ไนกี้ ผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลกและผลิตภัณฑ์กีฬาฟุตบอล เผยโฉมรองเท้าฟุตบอลไนกี้ เทียมโป เลเจนด์ ไฟว์ ที่มาพร้อมคุณสมบัติของหน้าผ้าชนิดพิเศษ เพื่อเพิ่มความกระชับเท้าและการสัมผัสบอลที่ดียิ่งขึ้น พร้อมกับเผยโฉม ไนกี้ เทียมโป’94 รองเท้าสปอร์ตแวร์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ปรับโฉมและการดีไซน์จากรองเท้าฟุตบอลไนกี้ เทียมโป ปี 1994
ย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ปี 1994 ได้มีนักฟุตบอลจำนวน 22 คนได้ก้าวเท้าลงสู่สนามฟุตบอล ในเมืองพาซาดีน่า รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน คือ การแย่งชิงเพื่อครอบครองถ้วยแห่งศักดิ์ศรีจากมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยที่นักกีฬาจำนวน 10 คนจากจำนวนทั้งหมด 22 คน ได้สวมรองเท้าฟุตบอลรุ่นเดียวกันคือ รองเท้ารุ่นไนกี้ เทียมโป พรีเมียร์ ( Nike Tiempo Premier)
นับตั้งแต่ปี 1994 ไนกี้ เทียมโป ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับวงการกีฬาฟุตบอล และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษนี้ ไนกี้จึงได้ทำการเปิดตัวรองเท้ารุ่นไนกี้เทียมโป’94 ที่เป็นรองเท้าแนวสปอร์ตแวร์ ที่ผลิตขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรองเท้าฟุตบอลตระกูลเทียมโป รวมไปถึงเปิดตัวรองเท้าเทียมโป เลเจนด์ ไฟว์ รองเท้าฟุตบอลที่นำนวัตกรรมใหม่ล่าสุดมาพัฒนาศักยภาพสู่การเล่นในทุกสนามการแข่งขัน อย่างไรก็ตามแม้รูปโฉมภายนอกจะดูคล้ายคลึงกัน แต่รองเท้าทั้ง 2 รุ่น ก็เป็นรองเท้าที่เน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการออกแบบตามแบบฉบับกีฬาฟุตบอลและแสดงศักยภาพสู่การเปลี่ยนแปลงในการแข่งขันได้
เทียมโป ’94
ยามเมื่ออยู่ในสนาม ผู้เล่นอย่างโรนัลดินโญ่ไม่เคยยอมแพ้ และพร้อมที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งเขาได้สวมใส่รองเท้าฟุตบอลรุ่นเทียมโป พรีเมียร์ ซึ่งทำให้ไนกี้ เทียมโป ’94 ได้ปลุกจิตวิญญาณความนิยมของรองเท้ารุ่น เทียมโป พรีเมียร์อีกครั้ง โดยการผสานความเป็นไอคอนแห่งวงการฟุตบอลเข้ากับไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน หน้าผ้าของรองเท้าสัมผัสได้ถึงความคลาสสิคแบบดั้งเดิมของพื้นหนังสีดำตัดกับรอยเย็บที่ดูเด่นชัดจากการซ้อนทับด้วยวัสดุหนังกลับ พร้อมกับมีโลโก้สวู้ชสีขาวขนาดใหญ่ด้านข้างและลายสกรีนเป็นชื่อไนกี้ในส่วนส้นรองเท้า ขณะที่ลิ้นรองเท้ามีขนาดใหญ่เป็นพิเศษและสามารถพับได้ พร้อมกับมีลายเย็บรูปโลโก้สวู้ชสีเหลืองที่แสดงให้เห็นถึงการใส่ใจในรายละเอียดอย่างไม่เคยจืดจางและยังเป็นการสดุดีให้แก่รองเท้ารุ่นดั้งเดิมอีกด้วย นอกจากนี้ตัวรองเท้ายังได้แสดงออกถึงสุนทรียภาพในกีฬาฟุตบอลได้อย่างมีพลังและเต็มเปี่ยมไปด้วยความมีระดับ
พื้นปุ่มสตั๊ดของรองเท้าแบบดั้งเดิมได้ถูกแทนที่ด้วยพื้นยางทรงถ้วย (Cup Sole) ที่นำมาประกบเข้ากับพื้นรองเท้าชั้นกลางแบบสอด (Drop-in Midsole) ซึ่งทำจากวัสดุไฟลอนย้อมสี เพื่อให้การรองรับแรงกระแทกด้วยวัสดุน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ขณะที่ร่องบากของพื้นรองเท้าที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นได้ถูกออกแบบให้มอบความเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติและช่วยเพิ่มความสบายในขณะสวมใส่ได้มากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาพัฒนาร่วมกับงานฝีมือแบบดั้งเดิมตามแบบฉบับของเทียมโป
เทียมโป เลเจนด์ ไฟว์
