Soul4Street Interview : TAWAN WATTUYA นักวาดภาพโป๊สไตล์ contemporary

วันนี้ Soul4Street ได้มีโอกาสเดินทางไปสัมภาษณ์คุณ ตะวัน วัตุยา ศิลปินภาพสีน้ำแนว contemporary ถึงสตูโอแถวสาธร ตะวันเริ่มเข้ามาในซีน contemporary art ในเมืองไทยเมื่อช่วงปี 2000 ผลงานศิลปะของตะวันนั้นล้วนเป็นผลงานที่มีนัยยะอันเฉียบแหลมสิ้น ด้วยความพยายามที่จะวิพากษ์สังคมไทยที่ยึดติดกับวัฒนธรรมมากเกินไป

แรงบันดาลใจในการสร้างผลงานของเขานั้นล้วนเกิดขึ้นจากสิ่งที่เขาพบเห็นประจำวัน เขาให้ความสนใจกับคนธรรมดาทั่วไป กระทั่งวิเคราะห์ถึงสภาพเหตุการณ์ทางการเมือง เมื่อSoul4Street ได้มาเยือนถึงสตูโอวาดภาพของคุณตะวันแล้ว เราก็ไม่พลาดที่จะเก็บบทสัมภาณ์มาฝากชาว Soul4Street กันอย่างแน่นอน

 

ก่อนที่จะมาทำงานเป็นศิลปินวาดภาพนี้ คุณตะวันเคยทำงานอะไรมาก่อนหน้านี้ไหมคะ?

 

“ ผมเองก็เคยทำงานออฟฟิสมาก่อนนะ แล้วก็เลิกทำ เพราะรู้สึกว่าตัวเองทำได้ไม่ดี เคยทำรายการทีวี เป็น art director เคยกำกับมิวสิควิดีโอนิดหน่อย (หัวเราะ) นานแล้ว สมัยนั้นมันเป็นยุคที่มีค่ายเทปเยอะๆไง ไปเป็นครีเอทีฟให้ค่ายเพลงที่ชื่อว่า สโตน แล้วผมก็ขอเขาลองกำกับมิวสิควิดีโอดู เหมือนมันเป็นความสนใจที่ผมอยากจะทำหนังมากกว่าจะเป็น Painter อย่างที่เป็นอยู่น่ะ  จริงๆแล้วตอนแรกผมเลือกคณะนิเทศศาสตร์ ที่ลาดกระบังไว้ด้วยเป็นอันดับสอง แต่มาติดศิลปากรเป็นอันดับหนึ่ง เราก็เลยเรียนมาเรื่อยๆ คือส่วนตัวผมคิดว่ามันไม่ต้องจบสายตรงก็ได้ หลายคนที่เขาไม่ได้จบฟิล์มโดยตรง เขาก็มาเป็น director ได้ พอเราได้ลองทำงานตรงนั้นดู มันทำให้รู้ว่าผมไม่เก่งเรื่องที่จะต้องมาทำงานที่มีปฏิสัมพันธ์กับคน ผมเป็นคนมีความรับผิดชอบต่ำในบางเรื่อง เช่น เรื่องเวลา บางทีก็ตื่นสาย คือโดยสรุปแล้วเราไม่เหมาะกับตรงนั้นไง เราทำงานคนเดียว จบที่เราคนเดียวน่าจะเหมาะกว่า "

 

จากที่ทำงานศิลปะเป็นงานอดิเรกมาช่วงหนึ่ง แล้วมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้คุณตะวันผันตัวมาเป็นศิลปินเต็มตัวอย่างที่เป็นอยู่ในปัจุบันคะ?

 

