ร่วมงานกับทาง Nike ที่เปิดตัว "Air Yeezy" ทำให้ประวัติศาสตร์วงการรองเท้านั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จนปัจจุบันเขาได้แยกทางกัน และหันมาจับมือกับทาง adidas แทน โดยใช้ชื่อรุ่นว่า “Yeezy Boost” และเพิ่มโมเดลรองเท้ามากขึ้นกว่าเดิม
อย่างที่เรารู้กันดีว่ารองเท้าที่เขาออกแบบนั้น เป็นที่ต้องการอย่างมากจากเหล่าสนีกเกอร์เฮด และกลุ่มพ่อค้าที่หวังแสวงหากำไรจากการขายรองเท้าของเขา เพราะไม่ว่าจะออกมากี่รุ่น ก็สามารถขายหมดได้ทันที แต่มันก็อาจมีบางรุ่นที่ไม่สามารถตอบโจทย์เหล่าสนีกเกอร์เฮดได้ อ่านมาถึงตรงนี้แล้วอย่ารอช้า ไปติดตามกันเลยดีกว่าว่าจากราคาที่ขายกันหน้าร้าน หรือราคาป้ายนั้นมีราคาเท่าไร และหลังจากนั้นราคามันเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าไร หลายคนคงอยากรู้ ลองมาติดตามได้จากบทความนี้กันเลยครับ
อันดับที่ 13: adidas Yeezy Boost 950
วางจำหน่าย: พฤษจิกายน 2558
ราคาเปิดตัว: $585
ราคาร้าน Flight Club: $950
ราคาของใหม่ที่ขายใน eBay: $830
ราคาที่สูงที่สุด: $950
adidas ยังมีความเชื่อมั่นในการออกแบบรองเท้าทรง Duckboot ในแบบที่ Kanye West ต้องการ แต่ทว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เหล่าสนีกเกอร์เฮดถูกใจเท่าไรนัก เขาคงคิดว่ามันเป็นการออกแบบที่ดูดีแล้ว แต่มันก็ยากที่จะให้ผู้คนเข้าใจในความคิดของเขา เพราะหน้าตาของรองเท้ามันทำให้ยากต่อการแต่งตัวเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่ามันจะดูไม่ค่อยทำราคาให้กับเหล่าพ่อค้าได้เท่าไรนัก แต่มันก็ยังคงสามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่ารองเท้ารุ่นทั่วไป Yeezy Boost 950 นั้นวางจำหน่ายด้วยกัน 4 สีคือ Black, Moonrock, Chocolate, และ Peyote และสีที่ดูเหมือนจะขายดีที่สุดนั่นก็คือสี Black และสี Moonrock นั่นเอง แต่มันยังไม่จบแค่นี้ ดูเหมือนว่าเขากำลังจะยกระดับรองเท้าของเขาขึ้นไปอีกในการเตรียมวางจำหน่าย “Yeezy Boost 1050” ในคอลเลคชั่น “Yeezy Season 3” นี้ครับ ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร
อันดับที่ 12: adidas Yeezy Boost 350 Low “Oxford Tan”
วางจำหน่าย: ธันวาคม 2558
ราคาเปิดตัว: $200
ราคาร้าน Flight Club: $1,250
ราคาของใหม่ที่ขายใน eBay: $1,123
ราคาที่สูงที่สุด: $1,750
ใครจะคิดยังไงกับรองเท้าคู่นี้ก็ช่าง ใครจะไปสนใจกันละในเมื่อมันก็คือ “Oxford Tan Yeezy” อยู่ดีนั่นแหละ การเลือกกำหนดการวางจำหน่ายในวันที่ 29 ธันวาคมนั้นมันเป็นอะไรที่ง่ายมากเพราะมันเป็นช่วงเทศกาลวันหยุด และที่สำคัญมันก็เป็นช่วงเวลาที่ดี สำหรับใครที่กำหลังมองหาของขวัญให้กับตัวเองในช่วงเทศกาลสำคัญนี้ แต่เขาก็ไม่ได้เรียนรู้วิธีการเลือกวันวางจำหน่ายรองเท้าจากมหาวิทยาลัยที่เขาเรียนมาหรอกนะ อย่างไรก็ตาม “Oxford Tan Yeezy” ก็ยังคงทำราคาได้สูงอยู่เช่นกัน แต่มันเป็นอะไรที่ไม่แน่นอนอยู่แล้วสำหรับราคารองเท้า มันขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อมากกว่า แต่มันก็มีบางคนตั้งราคาขายกันที่ $1,750 ซึ่งมันบ้ามาก หลังจากมีการวางจำหน่ายอีกครั้งในเดือนมกราคม ก็มีหลายคนที่มีโอกาสได้ครอบครองรองเท้าคู่นี้กันมากขึ้น แต่ที่สำคัญคือถ้าหากคุณมีรองเท้าคู่นี้อยู่ในครอบครอง มันก็แปลว่าคุณมีรองเท้าของ Yeezy อยู่กับตัวแล้ว
