[S4S]10 Months with Levi’s® Made & Crafted Pt.6
หลายๆคนที่มีความสนใจในการใส่กางเกงยีนส์ผ้าดิบเพื่อให้เกิดรอยเฟดจะทราบว่าวิธีการทำความสะอาดกางเกงยีนส์นั้นมีอยู่ด้วยกันหลักๆ 2 วิธี นั่นคือการแช่ และการซัก ซึ่งทั้งสองวิธีนี้จะให้ผลที่แตกต่างกันออกไป สำหรับ 10 Months with Levi's® Made & Crafted ในตอนที่ 6 นี้ ผมจะมาชวนคุยเรื่องการแช่กางเกงยีนส์กันก่อน ส่วนเรื่องการซักนั้นเอาไว้ในตอนหลังๆค่อยมาว่ากันอีกที
โดยทั่วไปแล้วกางเกงยีนส์นั้นจะแบ่งได้อยู่สองลำดับใหญ่ๆนั่นคือ การแช่ก่อนใส่สำหรับกางเกงยีนส์ที่เป็นผ้า Un-sanforized เพื่อให้กางเกงหดตัวเต็มที่ก่อนจะนำมาใส่ และการแช่หลังใส่ไปซักพักแล้วที่สามารถทำได้กับกางเกงยีนส์ทุกสไตล์ แต่ในบทความนี้ผมจะขอพูดถึงเฉพาะการแช่หลังใส่เพื่อการทำความสะอาดเท่านั้น
ก่อนจะเข้าเรื่องวิธีการแช่กางเกงอยากจะขอเขียนถึงข้อแตกต่างระหว่างการแช่ และการซักก่อน โดยถึงแม้ว่าผลที่เกิดขึ้นจากทั้ง 2 วิธี จะทำให้ตัวกางเกงสะอาดขึ้น และร่องรอยเฟดต่างๆที่ถูกบดบังอยู่ปรากฏชัดขึ้นมาเนื่องจากความสกปรกจางหายไปแล้วเหมือนกัน แต่สิ่งที่ต่างกันซึ่งถือเป็นข้อด้อยของการแช่ก็คือ จะทำให้กางเกงสะอาดขึ้นได้น้อยกว่าการซัก เนื่องจากเราจะไม่ได้ใส่ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้า รวมถึงไม่ได้มีการขยี้ด้วยมือ หรือปั่นโดยใช้เครื่องซักผ้าให้ความสกปรกหลุดออกไป ทำให้คราบและสิ่งสกปรกต่างๆยังคงมีหลงเหลืออยู่ ผลที่ตามมาก็คือ นอกจากกางเกงจะไม่ได้สะอาดเต็มที่แล้ว กลิ่นไม่พึงประสงค์บนตัวกางเกงนั้นจะจางหายไปเพียงไม่นาน อาจจะแค่ 1-2 เดือนก็กลับมาอีกครั้ง ส่วนข้อแตกต่างอีกอย่างแต่ถือเป็นข้อดีก็คือด้วยความที่กางเกงสัมผัสเพียงแค่น้ำซึ่งไม่มีสารเคมีรวมไปถึงเนื้อผ้าไม่ได้ถูกขยี้ ทำให้สีอินดิโก้ที่อยู่บนตัวกางเกงหลุดออกไปน้อยมาก สามารถใส่ปั้นต่อไปได้อีกสบายๆ
เรื่องของวิธีการแช่นั้นก็สามารถแบ่งแยกย่อยไปได้อีกหลักๆ 2 แบบนั่นคือ แช่น้ำเปล่า กับแช่น้ำทะเล ในส่วนของการแช่น้ำทะเล(Sea Soak) นั้นมีที่มาจากความเชื่อที่ว่า เกลือมีคุณสมบัติทำให้สีบนเนื้อผ้าติดคงทน ทำให้หลายๆคนเลือกที่จะแช่กางเกงด้วยวิธีนี้ เนื่องจากอยากให้สีอินดิโก้ยังคงอยู่บนเนื้อผ้าเยอะๆ สำหรับการแช่ด้วยวิธีนี้ส่วนตัวยังไม่เคยทำเหมือนกัน เพราะไม่คิดว่าจะต่างกันกับการแช่น้ำเปล่ามากนัก วิธีการแช่น้ำทะเลนั้นสามารถทำได้โดยการสวมใส่กางเกงยีนส์ลงไปเล่นในทะเลเลย จะแค่เล่นน้ำหรือว่ายน้ำเลยก็ได้ ซึ่งวิธีการแช่แบบนี้นอกจากจะได้แช่กางเกงแล้วก็ยังถือว่าเป็นกิจกรรมที่สนุกอีกอย่างหนึ่งของคนที่ชอบใส่กางเกงยีนส์ผ้าดิบด้วยครับ(ถ้าเป็นไปได้ก็เลือกแช่แถวชายหาดที่สะอาดๆหน่อยก็จะยิ่งดี)
หลังจากที่ลงไปแช่แล้วนั้นก็อาจจะเอาทรายบริเวณชายหาดถูกางเกงเล็กน้อยช่วยไล่ความสกปรกนอกเหนือไปจากการเอามือลูบไปบนตัวกางเกง แนะนำว่าให้ทำสลับกับการลงไปเล่นน้ำเรื่อยๆซัก 2-3 รอบ