 “ คือมันไม่ใช่ว่าเรารู้ด้วยตัวเอง มันขึ้นกับเหตุการณ์ สภาพเศรษฐกิจอะไรตอนนั้นด้วย ตอนที่ผมกลับมาเรียนน่ะ ผมเรียนที่มหาวิทยาลัยไป 8 ปีครึ่ง ผมดรอปไป 2 ครั้ง ตอนที่ดรอปครั้งแรกนี่ก็ออกไปทำงานประจำเต็มตัวเลย ตอนนั้นฟองสบู่แตกพอดี บริษัทเจ๊ง ผมก็เลยกลับมาเรียน แล้วก็ไปทะเลาะกับอาจารย์อีก ก็เลยดรอปไปอีกรอบหนึ่ง แต่ทีนี้งานที่ออกไปทำเริ่มไม่ใช่งานไลน์เดิมแล้ว เราเริ่มออกไปสอนวาดรูปตามที่ต่างๆ เช่นพวกผู้ใหญ่ที่รีไทร์แล้ว หรือ คนที่เขาสนใจ เริ่มจากคนเขาแนะนำให้มาช่วยสอน เป็นคลาสที่รวบรวมคนที่สนใจอยากเรียนศิลปะขึ้นมา ผมก็เป็นอาจารย์คนหนึ่งที่ไปสอน พอเริ่มสอนไป เราก็เริ่มสนิทกับนักเรียน เขาก็มีดึงไปสอนส่วนตัวบ้าง ตอนนั้นเราก็ตระเวนสอนมาประมาณ 2 ปี มันอาจจะมาซีเรียสตอนที่ผมต้องทำธีสิสงานเพ้นท์ตอนปีสี่ เราก็เลยหมกมุ่นกับงานเพ้นท์ ตรงนั้นอาจจะเป็นจุดที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราอยากไปต่อ แต่ตอนนั้นมันก็ยังเรียกว่าเป็นอาชีพไม่ได้หรอก มันยังขายงานไม่ได้ ทั้งปีมีงานแสดงแค่ครั้งเดียวแต่ขายไม่ได้เลย หรือขายได้รูปเดียวมันจะอยู่ได้ยังไง "

 

จากที่เราต้องทำงานอื่นเพื่อหางานเงินมาวาดรูป จนมาถึงวันที่เราสามารถทำให้งานวาดรูปเป็นงานหลักที่หาเลี้ยงเราได้นี้ใช้เวลานานไหมคะ?

 

“ นานครับ เป็นสิบปี กว่าจะมาหาเลี้ยงด้วยตัวเองได้ก็คงเป็นช่วงปี 2006-2007 คือตอนนั้นมันก็ยังไม่ได้ทำให้อยู่ได้หรอกนะ แต่ผมคิดว่าผมจะไม่ทำอย่างอื่นแล้ว ผมจะวาดรูปอย่างเดียว ก็ให้แฟนเลี้ยง ตอนนั้นก็เริ่มขายรูปได้บ้าง แต่ก็ไม่สม่ำเสมอหรอก “

 

จำได้ไหมคะว่างานชิ้นแรกที่เราขายได้คืออะไร?

 

“ สมัยก่อนนี้ผมเคยทำร้านกาแฟที่ชั้น 2 บนโรงหนังสยาม แล้วเราก็เอา painting ตัวเองไปแขวน ทีนี้เจ้าของแกลอรี่ที่ตอนหลังเขามาชวนผมไปจัดงานนิทรรศการครั้งแรก ตอนนั้นเขาเข้ามาที่ร้าน แล้วเขาก็ชอบงานผม เลยขอซื้อ painting ไป พี่เขาน่าจะเป็นคนแรกเลยที่ซื้อ painting ของเราจริงๆ เราก็ตั้งราคาไปมั่วๆ ราคาถูกๆ ไม่ได้แพงอะไร แต่ก็ไม่ได้ถูกมาก เขาก็ซื้อไป 3 รูป รู้สึกดีใจมากจริงๆ (ยิ้ม)  "

 

แล้วโชว์ครั้งแรกที่คุณตะวันได้จัดขึ้นที่เมืองไทยเกิดขึ้นได้อย่างไรคะ?

 

 “ ก็อย่างที่บอกว่าเจ้าของแกลอรี่เขาเชิญไป แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ commercial gallery เลยเสียทีเดียว มันเป็นกึ่งร้านเฟอร์นิเจอร์ด้วย คือจริงๆแล้วมันเป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ แล้วเขาได้พื้นที่เพิ่ม เขาก็เลยมีไอเดีย อยากจะทำเป็นเหมือนกึ่งแกลอรี่กึ่งร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ตัวเขาเองก็ชอบงานผม พาร์ทเนอร์เขาที่เป็นฝรั่งก็ชอบงานผม เขาเองก็ดึงลูกค้าที่มีเทสแบบเดียวกันมา งานก็เลยขายได้พอสมควร แต่ก็ไม่ทำให้อยู่ได้ ตอนนั้นผมก็เลยไปช่วยรุ่นพี่ทำโครงสร้าง ทำสเตจ ทำบู้ธ ทำเป็นฟรีแลนซ์ไป พอจบจ๊อบหนึ่ง เขาให้ตังค์ผม ผมก็กลับไปวาดรูป พอเงินหมดก็กลับไปทำงานใหม่ "

 

ครั้งแรกที่คุณตะวันได้มีโอกาสไปโชว์งานที่ต่างประเทศเกิดขึ้นได้อย่างไรคะ?