อันดับที่ 11: adidas Yeezy Boost 350 Low “Moonrock”
วางจำหน่าย: พฤษจิกายน 2558
ราคาเปิดตัว: $200
ราคาร้าน Flight Club: $2,500
ราคาของใหม่ที่ขายใน eBay: $1,139
ราคาที่สูงที่สุด: $2,215
เปิดตัวในเดือนพฤษจิกายนปี 2015 กับการเลือกใช้สีที่ดูแล้วดึงดูดความสนใจของเหล่าสนีกเกอร์เฮดได้ไม่น้อย จนทำให้เกิดความโกลาหลหลังจากการวางจำหน่ายที่ร้านขายรองเท้าแห่งหนึ่ง Yeezy Boost 350 Moonrock นั้นได้แรงบันดาลใจมากจากสีของพื้นพิวบนดวงจันทร์ และวัสดุของรองเท้านั้นดูเหมือนว่าจะผลิตจากผ้าขนสัตว์ชนิดหนึ่งอีกด้วย ด้วยจำนวนของรองเท้าที่วางจำหน่ายน้อยกว่าปกติ ไม่ได้วางตามร้านทั่วไปเหมือน Yeezy Boost สีอื่น อันที่จริงแล้วมันนควรจะเป็นรุ่นที่มีอันดับสูงกว่านี้
อันดับที่ 10: adidas Yeezy Boost 350 Low “Pirate Black”
วางจำหน่าย: สิงหาคม 2558
ราคาเปิดตัว: $200
ราคาร้าน Flight Club: $1,750
ราคาของใหม่ที่ขายใน eBay: $1,153
ราคาที่สูงที่สุด: $2,750
นี่คงเป็นรุ่นที่เรียกว่าเสียงตอบรับ และความต้องการสูงมากอีกรุ่นหนึ่ง สำหรับ “Pirate Black” การเลือกใช้สีดำล้วนบนรองเท้าผ้าใบทรงไม่หุ้มข้ออย่าง Yeezy Boost 350 นั้นเป็นการตอบโจทย์เหล่าสนีกเกอร์เฮดได้อย่างดีที่สุด เพราะมันสามารถใส่เข้ากันได้กับทุกการแต่งตัว ถือว่าเป็นความสำเร็จอีกขั้นของ Kanye ที่เลือกใช้สีนี้ เพราะหลังจากการวางจำหน่ายรองเท้าได้ไม่นาน ก็มีคนนำออกมาขายด้วยราคา $2000 กันแล้ว ซึ่งเป็นราคาที่สูงมาก แต่ทว่ารองเท้าคู่นี้ได้มีกำหนดการวางจำหน่ายอีกครั้งในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ อาจทำให้ราคารองเท้าคู่นี้ตกลงมาบ้างก็ได้ แต่ในเมื่อความต้องการยังสูงอยู่ ก็คงไม่เป็นปัญหาอะไร เพราะไม่ว่าจะทำออกมาขายกี่คู่ก็ขายหมดอยู่ดี ส่วนใครที่ยังไม่มีไว้ในครอบครองก็ไม่ควรพลาด
อันดับที่ 9: adidas Yeezy Boost 350 Low “Tutledove”
วางจำหน่าย: มิถุนายน 2558
ราคาเปิดตัว: $200
ราคาร้าน Flight Club: $1,750
ราคาของใหม่ที่ขายใน eBay: $1,348
ราคาที่สูงที่สุด: $3,250
เป็นสีแรกของ Yeezy Boost 350 รองเท้าทรง Low Top ผลงานการออกแบบของ Kanye West กับสีที่มีชื่อว่า “Tutledove” จากการเปิดตัวก็เรียกเสียงฮือฮาให้กับวงการสนีกเกอร์ได้เป็นอย่างดี กำหนดการวางจำหน่ายในช่วงซัมเมอร์ของปี 2015 และมันก็ขายหมดอย่างรวดเร็วมาก อย่างที่เรารู้กันดีว่าในล็อตแรกๆนั้นรองเท้าผลิตมาน้อยมากกว่าปัจจุบัน และหลายคนก็ยังคงมีความต้องการครอบครองรองเท้าคู่นี้อยู่มาก มันจึงเป็นรองเท้า Yeezy Boost 350 ที่มีราคาสูงที่สุด
