ช่วงหลังมานี้แบรนด์ยีนส์ชื่อดังอย่าง Lee ได้มีโปรเจ็ค Collaboration ที่น่าสนใจออกมาอย่างต่อเนื่อง ย้อนไปเดือนก่อน Lee ได้ออก Collection พิเศษ M125 Limited Edition ซึ่งทาง Lee ได้ร่วมกันออกแบบกับ Mario Maurer นักแสดงชื่อดังและนักสะสมยีนส์วินเทจตัวยง มาคราวนี้ Lee กลับมาพร้อมโปรเจ็คที่น่าสนใจไม่แพ้กันกับCapsule Collection ที่ชื่อว่า Lee by Nigo
Nigo
หากพูดถึง Nigo ใครที่ติดตามวงการ Street Fashion มาตลอด น่าจะพอคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้ว หรือไม่ก็น่าจะต้องเคยได้ยิน หรือเคยเห็นโลโก้รูปลิงอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ A Bathing Ape หรือ Bape ผ่านตากันมาบ้างแน่นอน สำหรับ Nigo เองนั้นแม้จะมีหลากหลายบทบาททั้งในด้านแฟชั่น และดนตรี แต่หลายๆคนน่าจะรู้จักเค้าในฐานะผู้ก่อตั้งแบรนด์สตรีทชื่อดังอย่าง Bape ในปี 1993 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยหลังจากนั้นเค้าสามารถพาแบรนด์นี้ไปได้ไกลจนมีสาขาอยู่ตามเมืองใหญ่ๆทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น London ,New York , Paris หรือ Shanghai เลยทีเดียว
BAPE
สิ่งที่ทำให้ Nigo มีความโดดเด่นในวงการ Street Fashion นั้นมาจากการที่เค้ามีแนวทางในการออกแบบเสื้อผ้าที่ชัดเจน โดยสมัยที่เค้าทำเสื้อผ้าอย่าง Bape นั้นก็มีทั้งการใช้สี และลวดลายที่มีความเฉพาะตัวและถือว่านำสมัยในช่วงเวลานั้น เช่น ลาย Bape Camo ซึ่งถือว่าเป็นภาพที่ผู้คนจดจำแบรนด์มาจนถึงทุกวันนี้ ในขณะที่เมื่อเค้าผันตัวมาทำเสื้อผ้าแนว Vintage ภายใต้แบรนด์ Human Made ที่เลือกผสมผสานระหว่างเสื้อผ้าในแนว Vintage เข้ากับดนตรีในยุคก่อนก็สามารถทำออกมาได้ลงตัวและได้รับการยอมรับ
เสื้อผ้า Vintage ของ Human Made
ในปัจจุบันนั้น Nigo ได้รับโอกาสให้ร่วมงานกับแบรนด์ดังๆระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Mastermind ,G-Shock ,Converse หรือแม้แต่แบรนด์น้ำอัดลมชื่อดังอย่าง Coca-Cola แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนในวงการ Street Fashion หันมาสนใจมากที่สุดก็คือ เมื่อปีที่แล้วทาง Nigo ได้เข้าร่วมงานกับแบรนด์เสื้อผ้ายักษ์ใหญ่อย่าง Uniqlo ในฐานะ Creative Director สำหรับไลน์เสื้อยืดของทางแบรนด์
อย่างที่ทราบกันว่าช่วงหลังมานี้ Nigo ได้ผันตัวเองทำเสื้อผ้าในแนว Vintage ซะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นมันก็คงจะเหมาะสมมากทีเดียวกับการที่จะได้เข้ามาร่วมกันทำโปรเจ็คพิเศษกับแบรนด์ยีนส์ระดับตำนานอย่าง Lee โดยวันนี้ผมมีของสามชิ้นในโปรเจ็คนี้มาแนะนำกันครับ โดยขอเริ่มที่ชิ้นแรกก่อนเลย