 

“ มันมาจากโชว์เซ็ท แฝด ที่ผมเคยทำซึ่งโชว์เซ็ทนี้ได้รับความสนใจจากต่างประเทศเยอะมาก แล้วแกลอรี่ทางเบลเยี่ยมก็เรียกให้ไปโชว์กับเพื่อนที่ทำ sculptureด้วยกัน แต่ก่อนหน้านั้น ผมเองก็มีไปโชว์งานมาเลเซียแต่เป็นการแสดงงานร่วมกับศิลปินชาวฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียที่งาน Three Young Contemporary แต่นี่ไม่ใช่โชว์ที่ต่างประเทศครั้งแรกของผมนะ แต่นั่นเป็นโชว์ต่างประเทศครั้งแรกที่ผมไปตัวเป็นๆ ก่อนหน้านั้นก็มีส่งงานไปโชว์ที่ปารีสบ้างแต่ตัวผมเองไม่ได้ไปร่วมงาน "

 

แล้วมีโชว์รูปภาพครั้งไหนที่คุณตะวันรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษไหมคะ?

 

“ คงเป็นตอนที่ไปโชว์โซโล่ที่ปารีส มันเป็นงานแบบโดยบังเอิญ เหมือนทางนั้นไม่ได้ตั้งใจเอางานผมไปโชว์ แต่งานของผมมันอาจจะง่ายต่อการขนส่งที่สุด เหมาะสมกับช่วงเวลานั้นที่สุด เขาก็เลยเลือกงานของผมไปโดยที่เราไม่เคยรู้จักกันเลย ไม่รู้จักชื่อแกลอรี่ ไม่รู้จัก curator ไปรู้จักกันเอาวันงานเปิดเลย แล้วแถมยังเป็นโชว์โซโล่ครั้งแรก ที่ได้โลเคชั่นที่ดีอีก อยู่หน้าถนนโอเปร่า ใกล้กับพิพิทธภัณฑ์ลูฟร์เลย "

 

 

เคยคิดไหมว่าทำไมงานของตัวเองถึงได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย?

 

“ จริงๆแล้วผมโชว์งานที่ต่างประเทศมากกว่าโชว์ที่เมืองไทยนะ เคยไปโชว์ที่ยุโรปก็หลายครั้ง ที่ปารีส บรัสเซล โคเปนไฮเกน ที่ญี่ปุ่นก็เคย จีนก็ไปหลายครั้ง ถ้าแถวๆนี้ก็มีสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ งานผมอาจจะถูกโรคกับต่างประเทศมากกว่าเมืองไทยมั้ง ส่วนใหญ่ที่โชว์งานแล้วขายผลงานได้ ประมาณ 80% จะเป็นคนต่างชาติหมดเลย จะเป็นคนยุโรปที่ซื้อ ในเรื่องของการสะสม เหมือนนักสะสมไทยเขาไม่ค่อยสนใจผมมั้ง (หัวเราะ) โดยส่วนใหญ่ที่ผมไปโชว์งานเนี่ยจะเป็นงานเปเปอร์ งานสีน้ำ ก็ได้ยินเอฟเฟคกลับมาว่าที่เขาเลือกให้เราไปโชว์ก็เพราะว่างานของเรามีความเป็นเอเซีย "

 

“ ซึ่งจริงๆแล้วผมคิดว่ามันไม่เกี่ยวหรอกว่าเราวาดอะไร เพราะตอนนี้โลกมันเท่าทันกันหมดแล้ว ทุกๆที่มันแชร์กันไปหมด อย่างเราไปฝรั่งเศสเราก็จะเห็นคนเอชีย คนผิวสี ทุกอย่างมันปนไปกันหมดแล้ว มันไม่มีว่าคนไทยจะต้องมานั่งพับเพียบ มาวาดลายกนก มันไม่มีใครมาสนใจอะไรพวกนี้แล้ว อาจจะมีคนในประเทศนี้บางคน บางกลุ่มสนใจว่าเราต้องมาแสดงความเป็นไทย "

 

 

เท่าที่ได้คุยกันมาคุณตะวันจะทำงานศิลปะในเชิง fine art เสียส่วนใหญ่ แล้วคุณตะวันได้มีโอกาสเข้ามาทำงานกับกลุ่มสตรีทอาร์ทอย่างการร่วมออกแบบสเก็ตบอร์ดให้กับร้าน Preduce ได้อย่างไรคะ?