ขั้นตอนสุดท้ายก็ให้นำกางเกงไปล้างน้ำเปล่าให้สะอาด ล้างออกให้หมดทั้งทราย และน้ำทะเล ก่อนจะนำไปตากให้แห้ง(ตรงนี้สำคัญมากเนื่องจากหากล้างไม่หมดและมีน้ำเกลือหลงเหลืออยู่อาจจะทำให้เกิดคราบเกลือขึ้นในภายหลังได้ ซึ่งกลายเป็นว่าต้องมาทำการแช่น้ำอีกรอบเลย)
คราบขี้เกลือที่ขึ้นบนตัวกางเกง
ส่วนวิธีการแช่ด้วยน้ำเปล่านั้นก็ไม่มีขั้นตอนอะไรซับซ้อนมากครับ โดยให้ติดกระดุมกางเกงยีนส์ให้ครบ และนำลงไปแช่ในกะละมัง หรืออ่างอาบน้ำที่ใส่น้ำไว้ ไม่จำเป็นต้องเป็นน้ำร้อน จากนั้นแช่ทิ้งไว้ซักพัก ส่วนตัวผมแช่แค่ 15 นาที จากนั้นให้เอามือแค่บีบๆขยำๆ(ไม่ต้องขยี้) เพื่อไล่ความสกปรก แล้วตากแดดให้แห้ง
สำหรับวิธีการนี้ใครที่ไม่อยากจะแช่เฉพาะตัวกางเกงในอ่าง(กรณีที่กลัวว่าหลังจากหดแล้วกางเกงจะเล็กเกินจนใส่ไม่ได้)ก็สามารถใส่กางเกงแล้วลงไปแช่ในอ่าง หรือยืนใต้ฝักบัวแล้วเอามือลูบๆไล่ความสกปรกเอาก็ได้
การแช่ยีนส์ในอ่างล้างมือ
การแช่ยีนส์ในอ่างอาบน้ำ
สำหรับใครที่ต้องการให้กลิ่นของกางเกงดีขึ้นเยอะๆหน่อย อาจจะใส่น้ำยาซักผ้าลงไปเจือจางในน้ำเล็กน้อยครับ(ไม่ต้องเยอะเพราะจุดประสงค์หลักไม่ได้เน้นไปที่การทำความสะอาด แต่เอาแค่กลิ่นเท่านั้น)
การใส่กางเกงยีนส์ใหม่เป็นระยะเวลายาวๆติดต่อกันหลายๆเดือนแล้วค่อยซักทีเดียวนั้น มีโอกาสที่จะได้รอยเฟดบนตัวกางเกงที่คม คือเป็นเส้นเล็กและขาวตัดกับตัวกางเกงอย่างเด่นชัด ซึ่งบางคนก็อาจจะชอบรอยเฟดสไตล์นี้ แต่กับบางคนที่ชอบรอยเฟดเลือนๆไล่สีสไตล์กางเกงยีนส์วินเทจ ก็อาจจะใช้เรื่องการแช่น้ำมาช่วยได้ครับ คือแทนที่เราจะใส่กางเกงยาวๆแล้วซักทีเดียว เราอาจจะทำการแช่น้ำซักครั้งนึง และใส่ต่อไปหลายๆเดือนก่อนที่จะทำการซักครั้งแรกจะทำให้เราได้รอยเฟดของกางเกงแบบเลือนๆไล่สีครับ
รอยเฟดเลือนๆสไตล์ยีนส์วินเทจ
จริงๆแล้วตั้งแต่ก่อนเริ่มทำโปรเจ็คผมตั้งใจไว้ว่าจะแช่กางเกง Levi's®Made & Crafted “Tack Slim” ตัวนี้เมื่อถึงเวลาเขียนบทความตอนที่ 6(ใส่มาประมาณ 5 เดือน) ซึ่งจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแช่น้ำพอดี แต่หลังจากพบว่ากางเกงตัวนี้มันเฟดได้ช้ากว่าที่คิดไว้ ก็เลยอาจจะเลื่อนไปแช่ในเดือนหน้าแทน
สำหรับในเดือนนี้ขอสลับมาปิดท้ายด้วยรูป Fit Pics บ้างดีกว่าแล้วเดี๋ยวเดือนหน้าจะมาอัพเดตความก้าวหน้าของตัวกางเกงกันใหม่ อย่างที่ผมเคยเขียนไว้ในบทตวามตอนแรกๆว่ากางเกงทรง “Tack Slim” ตัวนื้ถือว่าเป็นกางเกงที่ออกแบบทรงมาได้ดีทีเดียว คือสามารถใส่แต่งตัวได้หลายสไตล์ เหมาะกับชีวิตประจำวันผมที่บางวันอาจจะต้องแต่งตัวเรียบร้อยหน่อยเพื่อเข้าประชุม หรือแต่งตัวง่ายๆไปเที่ยวก็ได้ทั้งนั้น กางเกงตัวนี้ใส่มาได้ประมาณเกือบ 5 เดือนแล้ว ซึ่งเรื่องทรงถือว่านิ่งแล้วเอวคงขยายเต็มที่แล้ว ถือว่าผมชอบทรงของกางเกงตัวนี้มากครับ
ในเดือนหน้าผมยังมีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับกางเกงยีนส์จะมาเล่าให้ฟังอีก ซึ่งหลายๆคนอาจจะเคยเจอเมื่อใส่กางเกงยีนส์ตัวเก่งซ้ำไปมาเป็นระยะเวลานานๆ ในมุมนึงอาจจะมองว่ามันเป็นปัญหาแต่จริงๆแล้วเราสามารถเปลี่ยนมันให้เป็นข้อดีได้เหมือนกัน เอาไว้พบกันใหม่ครับ 🙂