อันดับที่ 8: adidas Yeezy Boost 750 Hi “Triple Black”
วางจำหน่าย: ธันวาคม 2558
ราคาเปิดตัว: $350
ราคาร้าน Flight Club: $2,250
ราคาของใหม่ที่ขายใน eBay: $2,215
ราคาที่สูงที่สุด: $4,020
หลังจากปล่อยให้มีภาพหลุดอยู่นานก่อนวันจำหน่ายจริง และเป็นรองเท้าที่ผู้คนต่างพูดถึงเป็นอย่างมาก หลังจากได้ปล่อยรองเท้าทรง High Top อย่าง “Yeezy Boost 750 Grey” ที่เป็นสีแรกของโมเดลนี้ ย้อนไปช่วงต้นปี 2015 มีภาพหลุดออกมามากมายในโลกโซเชียล จนหลายคนคิดว่ามันเป็นแค่ของปลอมหรือข่าวลือ แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังเชื่อว่ามันต้องออกมาวางจำหน่ายอย่างแน่นอน จนสุดท้ายความฝันก็เป็นจริง เพราะหลังจากได้เห็นกระแสความต้องการของรองเท้าคู่นี้ ทาง adidas ก็คงไม่นิ่งเฉยอยู่แล้ว เลยกำหนดวันวางจำหน่ายอย่างชัดเจนในเดือนธันวาคมปี 2015 ถือว่าทิ้งช่วงนานมากหลังจากเปิดตัวสีแรก และแน่นอนอยู่แล้วว่ามันก็ทำราคาสูงขึ้นจากราคาเปิดตัวได้หลายเท่าเลยทีเดียว
อันดับที่ 7: Nike Air Yeezy 1 “Net”
วางจำหน่าย: เมษายน 2552
ราคาเปิดตัว: $250
ราคาร้าน Flight Club: $3,000
ราคาของใหม่ที่ขายใน eBay: $2,426
ราคาที่สูงที่สุด: $3,000
ต้องบอกเลยว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นของรองเท้าที่มีชื่อว่า “Yeezy” เลยก็ว่าได้ สำหรับรองเท้าคู่นี้ ทาง Nike ได้มอบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญมากให้แก่ Kanye West ในการออกแบบรองเท้าของตัวเอง ซึ่งมันเป็นความฝันของเขาอยู่แล้ว และเขาก็ไม่พลาดที่จะคว้าโอกาสนี้อย่างแน่นอน ในยุคนั้นมันเป็นอะไรที่แพงมากสำหรับรองเท้ากีฬาที่มีราคา $250 และดูเหมือนว่ามันไม่ได้เป็นรองเท้ากีฬาซักเท่าไร ถึงแม้ว่าเหล่าสนีกเกอร์เฮดจะมองว่ารองเท้าคู่แรกของเขานั้นมันไม่ได้ดีที่สุด แต่ “Nike Air Yeezy 1” ก็ยังคงทำราคาได้สูงติดอันดับต้นๆของโลกได้สบาย
อันดับที่ 6: Nike Air Yeezy 1 “Zen Grey”
วางจำหน่าย: เมษายน 2552
ราคาเปิดตัว: $250
ราคาร้าน Flight Club: $3,000
ราคาของใหม่ที่ขายใน eBay: $2,556
ราคาที่สูงที่สุด: $3,900
เป็นอีกหนึ่งสีที่อยู่ในคอลเลคชั่น “Nike Air Yeezy 1” ก็คงไม่ต้องพูดอะไรมากสำหรับรองเท้าคู่นี้ เพราะมันเป็นหนึ่งในรองเท้าที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Kanye West ได้เป็นที่รู้จักในวงการสนีกเกอร์ทั่วโลก ในตอนนั้นหลายคนคงยังมองข้ามรองเท้าคู่นี้เลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้มีบางคนยอมจ่ายเงินเกือบ $4000 เพื่อที่จะได้รองเท้าคู่นี้มาครอบครอง ถามว่าทำไมต้องยอมจ่ายเงินเยอะขนาดนั้น เพื่อซื้อรองเท้าแค่คู่เดียวด้วยละ คำตอบก็คงเป็นอะไรไปไม่ได้ “ก็เพราะมันเป็นรองเท้าที่ Kanye West ออกแบบไงละ”
อันดับที่ 5: adidas Yeezy Boost 750 OG “Grey”
วางจำหน่าย: กุมภาพันธ์ 2558
ราคาเปิดตัว: $350
ราคาร้าน Flight Club: $3,750
ราคาของใหม่ที่ขายใน eBay: $2,908
