S4SEATS : พาไปชิมของอร่อย “ร้านอาหารชลบุรี ซีฟู้ด มาร์เก็ต”

ห่างหายกันไปเกือบเดือน พวกเรามัวแต่ไปหาร้านอาหารที่น่าสนใจ มาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ซึ่งครั้งนี้ใครที่ชื่นชอบอาหารซีฟู้ด บอกเลยไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะวันนี้เราจะพาไปรู้จักร้านอาหารซีฟู้ดที่เป็นมากกว่าร้านอาหารซีฟู้ด อ่าพูดแบบนี้อาจจะงงกันว่ามันจะไปมีอะไรมากมาย เราต้องขอบอกเลยว่าร้านที่เราจะพาไปรู้จักกันวันนี้นั้น ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ใช่ครับอ่านไม่ผิดเลยครับ 2 ไร่นี่คือพื้นที่ทั้งหมดของร้านนี้ แถมเจ้าของร้านยังการันตีด้วยว่า “ร้านเราเป็นมากกว่าอาหารสดจากทะเล เรายกความเป็นทะเลมาไว้ในกรุงเทพฯ ไม่ต้องไปไกลถึงต่างจังหวัดในราคาที่คุณจับต้องได้” เกริ่นมาขนาดนี้ไปติดตามกันดีกว่าครับกับ “ร้านอาหารชลบุรี ซีฟู้ด มาร์เก็ต”

ต้องขอบอกก่อนเลยทันทีที่เราได้ไปถึง ร้านอาหารชลบุรี ซีฟู้ด มาร์เก็ต เราตกใจกับความใหญ่โตของร้านอาหารแห่งนี้มากทีเดียว ทำให้เราอยากเข้าไปสัมภาษณ์ถึงความเป็นมาของร้าน และที่ไปที่มาว่าทำไมร้านมันช่างใหญ่โตเช่นนี้ เราได้พูดคุยและสัมภาษณ์ คุณแสง เจริญจิตร ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารแห่งนี้ ถึงที่ไปที่มาของชื่อร้านและคอนเซ็ปของทางร้านว่าทำไมต้องเป็นชลบุรี ซีฟู๊ด ซึ่งคุณแสงก็ได้บอกกับเราว่า เดิมทีเขาเป็นคนศรีราชา จังหวัดชลบุรี เรียกได้ว่าทั้งชีวิตคลุกคลีและผูกพันธ์กับอาหารทะเลมาทั้งชีวิต ด้วยคอนเสปอยากให้คนกรุงเทพฯที่ชอบอาหารซีฟู๊ด ได้กินของดีสดๆเป็นๆแต่ไม่ต้องขับรถไปไกลถึงต่างจังหวัด เรียกได้ว่ายกความเป็นชลบุรีมาไว้ในกรุงเทพฯกันเลย ที่สำคัญราคาต้องจับต้องได้และไม่แพงจนเกินไป และทางร้านยังได้แบ่งโซนเป็นแบบคล้ายๆกับตลาดอาหารซีฟู๊ดไว้ภายในร้านอีกด้วย สำหรับลูกค้าที่ต้องการมาซื้ออาหารทะเลกลับไปทำทานเองที่บ้าน ซึ่งคุณแสงบอกกับเราด้วยว่าร้านเขานั่นไม่ใช่แค่อาหารสด แต่บริการอาหารแบบเป็นๆ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา กั้ง  จับมาจากทะเลลำเลียงกันมาไว้ที่ร้านกันเรยทีเดียว ส่วนทำไมพื้นที่ของทางร้านถึงใหญ่โตขนาดนี้ สาเหตุเพราะว่าเราจะมีทั้งโซนของฝากจากชายฝั่งทะเลที่กำลังจะเปิดเป็นทางการในอนาคตด้วย ทางด้านหลังเราก็มีโรงงานทำลูกชิ้นปลาที่เรียกได้ว่าเป็นอาหารซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ใครมาต้องสั่ง และโซนจัดเลี้ยงทั้งห้อง VIP หลายขนาดพร้อมคาราโอเกะ เรียกได้ว่ามาทีนี่ครบครันจริงๆ