 

“ ผมก็รู้จักกับเข้าของร้าน Preduce คือเจ้าของร้าน คุณไซมอน เขาไปดูงานโชว์ผมเมื่อปีที่แล้ว เขาคงชอบผลงานผมก็เลยเชิญให้มาออกแบบสเก็ตบอร์ดให้ เขาบอกว่าออกแบบอะไรก็ได้ แต่อย่าเป็นรูปโป๊แล้วกัน (หัวเราะ) เพราะเราขายเด็ก แต่เขาก็มีโจทย์มาให้ว่าอยากให้เกี่ยวกับโปรสเก็ตบอร์ดของเขาทั้งหมด 6 คน ผมก็เลยวาดออกมาเป็นพอร์ทเทรทภาพโปรแต่ละคนเลย ผมวาดบนแคนวาสก่อนแล้วก็ถ่ายรูปไปวางบนเด๊กสเก็ตบอร์ดอีกที อันนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ผมทำงานศิลปะมาผสมผสานกับสตรีทอาร์ทแบบนี้ จริงๆตอนแรกกะว่าจะวาดภาพสีน้ำให้เขาเลยแหล่ะ แต่ถ้ามันเป็นงานบนสเก็ตบอร์ด มันน่าจะเป็นงานกระแทกๆหน่อย ก็เลยทำบนแคนวาสเลยให้ภาพมันดิบๆย้อนยุคๆหน่อย "

 

ซึ่งก่อนหน้าที่คุณตะวันจะได้มาร่วมงานกับร้านสเก็ตบอร์ดชื่อดังอย่างร้าน Preduce นั้น คุณตะวันเองเคยได้เข้ามาคลุกคลีกับวงการสตรีทอาร์ทอยอู่บ้างแล้วผ่านงานนิทรรศการ stick it up งานแสดงสติ๊กเกอร์อาร์ทของเหล่านักศิลปะแขนงต่างๆ เช่น P7, Chip7, Rukkit และศิลปินท่านอื่นๆรวมถึงคุณตะวันของเรา ที่มารวมตัวกันเพื่อแสดงความเป็นปัจเจกในสไตล์งานศิลปะของแต่ละคน ซึ่งงานนิทรรศการครั้งนั้นถือเป็นงานแรกที่คุณตะวันได้ไปแจมกับกลุ่มศิลปินแนวสตรีทอาร์ทและทำให้สนิทกันนับแต่นั้นเป็นต้นมา โดยคุณตะวันได้หยิบแผ่นสติ๊กเกอร์ลายไอ้มดแดงให้เราดูแผ่นหนึ่งพร้อมเล่าว่า

 

“ ตอนนั้นเราทำสติ๊กเกอร์ขายขำๆกันนิดๆหน่อยๆ มันมาจากโปรเจคเมื่อปีที่แล้ว เหมือนพวกสตรีทอาร์ทเขาก็ไม่ได้เพ้นท์อย่างเดียว มีพวกใช้กระดาษแล้วทากาวปิดบ้าง หรือใช้สติ๊กเกอร์บ้าง เราก็เลยเอาไอเดียนี้มา ที่เหลือก็เอามาแลกกัน ผมเอางานเก่าเมื่อปี 2008 มาทำ คือผมมันวาดพวกรูปโป๊รูปอะไรเยอะไง จะเอามาทำสติ๊กเกอร์ก็คงไม่ดี เลยเอางานที่เป็นพวกซุปเปอร์ฮีโร่มาทำดีกว่า "

 

 

มีแรงบันดาลใจอะไรในการวาดเซ็ทซุปเปอร์ฮีโร่นี้บ้างคะ?