Lee 131 Cowboy กางเกงยีนส์ทรงคลาสสิคจาก Lee ที่มีรายละเอียดครบถ้วนจากสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ด้ายสีแดงสด(เวอร์มิลเลียน) มาเย็บในส่วนของตะเข็บกางเกงแบบเดียวกับที่ใช้ในช่วงปี 1930 ในส่วนของด้ายที่นำมาใช้ทอเป็นผ้าเดนิมนั้นเป็น Cotton จากอเมริกา ด้ายตามยาว(Warp) เป็นสีน้ำเงินเข้ม ส่วนด้ายตามแนวนอน(Weft)เป็นสีเทา ซึ่งจะทำให้สีโดยรวมของกางเกงดูเข้ม และยังช่วยพรางให้เห็นร่องรอยของคราบต่างๆได้ยากขึ้นอีกด้วย ผ้าเดนิมนั้นทอแบบ Right Hand Twilled
ด้ายสีแดง(เวอร์มิลเลียน)ที่ใช้เย็บบริเวณตะเข็บของกางเกง
ด้ายแนวนอนเป็นสีเทา สังเกตได้จากสีผ้าด้านในกางเกง
รายละเอียดที่สำคัญๆบนตัวกางเกงนั้นก็จะมีกระดุมรอบเอวเพื่อไว้ติดสายรั้งกางเกง (Suspender) บริเวณเอวด้านหลังมีสายปรับระดับเอวกางเกง(Cinch)
กระดุมรอบขอบเอวสำหรับติดสาย Suspender
สาย Cinch บริเวณขอบเอวด้านหลัง
ส่วนที่ผมชอบอีกอย่างก็คือป้ายหนังอันเป็นเอกลักษณ์ของ Lee ที่เรียกว่า Hair on Hide โดยเป็นการปั๊มชื่อแบรนด์ลงไปบนป้ายที่เป็นหนังแท้จริงๆ(เป็นป้ายแบบได้ผิวสัมผัสของขนที่อยู่บนตัวป้ายด้วย)
ป้ายหนัง Hair on Hide
รายละเอียดที่เป็นการแสดงว่านี่เป็นการร่วมงานกับ Nigo นั้นก็อยู่ที่ป้ายหนังบริเวณกระเป๋าหลังด้านซ้ายเลยครับ โดยจะเป็นป้ายหนังปั๊มคำว่า By Nigo® ส่วนป้ายบอกรุ่นและไซส์บริเวณขอบเอวด้านขวาก็มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก
ป้ายหนังปั๊มคำว่า By Nigo®
ป้ายหนังบอกรุ่นและไซส์ของกางเกง
ทรงกางเกงของ Lee 131 Cowboy นั้นจะเป็นทรงกระบอกตรงที่น่าจะเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการแต่งตัวสไตล์วินเทจ เนื่องจากอย่างที่นำมาให้ชมกันจะเห็นได้ว่าดีเทลต่างๆบนตัวกางเกงนั้น ถอดแบบมาจากกางเกงยีนส์ในสมัยก่อนแทบจะทั้งหมดเลยทีเดียว
Lee 101 Cowboy กางเกงอีกรุ่นหนึ่งที่ถือว่าเป็นตำนานของ Lee โดยเป็นการผลิตใหม่และยึดรายละเอียดต่างๆให้ตรงตามแบบกางเกงรุ่นนี้ที่ออกวางจำหน่ายครั้งแรกในช่วงปี 1920 ผ้าเดนิมนั้นเป็นการทอแบบ Right Hand Twilled โดยด้ายที่นำมาใช้ทอนั้นเป็น Cotton 100% จากอเมริกา รวมไปถึงด้ายที่นำมาใช้เย็บกางเกงก็เป็นด้าย Cotton 100% เพื่อคงไว้ให้เหมือนต้นแบบมากที่สุด
จุดเด่นที่สุดของกางเกงรุ่นนี้นั้นคือซิบที่เป็นการใช้ซิบแบบคลาสสิคที่เรียกว่า The Hookless Zipper โดยจะเป็นซิบที่มีตัวล็อคอีกชั้นหนึ่ง รวมไปถึงกระดุมรูปตัว U เช่นเดียวกับกางเกงยีนส์ Lee ในสมัยก่อน
The Hookless Zipper ซิปที่มีความเป็นเอกลักษณ์
ในส่วนของงานเย็บนั้น ก็ยังเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนเหมือนสมัยก่อนเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการเดินด้ายตะเข็บกางเกงแบบ 3 เส้น
ตะเข็บข้างเดินด้าย 3 เส้น
ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆบนตัวกางเกงนั้นก็เป็นไปตามความนิยมของกางเกงยีนส์ในช่วงยุคสมัยนั้นที่ต้องมีสายปรับระดับบริเวณเอวด้านหลัง(Cinch) และกระดุมรอบขอบเอวเพื่อเอาไว้ติดสายรั้งกางเกง(Suspender) ความต่างของกางเกงรุ่นนี้กับ 131 Cowboy นั้นก็คือจะไม่ได้มีป้ายหนังที่มีคำว่า By Nigo® อยู่ที่กระเป๋าหลัง แต่จะเอาคำนี้ไปไว้ที่กระดุมของกางเกงแทน
