ไปทำความรู้จักกับไนกี้ แอร์แม็กซ์ ซีโร่ (Nike Air Max Zero) กันให้มากขึ้น

ตอนนี้คงไม่เกินเลยที่จะบอกว่า Nike Air Max Zero ที่กำลังจะวางจำหน่ายในวัน Air Max Day 26 มีนาคมนี้ นั้นมาแรงสุดๆเลย ซึ่งเราอาจจะคิดว่ามันคือรองเท้ารุ่นใหม่ที่พึ่งคิดค้นหรือเปล่า แต่ความจริงแล้วรองเท้า Air Max Zero ถูกคิดค้นมานานแล้ว มันคือรองเท้ารุ่นต้นกำเนิดของ แอร์แม็กซ์เลยก็ว่าได้ ซึ่งระยะเวลาก็ล่วงเลยมาหลายปี ตั้งแต่วันแรกที่เจ้ารองเท้ารุ่นยอดนิยมนี้ได้ถูกคิดค้น จนกระทั่งตอนนี้วันที่สาวกแอร์แม็กซ์ทั้งหลายจะได้ครอบครอง ในคอนเทนต์นี้เราจึงอยากพาเพื่อนๆไปรู้จักกับเจ้ารองเท้า Nike Air Max Zero กันให้มากขึ้น

ต้องย้อนไปถึง 29 ที่แล้ว จากจุดเริ่มต้นที่ของ ทิงเกอร์ แฮทฟิลด์ (Tinker Hatfield) นักออกแบบรองเท้าระดับตำนานของ ไนกี้ เล่าให้ฟังถึงภาพร่างของอากาศที่มองเห็นได้ (Visible Air) ชิ้นแรกๆ ของเขา ณ ตอนนั้นไนกี้แอร์ได้เปิดตัวไปแล้วและประสบความสำเร็จอย่างสูงในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการวิ่ง แต่แฮทฟิลด์คิดว่าแค่นั้นยังไม่พอ เรื่องของอากาศที่อยู่ใต้เท้าน่าจะต้องมีการขยายความให้เกรียวกราวยิ่งขึ้นอีก  ตอนนั้นไนกี้กำลังพัฒนาแอร์-โซลเหล่านี้ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีก และคิดว่าน่าจะต้องให้ใครๆ ได้เห็นมันและเข้าใจว่ามันคืออะไร ซึ่งที่นั่นเขาเยี่ยมชมศูนย์ศิลปวัฒนธรรมปงปีดูว์ (Centre Pompidou) และเกิดแรงบันดาลใจจากการออกแบบตัวอาคารที่โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยการตลบเอาสิ่งที่ควรอยู่ข้างในออกมาไว้ข้างนอก เมื่อกลับถึงโอเรกอนเขาเริ่มลงมือออกแบบ และนำแนวคิดอากาศที่มองเห็นได้ ออกมาโลดแล่นอย่างมีชีวิตในร่างของรองเท้าวิ่ง ที่ปฏิวัติวงการนี่คือเรื่องราวที่คนส่วนใหญ่รับรู้ แต่เรื่องราวทั้งหมดไม่ได้มีอยู่แค่นั้น การออกแบบ ไนกี้ แอร์แม็กซ์ 1 ไม่ได้เสร็จสิ้นในคราวเดียว ที่จริงแล้วมันเป็นผลจากภาพร่างหลากหลายแบบ โดยหนึ่งในแบบแรกๆ ที่สุดก็คือแนวคิดของ แอร์แม็กซ์ ซีโร่ นั่นเอง ซึ่งในการทำแบบร่างนี้แฮทฟิลด์ยังไม่ทราบในทีแรกว่าเขากำลังใช้แนวทางการออกแบบที่ทำให้ต้องรออีกนานหลายปีจึงจะทำให้เป็นจริงได้