 

“ คือช่วงนั้นผมทำ 3 ไปพร้อมๆกัน ผมวาดหมา วาดซุปเปอร์ฮีโร่ แล้วก็วาดรูปโป๊ คือช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่เราอยากจะย้อนกลับไปหาจุดเริ่มต้นที่เราสนใจ อย่างรูปโป๊เนี่ย ผมก็เอามาจากหนังสือโป๊เก่าๆที่บังเอิญไปเจอ ผมเก็บตั้งแต่สมัยผมเป็นวัยรุ่นแล้วอยากรู้อยากเห็นแล้วไปแอบขโมยของน้ามาดู ผมก็เอาหนังสือพวกนั้นมาลองวาดตามแต่ผมก็ไม่ได้คิดว่าเราวาดรูปโป๊ อนาจารย์อะไรนะ ผมใช้ฟอร์มมันเท่านั้นเอง หรืออย่างพวกเซ็นซุปเปอร์ฮีโร่เนี่ย ก็เป็นการ์ตูนที่ผมชอบตั้งแต่สมัยเด็กๆ ผมชอบไอ้มดแดง ผมวาดทุกวีเลย แต่ว่าขายไปเกือบหมดแล้ว เหลือแค่นี้เอง ส่วนหมาเนี่ยมันมีคอนเซ็ปนิดหนึ่งนะ จริงๆแล้วผมวาดคนในบอดี้ของหมาพันธุ์ต่างๆ เพราะผมรู้สึกว่าคนไทยชอบหมาไง ไปบ้านไหน เราดูได้จากหมาเลยว่าหมาเป็นยังไง เจ้าของบ้านก็เป็นอย่างนั้น มันจะมีคาแรคเตอร์อะไรบางอย่างคล้ายกัน (หัวเราะ) "

 

แล้วมีเหตุการณ์หรือแรงกระตุ้นอะไรที่ทำให้คุณตะวันเริ่มวาดรูปโป๊ออกมาเป็นซีรี่ย์หลักของผลงานคุณตะวันเลยคะ?

 

“ จริงๆแล้วรูปโป๊เนี่ยมันเกิดมาจากเหตุการณ์ปฎิวัติเมื่อครั้งที่แล้ว คือผมเนี่ยไม่เห็นด้วยกับการที่ทหารยึดอำนาจอยู่แล้ว ผมเลยทำงานออกมาเซ็ทหนึ่งเลยเพื่อออกมาต่อต้านเรื่องพวกนี้โดยตรงเลย ผมรู้สึกว่ามันเซ็นเซอร์อะไรเยอะเกินไป จากที่เราดูทีวีชัดๆ กลายเป็นเราต้องมาดูทุกอย่างมัวๆ มือถือบุหรี่มัว มือถือแก้วเหล้ามัว มือถือปืนมัว เห็นเนินแต่ยังไม่เห็นนมก็มัว ยิ่งตอนนั้นมีรายการ Big Cinema ฉายหนังเรื่องฟรีด้า ซึ่งผมชอบมาก พอเอามาฉายผมก็ดู แล้วหนังเรื่องนี้มันมีฉากสูบบุหรี่ มีปืน มีนู้ดด้วย พอเอามาฉาย เขาก็เบลอหมดเลย มองไม่เห็นอะไรเลย ดูไม่รู้เรื่อง เราก็คิดว่าแล้วจะเอามาฉายทำไมกัน แล้วมันมีตอนหนึ่งที่น่าเกลียดมากเลย คือพระเอกกำลังวาดภาพนู้ด กล้องก็จับไปที่นางเอกแล้วภาพก็เบลอ แล้วพอแพนกล้องมาที่รูปภาพ รูปภาพก็เบลอ นี่ต้องเซ็นเซอร์ painting กันเลยหรอ ผมเลยอยากจะต่อต้าน เลยวาดรูปโป๊ออกมาเลย "

 

“ คือผมต้องการสื่อว่าผมไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผมไม่ใช่นักเขียนไง นักเขียนเขาอาจจะไปเขียนอะไรออกมา ผมก็แสดงออกมาทาง painting "

 

 

ให้คุณตะวันฝากผลงานศิลปะชุดล่าสุดกับชาว Soul4Street สักหน่อยค่ะ?