สาย Cinch บริเวณขอบเอวด้านหลัง
กระดุมปั๊มคำว่า By Nigo®
ทรงกางเกงนั้นจะเป็นกางเกงทรงขาตรงที่เป้ายาวเล็กน้อย เป็นแนววินเทจเช่นเดียวกับรุ่น 131 Cowboy ทั้งสองรุ่นนี้มีดีเทลที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป โดยถ้าใครทีชอบยีนส์กระดุมรวมถึงดีเทลบนตัวกางเกงที่เยอะหน่อย เช่นป้ายหนังน่าจะชอบรุ่น 131 Cowboy ส่วนใครที่ชอบยีนส์ซิบและกางเกงที่ดูเรียบกว่าน่าจะเหมาะกับรุ่น 101 Cowboy ครับ
ทรงกางเกงของรุ่น 101 Cowboy
มาถึงของชิ้นสุดท้ายกันแล้วครับ สำหรับชิ้นนีไม่ใช่กางเกงยีนส์แต่เป็นเสื้อผ้าชิ้นคลาสสิคอีกชิ้นหนึ่งของ Lee เลย หลายๆคนที่ชื่นชอบในเสื้อผ้าแนววินเทจน่าจะเคยได้เห็นผ่านตากันมาแล้ว
WHIZIT เป็นชุดเอี๊ยมสุดคลาสสิคของ Lee ที่ออกวางจำหน่ายครั้งแรกตั้งแต่ช่วงปี 1920 โดยชื่อ WHIZIT นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากเสียงที่คล้ายคลึงกับคำว่า WHIZ ซึ่งเป็นเสียงของการรูดซิบขึ้นลงอย่างรวดเร็วนั่นเอง ผ้าที่นำมาใช้ตัดเย็บ WHIZIT นั้นก็เป็นผ้าที่ทาง Lee พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษเรียกว่า Jelt Denim โดยจะเป็นผ้า Denim 11 oz. ที่มีน้ำหนักเบาใส่สบาย แต่ยังคงความทนทานอยู่
ผ้า Jelt Denim และกระดุมทองเหลืองปั๊มคำว่า Lee
ในส่วนของซิบบนตัวเสื้อนั้นจะเป็น The Hookless Zipper เช่น เดียวกันกับกางเกงยีนส์ 101 Cowboy โดยจะมีลักษณะเป็นซิบรูปทรงระฆัง
The Hookless Zipper
ในส่วนของงานเย็บนั้นก็ใช้เป็นการเย็บแบบลูกโซ่ เดินตะเข็บ 3 เส้นตามต้นแบบ ซึ่งให้ความสวยงามและคงทนแข็งแรง กระดุมและขอเกี่ยวต่างๆทำจากทองเหลืองปั๊มโลโก้อย่างดี มีป้าย WHIZIT ตามแบบต้นฉบับ รวมถึงป้าย Lee By Nigo® บริเวณกระเป๋าด้านหลัง
เดินด้าย 3 เส้นบริเวณตะเข็บกางเกง
ชุด WHIZIT นั้นเราอาจจะไม่ได้เห็นคนใส่กันทั่วไปนัก แต่เป็นอีกไอเท็มหนึ่งที่เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการแต่งตัวสไตล์แต่งตัวที่ต้องการความแตกต่าง
เสื้อผ้าที่นำมาแนะนำกันทั้งหมดนี้จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม ที่ Lee shop สาขา CentralWorld โดยภายในวันนั้นจะมีการเปิดตัว Lee by nigo อย่างเป็นทางการ พบกันมินิคอนเสิร์ตจากวง R9 และกิจกรรม DIY พร้อมของที่ระลึก โดยผู้ไปร่วมงานที่ลงทะเบียนจะได้รับ Cash Voucher 1,000 บาทฟรี และหากซื้อสินค้าในวันนั้นจะได้รับ Lee tool bag ฟรีทันที
สำหรับเสื้อผ้าในโปรเจ็ค Lee by Nigo ที่เรานำมาแนะนำกันในครั้งนี้ น่าจะถูกใจใครหลายๆคน และถ้าอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ www.leejeansthailand.com <http://www.leejeansthailand.com> หรือแฟนเพจ leejeansthailand ครับ ถ้าในโอกาสต่อไปมีโปรเจ็คที่น่าสนใจจากทาง Lee แบบบนี้อีกรับรองว่าผมจะนำมาให้ชมกันอีกแน่ๆครับ 🙂