 แฮทฟิลด์ย้อนความนึกคิดให้ฟังหน้ารองเท้าได้รับการออกแบบเพื่อความสบายและกระชับเข้ารูปเท้าด้วยหน้ารองเท้าส่วนบนที่ไม่มีส่วนหัวรองเท้า ซึ่งเป็นแนวคิดที่หยิบยืมมาจาก ไนกี้ ซ็อคเรเซอร์ (Nike Sock Racer) จากปี 1985 นอกจากนี้ภาพร่างนี้ยังแสดงให้เห็นแถบรัดส้น (Heel Strap) ที่ด้านนอกและไม่มีเบ้าส้น ซึ่งเป็นแนวคิดการออกแบบที่ไม่ปรากฏตัวเป็นรูปธรรมให้ใครได้เห็นจนกระทั่ง มีการเปิดตัว ไนกี้แอร์ ฮัวราชี (Nike Air Huarache) ในปี 1991“มันคือต้นตระกูลของฮัวราชี เป็นวิธีการออกแบบรองเท้าแตะแบบสายรัด ให้โอบรอบส้นเท้าของคุณที่บริเวณเหนือกระดูกส้นเท้า ที่ด้านนอกและไม่มีเบ้าส้น ซึ่งเป็นแนวคิดการออกแบบที่ไม่ปรากฏตัวเป็นรูปธรรมให้ใครได้เห็น จนกระทั่งมีการเปิดตัว ไนกี้แอร์ ฮัวราชี (Nike Air Huarache) ในปี 1991 มันคือต้นตระกูลของฮัวราชี เป็นวิธีการออกแบบรองเท้าแตะแบบสายรัดให้โอบรอบส้นเท้าของคุณ ที่บริเวณเหนือกระดูกส้นเท้า ทั้งหมดนี้สรุปได้เพียงสั้นๆ ว่า แฮทฟิลด์ได้ออกแบบรองเท้าที่ก้าวล้ำสมัยจนไม่สามารถผลิตขึ้นได้ในยุคนั้น ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องรูปลักษณ์ของมันเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของโครงสร้างในแบบที่ต้องใช้ เทคโนโลยีและวัสดุที่มีอยู่ ณ เวลานั้นยังไม่ก้าวหน้าพอที่จะสร้างรองเท้าแบบแรกเริ่มรุ่นนี้ขึ้นมา เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความจริง แฮทฟิลด์จึงต้องตีความการออกแบบของเขาเสียใหม่ ซึ่งนำไปสู่การสร้างสรรค์ ไนกี้ แอร์แม็กซ์ 1 ที่ลุยเดี่ยวเปิดฉากปฏิวัติวงการรองเท้าวิ่ง และในเวลาต่อมาไม่นาน อากาศที่มองเห็นได้ก็ขยายความนิยมจากวงการวิ่งไปสู่กีฬาบาสเกตบอล กระทั่งตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ไนกี้ แอร์แม็กซ์ ยังได้ทวีความนิยมยิ่งขึ้น ข้ามพรมแดนจากต้นกำเนิดในวงการวิ่งจนกลายเป็นรองเท้าไลฟ์สไตล์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่ว แอร์แม็กซ์ ซีโร่ ที่กลายเป็นเพียงสิ่งอ้างอิงเล็กๆ อยู่ในปรากฏการณ์แอร์แม็กซ์

แต่ว่านั่นกำลังจะเปลี่ยนไปหลังจากการเยือนแผนกคลังผลงานในอดีตของไนกี้ (Department of Nike Archives) ครั้งหนึ่ง ที่ซึ่งภาพร่างนั่นถูกเก็บรักษาไว้เหมือนโลกลืมมายาวนานถึง 29 ปี ในระหว่างที่กำลังค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ เพื่อการเฉลิมฉลองแอร์แม็กซ์เดย์ (Air Max Day) ประจำปีครั้งที่สองบันดาลใจใหม่ๆ เพื่อการเฉลิมฉลองแอร์แม็กซ์เดย์ (Air Max Day) ประจำปีครั้งที่สองซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ทีมออกแบบของ ไนกี้ สปอร์ตแวร์ ได้พบกับภาพร่างที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งของ แอร์แม็กซ์ ซีโร่ และผู้ที่ได้รับหน้าที่ชุบชีวิตแอร์แม็กซ์ ซีโร่ให้มีชีวิตอีกครั้งนั้นคือ กรีม แม็คมิลแลน นักออกแบบของไนกี้ ซึ่งตอนนี้ความรับผิดชอบตกมาอยู่ที่เขาแล้ว ที่จะต้องนำภาพร่างของแฮทฟิลด์ซึ่งได้รับการเก็บรักษาไว้นั้นมาตีความใหม่และชุบชีวิตให้กับมัน โดยยังต้องคงความดั้งเดิมในแบบฉบับของแอร์แม็กซ์ ซีโร่ แต่ยังต้องเติมองค์ประกอบที่เป็นนวัตกรรมเข้าไป ด้วยการสร้างสรรค์รองเท้าในแบบที่ไม่อาจเกิดขึ้นจริงได้เมื่อปี 1987

แม็คมิลแลนจึงเติมความก้าวล้ำด้วยการบรรจุนวัตกรรมล่าสุดของไนกี้เข้าไป โดยประกอบไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ พื้นรองเท้าชั้นนอก แอร์แม็กซ์ 1 อัลตร้า (Air Max 1 Ultra) ที่เพิ่งเปิดตัวในรองเท้ารุ่น แอร์แม็กซ์ 1 อัลตร้ามัวร์ (Air Max 1 Ultra Moire) ซึ่งมีโครงสร้างไฟลอน (Phylon) คว้านร่อง ), หน้ารองเท้าแบบเชื่อมติดกัน (Fused Upper) ที่ช่วยลดความหนาโดยที่ไม่สูญเสียคุณสมบัติในการประคองเท้า, และวัสดุตาข่ายซึ่งเป็นด้ายเส้นใยยาวชนิดเส้นเดี่ยว (Monofilament Yarn) ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างหัวรองเท้าพิเศษโดยที่ไม่สูญเสียคุณสมบัติในการระบายอากาศไป ทั้งหมดนี้ทำให้แนวคิดแรกเริ่มของแฮทฟิลด์เป็นจริงขึ้น แนวคิดที่เกิดขึ้นก่อนการมาถึงของ แอร์แม็กซ์ 1

Cr.Nike Thailand

Share:
On Key

Related Posts

WATCHA GONNA ดู

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอม ให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save