Soul4street ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ Mr. Mark Werts ผู้ก่อตั้งร้าน American Rag Cie ซึ่งเป็นร้านมัลติแบรนด์ชื่อดังระดับโลกมีสาขาที่อเมริกาและญี่ปุ่น รวมทั้งในประเทศไทยเองด้วย โดยเราจะไปพูดคุยถึงที่มาที่ไปและจุดเริ่มต้นของร้าน American Rag Cie กันและพูดคุยในเรื่องต่างๆที่เชื่อว่าหากใครที่ได้อ่านแล้ว ต้องได้แรงบันดาลใจหรือข้อคิดออะไรดีๆอย่างแน่นอน
เราอยากทราบถึงจุดเริ่มต้นของ American Rag Cie รวมไปถึงจุดเริ่มต้นของ American Rag Cie ในไทยว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
เราได้ก่อตั้ง American Rag Cie ขึ้นในปี 1984 ที่เมืองซานฟรานซิสโกและในปีถัดมาเราก็ได้ขยายสาขาไปที่ลอสแองเจลิส และในปี 1988 เราได้เปิดโซนร้านอาหารในร้าน American Rag Cie ด้วย เรามีไอเดียที่ในการทำงานว่าทำการค้าขายให้รู้สึกเป็นเรื่องสนุก และการขายรีเทลหรือขายสินค้าปลีกนั้นในสมัยก่อนนั้นมีความเปลี่ยนแปลง และแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลา เราเลยคิดว่าถ้าเราทำร้านที่ขายสินค้า และเป็นที่ๆให้ลูกค้าสามารถมาแฮงเอาท์ได้ด้วยก็คงจะดีมาก ในปี 1997 เราก็ได้ไปเปิดสาขาที่ญี่ปุ่นจนกระทั่งในปี 2003 เราก็ได้ขยายสาขาอยู่ทั่วอเมริกา และเราได้มีโอกาสมาเมืองไทยเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งรู้สึกชื่นชอบและประทับใจเป็นอย่างมาก จึงได้เปิดสาขาในไทยเมื่อปีที่แล้ว และเราก็หวังว่าจะได้ขยายสาขาเพิ่มในเมืองไทย เพราะผมรักเมืองไทยมาก อาหารอร่อย ทะเลก็สวย และชิวิตกลางคืนที่นี่สุดยอดจริงๆ
คุณได้ถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ความเป็นตัวตนของคุณเอง รวมถึงความเป็นอเมริกันสไตล์ ไว้ใน American Rag ? แล้วตอนเริ่มต้นคิดคิดว่าแบรนด์ของคุณจะเป็นเช่นไร
พวกเราเรียกสิ่งที่เราทำหรือไลฟ์สไตล์ว่า Retailing หรือการขายของให้ลูกค้าโดยตรง และสินค้าที่เราเลือกมาขายที่เมืองไทยนั้น จึงเป็นสินค้าที่เราคัดมาแล้วอย่างเหมาะสม เพราะว่าร้านของเราที่อเมริกาจำหน่ายสินค้าตั้งแต่เครื่องครัว, หนังสือ, นาฬิกา และ อีกมากมาย แต่เราก็หวังที่จะเอาสินค้าที่เราขายที่อเมริกา มาขายที่เมืองไทยด้วยเช่นกัน เรามีทีมใหม่ที่นี่และผมก็ตื่นเต้นมากๆ ในการทำคอลแลคชั่นใหม่ออกมาเพื่อวางจำหน่ายที่นี้ เราจะมีสินค้าพิเศษซึ่งเป็นคอลแลคชั่นที่มีเฉพาะที่ไทย และสินค้าที่เราคิดกันออกมาก็เหมาะสำหรับคนไทย ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้อีกด้วย
การเดินทางไปทั่วโลกมันทำให้คุณนำสิ่งที่เห็นและประสบการณ์มาใช้ในการทำงานอย่างไรบ้าง
แน่นอนครับอย่างที่ผมได้บอกกับทีมของผมคำหนึ่งเมื่อวานก็คือ “วัฒนธรรม” สิ่งของหลายอย่างที่ผมนำมาตกแต่งร้านนั้นมีประวัติและความเป็นมาทั้งนั้น อย่างเช่นรูปภาพของ Andy Warhol หรือ รูปปั้นที่ผมได้มาจากตลาดนัด หรือ Flea Market ในหลายๆประเทศที่ผมได้ไปเห็นและสัมผัส นำมาตกแต่งลงไปในร้าน ในประเทศของผมตอนนั้นการที่ทำให้ทุกคนในบ้านเฮฮา และมีความสุขก็คือการเล่นเปียโน ผมก็เลยนำเบียโนมาเป็นโซฟากลางร้านหรือตรงที่เรานั่งกันอยู่ต้อนนี้ และสิ่งของอีกหลายอย่างในร้านที่มาจากหลายๆประเทศ คล้ายกับนำสิ่งที่ตัวเองรักและชื่นชอบในของสะสมมาทำให้มันเกิดประโยชน์ ให้เป็นมากกว่าแค่ของสะสม
คุณมีไอเดียในการเลือกสินค้ายังไงและมันเริ่มต้นขึ้นจากอะไร