ราคาที่สูงที่สุด: $5,109
รองเท้าคู่แรกของ Kanye West ที่จับมือร่วมงานกับ adidas หลังประกาศแยกทางจาก Nike ซึ่งก่อนหน้านั้นผลงานของเขาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีก่อนที่จะย้ายค่าย มันอาจสร้างความกดดันให้กับตัวเขาเป็นอย่างมาก สำหรับการออกแบบรองเท้าคู่ใหม่ของเขากับทาง adidas ในส่วนของรองเท้าคู่นี้นั้นดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่รองเท้ากีฬาซักเท่าไร จนกระทั่งเราได้เห็น Nick Young ใส่รองเท้าคู่นี้ลงสนามในการแข่งขันบาสเก็ตบอล ซึ่งทำให้เราเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของรูปทรงรองเท้ากีฬาอย่างชัดเจน หลายคนอาจมีข้อกังขาว่าเขาคงทำมันออกมาได้ไม่ดีเท่าไร แต่แล้วยังไง เพราะ Kanye ก็คือ Kanye รองเท้าของเขานั้นยังคงทำราคาได้สูงอยู่เช่นเคย
อันดับที่ 4: Nike Air Yeezy 1 “Blink”
วางจำหน่าย: กุมภาพันธ์ 2552
ราคาเปิดตัว: $250
ราคาร้าน Flight Club: $3,500
ราคาของใหม่ที่ขายใน eBay: $3,493
ราคาที่สูงที่สุด: $4,000
เป็นสีที่มีราคาสูงสุดของโมเดล “Nike Air Yeezy 1” ด้วยการที่เขาออกแบบรองเท้าสีดำ และเลือกใช้สีชมพูในส่วนของ Insole จึงทำให้รองเท้าคู่นี้มีชื่อว่า “Blink” (Black+Pink) มันไม่จำเป็นเสมอไปว่ารองเท้าสีดำนั้นจะมีราคาสูงกว่าสีอื่น แต่รองเท้าคู่นี้ถูกออกแบบ และเลือกใช้โทนสีอย่างลงตัวมาก จึงทำให้เหล่าสนีกเกอร์เฮดมีความต้องการ และสนใจที่จะหามาครอบครองให้ได้ ถ้าหากคุณมีเงินมากพอ หรือกล้าที่จะจ่ายเงินเกือบ $4000 คุณก็สามารถเป็นเจ้าของรองเท้าคู่นี้ได้เลย
อันดับที่ 3: Nike Air Yeezy 2 “Pure Platinum”
วางจำหน่าย: มิถุนายน 2555
ราคาเปิดตัว: $250
ราคาร้าน Flight Club: $3,750
ราคาของใหม่ที่ขายใน eBay: $3,855
ราคาที่สูงที่สุด: $5,000
เป็นสีแรกของรองเท้า “Nike Air Yeezy 2” ที่ผลิตออกมาจำหน่ายเมื่อหลายปีก่อน (เคยมีจำหน่ายในประเทศไทยด้วยนะ) กับการนำเอกลักษณ์ของ “Nike Air Yeezy 1” มาพัฒนาทั้งในเรื่องของรูปทรง และเทคโนโลยี ถ้าความแรงของรุ่นแรกยังไม่พอ ก็ต้องมาเจอรุ่นต่อไปนี่แหละ เพราะด้วยหน้าตาของรองเท้ารุ่นนี้นั้นมันทำออกมาได้อย่างลงตัวมาก ทั้งวัสดุและการดีไซน์ ซึ่งมันเป็นเหมือนผลงานชิ้นเอกของ Kanye West สมัยที่ร่วมงานกับทาง Nike เลยก็ว่าได้ เพราะเราคงได้เห็นศิลปินคนดัง รวมถึงนักกีฬาที่มีชื่อเสียงได้สวมใส่รองเท้าคู่นี้กันอยู่มากมาย จึงทำรองเท้าคู่นี้จัดอยู่ในอันดับรองเท้าที่มีมูลค่าสูงมากของ Kanye West นั่นเอง
อันดับที่ 2: Nike Air Yeezy 2 “Solar Red”
วางจำหน่าย: มิถุนายน 2555
ราคาเปิดตัว: $250
ราคาร้าน Flight Club: $4,500
ราคาของใหม่ที่ขายใน eBay: $4,907
ราคาที่สูงที่สุด: $5,516