 

“ คือช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ผมจะไปแสดงโซโล่งานที่ Alliance Francaise เมือง Brisbane จริงๆเราคุยกันไว้นานแล้ว แต่เพิ่งจะมาลงตัวปีนี้ มันเริ่มจากผมมีเพื่อนคนไทยอยู่คนหนึ่ง เขาอาศัยอยู่ที่นั่น แล้วเขาอยากให้ผมไปโชว์งาน แล้วเขาก็เอาหนังสือเล่มนี้ไปคุยกับแกลอรี่ต่างๆ มันก็มีแกลอรี่ที่สนใจ แต่เงื่อนไขมันไม่ค่อยดี คือค่อนข้างจะเอาเปรียบ จะเอาเปอร์เซนต์เยอะ พอดีว่าทาง Alliance France เขาก็มีพื้นที่โชว์อยู่ด้วย เพื่อนผมเขาก็เลยเอาไปคุยดู ปรากฎว่าเขาชอบ เขาก็เลยเชิญมา คิดว่าที่ Aliance France น่าจะเป็นคนแรกที่ได้ไปโชว์ที่นู่น

 

“ โดยผลงานเซ็ทนี้จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชุดยูนิฟอร์ม ผมจะวาดเป็นนักเรียนไทยในเครื่องแบบมัธยมหรือมหาวิทยาลัย คือจริงๆผมเคยทำเซ็ทที่เป็นเกี่ยวกับยูนิฟอร์มมาแล้ว แต่ตอนนั้นมันเป็นยูนิฟอร์มแบบชุดลูกเสือ ชุดทหาร ชุดตำรวจ นางสาวไทย นักศึกษา อะไรแบบนี้ แต่คราวนี้ผมก็อยากมาโฟกัสให้มันแคบลง เหมือนผมหันกลับมาดูต้นตอของสังคมไทย ซึ่งจริงๆแล้วเราถูกปลูกฝัง ถูกควบคุมกันมาตั้งแต่เด็ก ในหลายประเทศนักเรียนไม่ต้องใส่ชุดยูนิฟอร์มแล้ว แต่ก็โอเคนะ เพราะญี่ปุ่นเองก็ยังมีอยู่ แต่มันก็เปรียบเทียบอะไรไม่ได้ มันแล้วแต่สังคม แต่โดยส่วนตัวผมแล้วผมสนใจ ผมก็เลยเอามาวาด คงไม่มีประเทศไหนในโลกอีกแล้วมั้งที่บังคับให้นักเรียนทุกคนต้องใส่เครื่องแบบ ลูกเสือเนี่ย ประเทศอื่นๆอาจจะยังมีอยู่ แต่มันไม่ใช่วิชาบังคับ มันแล้วแต่ใครสนใจ อยากจะเรียน แต่เมืองไทยเนี่ยทุกคนจะต้องถูกบังคับให้เรียน ต้องใส่ยูนิฟอร์มลูกเสือเนตรนารี มันก็เลยเป็นสิ่งที่แปลกสำหรับคนต่างชาติ "

 

 

Like a Virgin By Tawan Wattuya

“ Apparel can be a shell which covers our bodies, a device through which we present ourselves in an innocent manner. It may possibly reveal our weaknesses as well as reflecting our severe inner conflicts.” 

 

 

“ อาภรณ์เปรียบเสมือนเปลือกที่ห่อหุ้มร่างกายของเราเอาไว้ หรือเปรียบเสมือนเครื่องมือที่พวกเราใช้แสดงบุคลิกไร้เดียงสา อาภรณ์นั้นอาจจะเปิดเผยถึงจุดอ่อนของเราแต่ในขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงปมขดแย้งภายในจิตใจของเราเช่นเดียวกัน "

 

สำหรับใครที่เริ่มที่จะชื่นชอบในผลงานของคุณตะวันแล้วสามารถที่จะไปเมีชื่อนิทรรศการว่า "Like a virgin” เริ่มแสดงตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม – 29 สิงหาคม 2557 ที่ Alliance francaise เมือง Brisbane ถ้าหากชาว  Soul4Street คนไหนมีโอกาสได้เดินทางไปประเทศออสเตรเลียในช่วงนั้นอย่าลืมแวะไปเดินชมนิทรรศการรูปภาพของคุณตะวันกันได้นะคะ

 

ชาว Soul4Street สามารถอัพเดตข่าวสารงานสิลปะของคุณตะวันได้ที่

www.facebook.com/tawanyod

Instagram: tawan

 
 
Share:
On Key

Related Posts

WATCHA GONNA ดู

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอม ให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save