อันที่จริงแล้วแบรนด์ของเราเริ่มแรกเป็นแบรนด์เสื้อผ้าวินเทจ การที่เราได้เห็นของสวยงามต่างๆมากมาย และสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็หายไปตามกาลเวลาของมัน หรือบางครั้งคนก็เริ่มนึงเบื่อจะทำในสิ่งๆนั้นแล้ว ทุกๆสิ่งที่ผ่านมามันทำให้ผมมีประสบการณ์และก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง และสิ่งที่พวกเราได้เรียนรู้นั้น ก็จะทำให้ร้านของเราประสบความสำเร็จ เราได้ทำการเปรียบเทียบและทดลองสินค้าเพื่อดูว่ามีอะไรที่เราต้องแก้ไขหรือเพิ่มเติมอะไรลงไปบ้าง
มีที่ไหนบ้างที่คุณประทับใจมากที่สุดในการเลือกสินค้า
ผมไม่สามารถพูดได้เลย เพราะว่าตอนนี้ทุกอย่างมัน global ไปแล้ว อย่างเช่นเมื่อวานนี้ผมได้ไปเยี่ยมร้าน Pronto และก็ซื้อเสื้อตัวนี้มาเพราะว่ามันเป็นการเย็บแบบวินเทจ และเป็นการเย็บแบบใช่ผ้าชิ้นเดียวอีกด้วย เมื่อเดือนก่อนผมได้ไปญี่ป่นและได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมร้านที่เชี่ยวชาญในการทำ Indigo Knit หรือการทำผ้า Indigo และเราก็ได้เห็นอะไรแปลกใหม่อยู่ทุกทีตลอดเวลา ก็อย่างที่ผมบอกว่าตอนนี้ทุกอย่างมันกระจายไปทั่วโลก
ในการทำแบรนด์คุณเคยพบเจอกับอุปสรรคอะไรบ้าง และคุณผ่านมันมาได้อย่างไรจนประสบความสำเร็จ
จริงๆแล้วเราเจอปัญหาในทุกๆวันในการทำงาน บางคนอาจจะมองมันเป็นอุปสรรค แต่สำหรับผมแล้วมันคือโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลง
เราอยากถามว่าในความคิดของคุณวัยรุ่นในยุคของคุณ กับยุคปัจจุบันนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร
ผมไม่เคยเอามาเปรียบเทียบกันนะ ทุกยุคทุกช่วงมันมีความน่าสนใจแตกต่างกันไป ผมค่อนข้างจะสนใจแค่อนาคตเท่านั้น ถึงผมจะอายุ 150 ปีผมก็จะสนใจแค่อนาคตข้างหน้า
มีแบรนด์อะไรบ้างที่คุณชื่นชอบเป็นการส่วนตัว
ผมชอบ RRL และก็ Ralp Lauren แต่ส่วนใหญ่ที่มีเยอะที่สุดก็คงเป็นแบรนด์ PRPS เพราะมันเข้ากับสไตล์ของผม ผมชอบอะไรที่มันคลาสสิคและไม่มีวันสิ้นสุด
คุณคิดว่าสไตล์แฟชั่นของคนไทยแตกต่างจากประเทศอื่นๆอย่างไรบ้างในความคิดของคุณ
แน่นอนครับผมชอบแฟชั่นที่นี้มากและผมคิดว่ามันยอดเยี่ยม ทุกครั้งที่ผมมาเมืองไทยจะได้อะไรกลับไปเยอะ และส่วนใหญ่ที่มาที่เมืองไทยผมจะศึกษาเรื่องเสื้อผ้าบางๆ เพราะประเทศไทยเป็นเมืองร้อน
แผนงานในอนาคตของแบรนด์ American Rag Cie จะเป็นอย่างไรบ้าง
เราคิดจะเปิดร้านเพิ่มในประเทศไทยอยู่แล้ว และเราก็ยังจะทำ Shop in Shop และก็จะทำ Online Store และผมคิดที่จะทำคอลแลคชั่นสำหรับคนไทยโดยเฉพาะด้วยครับ
คุณมีโปรเจคท์อะไรที่น่าสนใจกำลังจะเริ่มทำต่อไปจากนี้บ้าง
ในช่วงนี้ผมก็เดินทางบ่อยมาก และยังคงต้องทำอะไรอีกหลายๆอย่าง ในตอนนี้ผมเลยยังบอกไม่ได้ว่าจะมีเมื่อไร แต่รับรองว่ามันต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคุณคิดว่า American Rag ได้มีการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
แน่นอนครับเพราะทุกอย่างมันคือขั้นตอน ทุกวันคือการพัฒนาและก็จะมีต่อไปเรื่อยๆ อดีตทำให้เรามีวันนี้ได้ ผมมักจะพูดเสมอว่าถ้าเราหลงรักการทำงานของเราแล้ว เราก็จะไม่ต้องไปห่วงเรื่องของเป้าหมายเพราะขั้นตอนการทำงานทุกอย่างก็จะกลายเป็นเป้าหมายของเราไปเอง
คุณอยากฝากอะไรถึงคนที่อ่านอยู่บทสัมภาษณ์นี้บ้าง รวมไปถึงคนที่เป็นแฟนของร้าน American Rag Cie ด้วย
ยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยครับ เราจะพยายามทำและค้นหาสิ่งที่ดีที่สุด ทำอะไรที่แปลกใหม่น่าสนใจอยู่ตลอดเวลา และให้คุณได้เข้าถึงวัฒนธรรมใหม่ๆ ซึ่งคุณจะต้องรู้สึกดีและประทับใจอย่างแน่นอน
อเมริกัน แรค ชั้น 1 กรูฟแอทเซ็นทรัล เวิลด์
American Rag Cie : 1st Floor, Groove at CentralWorld
Tel : 02-251-6880
Instragram: americanrag_bkk