รองเท้าที่ถูกขนานนามว่าเป็นรองเท้าที่มีการใช้โทนสีได้ดีที่สุดของทาง Nike เลยก็ว่าได้ กับการเลือกใช้สี “Black Solar Red” ของรองเท้าคู่นี้ ซึ่งหลังจากที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Nike ได้นำสีของรองเท้าคู่นี้มาใช้ในโมเดลอื่นด้วย เช่น Foamposite, Air Force 1, Roshe Run, และ Air Max จนเหล่าสนีกเกอร์เรียกรองเท้าที่มีสี “Black Solar Red” ว่าสี “Yeezy” นั่นเอง ถึงยังไงรองเท้าคู่นี่ก็คู่ควรแล้วที่จะอยู่อันดับที่สองของผลงานรองเท้าของ Kanye West เพราะเป็นรองเท้าที่ยังคงถูกตามหาจากเหล่าสนีกเกอร์เฮดที่มีเงินมากพอจะจ่ายเงิน $5000 เป็นอย่างต่ำเพื่อที่จะให้ได้รองเท้าคู่นี้มาครอบครอง
อันดับที่ 1: Nike Air Yeezy 2 “Solar Red”
วางจำหน่าย: กุมภาพันธ์ 2557
ราคาเปิดตัว: $250
ราคาร้าน Flight Club: $4,500
ราคาของใหม่ที่ขายใน eBay: $5,998
ราคาที่สูงที่สุด: $15,000
มาถึงอันดับที่หนึ่งกันแล้ว คงหนีไม่พ้นรองเท้าคู่นี้แน่นอน “Nike Air Yeezy 2 Red October” ทำไมถึงได้ชื่อนี้? ก็เพราะว่าตัวรองเท้าเป็นสีแดงโมโน และมีกำหนดการวางจำหน่ายในเดือนตุลาคม แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้รองเท้าคู่นี้ถูกเลื่อนกำหนดการวางขายออกไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ แต่เหล่าสนีกเกอร์เฮดก็ยังคงเรียกรองเท้าคู่นี้ว่า “Red October” อยู่ดี และช่วงเวลานั้นก็มีข่าวเกี่ยวกับ Kanye West ที่กำลังจะแยกทางจาก Nike หลุดออกมาอีกด้วย จึงทำให้รองเท้าคู่นี้เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายที่พวกเขาได้ร่วมงานกัน มันเป็นการจากกันแบบไม่ค่อยสวยเท่าไรนัก จึงทำให้ Nike ตัดสินใจขายรองเท้าคู่นี้ให้เร็วที่สุด หลังจากถูกเลื่อนกำหนดออกมาหลายเดือน แต่การวางจำหน่ายนั้น ทาง Nike ไม่ได้มีการบอกกล่าวใดๆให้ผู้คนได้รับรู้ก่อนเลย มีเพียงข้อความใน Twitter เพียงหนึ่งข้อความเท่านั้น มันเป็นการวางจำหน่ายแบบเซอร์ไพรส์ที่สุด และแน่นอนว่ามันก็ยิ่งทำให้ราคาของรองเท้าคู่นี้เป็นรองเท้าที่มีมูลค่าสูงสุดของ Kanye West ตามปัจจัยที่กล่าวไว้ด้านบน
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับผลงานรองเท้าของ Kanye West ที่เขาได้ออกแบบร่วมกับแบรนด์รองเท้าระดับโลกอย่าง Nike และ adidas ซึ่งทั้งสองเป็นคู่แข่งกันมายาวนาน ผลงานของเขาสร้างความสั่นสะเทือนให้กับวางการสนีกเกอร์เฮดได้เป็นอย่างมาก ทั้งรูปร่างหน้าตาของรองเท้าที่ดูแปลกใหม่ มันเป็นไอเดียที่ออกมาจากหัวของเขาเอง เมื่อเขาได้รับโอกาสจากทั้งสองแบรนด์ เขาก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาแล้วว่าเขาคู่ควรกับมันมาก อย่างที่เรารู้กันว่ารองเท้าที่เขาออกแบบหรือสวมใส่ เมื่อถึงเวลาวางจำหน่าย มันก็ขายหมดแบบไม่มีเหลือ อีกทั้งราคาหลังวางจำหน่ายยังพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัวจนน่าตกใจ แต่ต่อให้ขึ้นไปสูงขนาดไหน มันก็ยังเป็นที่ต้องการของเหล่าสนีกเกอร์เฮดทั่วโลกอยู่ดี ด้วยสาเหตุที่ว่ารองเท้าเหล่านี้ถูกออกแบบโดย Kanye West นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก: Sneaker Freaker