คุยถึงประวัติที่มาที่มากันแล้วคราวนี้ขอแนะนำอาหารกันบ้าง ต้องบอกก่อนว่าเชฟของร้านนี้มีประสบการณ์การทำอาหารมากว่า 40 ปี ซึ่งอาหารของทางร้านนั้นราคาส่วนมากจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของวัตถุดิบที่เราเลือกอย่าง กุ้ง หอย ปู ปลา ส่วนอาหารซิกเนเจอร์อย่างแรกของทางร้านเลย แบบที่ต้องคนมาต้องลิ้มลองเลยก็คือลูกชิ้นปลาจิ้มลวก (220บาท) ที่ทำจากเนื้อปลากล้วยล้วนๆผลิตกันสดๆทุกวัน เวลารับประทานแล้วรู้สึกถึงความเหนียว นุ่ม ลูกใหญ่มาก (ขอบอกว่าแต่ละลูกบนจานทำจากมือล้วนๆ) ผมขอแนะนำว่าขอให้ชิมแบบไม่ต้องราดน้ำจิ้มก่อน ให้รู้รสปลาอย่างแท้จริง ส่วนน้ำจิ้มก็รสเด็ดไม่แพ้ลูกชิ้น ถูกใจคอซีฟู้ดแน่นอน ส่วนซิกเนเจอร์อีกจานที่ขอแนะนำคือ ปูจ๊อ(250บาท) ที่ทำจากเนื้อกรรเชียงปูแน่นๆ เวลาแบ่งครึ่งเราจะเห็นเนื้อปูกันแบบชัดเจนเลยทีเดียว มาพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษของทางร้าน ที่เวลาเข้าปากแล้วจะหวานแต่พอสักพักจะรับรู้ได้ว่ามันเปรี้ยวนิดๆกลมกล่อมอยู่ในปาก (ขณะที่นั่งพิมพ์คอนเท้นอยู่ในใจก็อยากกลับไปชิมอีกสักจานสองจาน)

คราวนี้มาถึงเมนูจานหลักที่จะขอแนะนำกันบ้างเริ่มจากจานแรกกันเลยเมนู กุ้งล็อบสเตอร์ผัดซอสXO (ราคาตามน้ำหนัก) กุ้งตัวใหญ่ๆผัดกับซอสXOอันโด่งดัง คลุกเคล้าด้วยส่วนผสมและวัตถุดิบแบบเฉพาะของทางร้าน ทันทีที่เข้าปากก็รับรู้ได้ถึงความนุ่มและสดของกุ้งล็อบสเตอร์ รสชาติกล่มกล่อมได้อารณ์หวานมัน รับรองไม่ผิดหวัง เมนูต่อไปขอแนะนำ ปูผัดซอสเต้าซี่ (ราคาตามน้ำหนัก) นำปูสดๆผัดกับซอสเต้าซี่จากฮ่องกง เพิ่มความน่ากินด้วยพริกหวาน 3 สี ใส่เหล้าจีนลงไปคลุกเคล้า ดูจากหน้าหน้าตาอาจจะเหมือนเผ็ด แต่จริงๆแล้วไม่เผ็ด รสชาติกลมกล่อมออกสไตล์อาหารจีนนิดๆ มาถึงอีกเมนูเอาใจคนชอบกินรสจัดกันซะหน่อยกับเมนู ปลาดุกทะเลผัดฉ่า (ราคาตามน้ำหนัก) อร่อยจัดจ้านในสไตล์แบบไทย ที่เน้นทั้งเครื่องปรุงและวัตถุดิบที่ใครได้ชิมแล้วจะต้องติดใจ ยิ่งทานกับพริกไทยอ่อน บอกเลยจัดจ้านถึงใจ มาถึงเมนูต้มๆกันบ้าง ขอเสนอ ต้มส้มปลากระบอก (ราคาตามน้ำหนัก) ใช้ปลากระบอกจากอันดามันมาต้มส้มแบบไทยๆ รสชาติจะออกเปรี้ยวหวาน แต่ไม่เผ็ด เนื้อปลาชิ้นใหญ่ๆแบบนุ่มเต็มปาก ให้ความรู้สึกชุ่มคอดีเวลาซดน้ำ เป็นอีกหนึ่งจานที่ควรสั่ง ส่วนใครที่ชอบของหวานที่นี่ก็มีให้เลือกกันหลายเมนูทั้ง ลูกตาลลอยแก้ว สตรอเบอรี่ลอยแก้ว บัวลอยน้ำขิง บัวลอยเผือกมะพร้ามอ่อน ส่วนใครที่ชอบทานไอศครีมทางร้านก็มีไอศครีมจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ อย่าง Mövenpick Ice Cream ไว้ให้สั่งทานกันอีกด้วย

สำหรับใครที่ชอบซีฟู้ดถ้ามีโอกาสผมอยากขอแนะนำให้ไปลิ้มลองกัน ถึงแม้ว่าร้านจะเปิดมาแค่เพียง 2 เดือน แต่บอกเลยคุณภาพล้นแก้วจริงๆ ไม่ต้องเปลืองค่าน้ำมันไปไกลถึงต่างจังหวัด แถมราคาที่สามารถจับต้องได้ ใครที่ผ่านๆไปแถวถนนวิภาวดีรังสิตอย่าลืมแวะกันไปได้ ร้านตั้งอยู่ที่ ซอยวิภาวดี 65 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปประมาณ 80 เมตร สังเกตง่ายมากตั้งอยู่ตรงข้ามกับ เซเว่นอีเลเว่น ในวันหยุด วันพักผ่อน เสาร์-อาทิตย์ อย่าลืมพาครอบครัวหรือคนที่คุณรัก แวะไปรับประทานกันได้รับรองไม่ผิดหวัง

ตั้งอยู่ที่

185 ซ.วิภาวดี 62 (ศรีรับสุข) แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. 10210

โทร 02-551-4025 เปิดบริการทุกวัน 11.00 น. –  23.00 น.

Photographer : Krirakrit Worawetkulsage