นับตั้งแต่ปี 1994 เป็นต้นมา เกมการแข่งขันฟุตบอลได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มีรูปแบบเกมที่รวดเร็วและการเล่นเต็มพื้นที่สนามที่คล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาขีดความสามารถของนักกีฬาทุกคนที่อยู่ในสนาม และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์นั้น ประกอบกับการได้รับข้อคิดเห็นจากนักเตะที่มีชื่อเสียง อย่าง คาร์ลอส เตเบซ, เคราร์ด ปิเก้ และโรนัลดินโญ ไนกี้ฟุตบอลจึงได้นำรากฐานในการพัฒนารองเท้าฟุตบอลของเทียมโปมาผนึกเข้ากับความจำเป็นของรูปแบบเกมการเล่นสมัยใหม่ เพื่อสร้างสรรค์รองเท้าฟุตบอลที่ทำจากหนังรุ่นหนึ่งที่ดีที่สุดในตลาด
การออกแบบของ เทียมโป เลเจนด์ ไฟว์ เน้นคุณลักษณะพิเศษ 2 ประการเป็นหลักๆ คือ สัมผัสที่ดีและน้ำหนักที่คงที่อยู่สม่ำเสมอ รูปทรงที่ดียิ่งขึ้นและการใช้วัสดุที่ล้ำสมัยจะช่วยให้หน้ารองเท้าของ เทียมโป เลเจนด์ ไฟว์ แนบชิดกับเท้ามากยิ่งขึ้นและยังช่วยแก้ปัญหาของการใช้วัสดุหนังที่มีมาโดยตลอด โดยเฉพาะในด้านน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นที่เกิดขึ้นจากการอมน้ำ พัฒนาการใหม่ของหน้ารองเท้าประกอบด้วยชั้นวัสดุ 2 ชั้นที่ลดความหนาของแต่ละชั้นลง ทำให้ เทียมโป เลเจนด์ ไฟว์ มอบการสัมผัสบอลที่ดีและมีความรู้สึกที่เบาเหมือนวัสดุสังเคราะห์ โดยตัวรองเท้าได้ถูกขึ้นรูปจากแบบเท้าที่ถูกต้องตามหลักกายวิภาคศาสตร์เช่นเดียวกับที่ใช้ในการออกแบบ ไนกี้ ไฮเปอร์เวนอม (Nike Hypervenom) ที่ช่วยทำให้เท้าสามารถสัมผัสกับลูกฟุตบอลได้แนบสนิทยิ่งขึ้น
การทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่า วัสดุชั้นบนสุดซึ่งเป็นหนัง K-leather และ เทคโนโลยี All Conditions Control (ACC) ช่วยการควบคุมลูกฟุตบอลที่ดีในทุกสภาพสนาม โดยเฉพาะในด้านการป้องกันน้ำและทนสภาพ
อากาศ ไม่ว่าจะอยู่ในแบบใด วัสดุชั้นที่สองเป็นผ้าตาข่ายที่ไม่ซึมซับน้ำ รองเท้าจึงแห้งอย่างรวดเร็วและดูดซับน้ำน้อยกว่ารองเท้ารุ่นก่อนๆ ที่ทำจากหนังแท้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ของรองเท้ารุ่นนี้คือ รองเท้าที่ให้ความมั่นใจแก่ผู้สวมใส่ได้ในทุกสภาพของการเล่นไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศแบบใด
นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมอยู่ในพื้นรองเท้าด้านนอกของ เทียมโป เลเจนด์ ไฟว์ อีกด้วย โดยปุ่มสตั๊ดที่ส้นเท้าและปลายเท้าถูกขยายให้กว้างขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มความเสถียรของตัวรองเท้า มีการใช้ปุ่มสตั๊ดทรงกรวยที่ปลายเท้าและส่วนปลายสุดของเท้า โดยได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการพลิกหมุนตัวและเปลี่ยนทิศทางในการก้าวเท้าวิ่ง นอกจากนี้ทีมออกแบบของไนกี้ยังได้นำเทคโนโลยี ไนกี้ ฟรี (Nike Free) มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบให้พื้นรองเท้าด้านนอกสามารถโค้งงอได้ตั้งแต่บริเวณกลางเท้า เพื่อให้การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างอิสระมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้ เทียมโป เลเจนด์ ไฟว์ ได้มอบความสบายได้อย่างเต็มรูปแบบตลอดเกมการแข่งขัน
ขณะที่ด้านข้างของรองเท้าคงความงามในแบบคลาสสิค ซึ่งเน้นให้เด่นชัดยิ่งขึ้นด้วยดีไซน์การเดินด้ายแบบตะเข็บบนหน้ารองเท้า ช่วงกลางของรองเท้าสะดุดตาด้วยสีสันและการนำเทคโนโลยีไฮเปอร์ชีลด์ (Hypershield) มาใช้ ทำให้เทียมโป เลเจนด์ ไฟว์ สามารถรักษาเอกลักษณ์ที่ดั้งเดิมของตระกูลเทียมโปไว้ได้เป็นอย่างดี โดยเป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นที่สุดในด้านงานฝีมือและการนำเทคโนโลยีอันทันสมัยมาใช้โดยไม่สูญเสียรูปลักษณ์อันแสนคลาสสิคไป
สำหรับรองเท้า ไนกี้ เทียมโป ’94 และ เทียมโป เลเจนด์ ไฟว์ จะวางจำหน่ายในราคา 4,400 บาท และ 5,900 บาท ตามลำดับ ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป ที่ร้านไนกี้ สาขาสยามพารากอน, เทอร์มินอล 21, ร้านซูเปอร์สปอร์ต สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้าและลาดพร้าว, ร้านนกแก้ว ,ร้านอาริ ฟุตบอลคอนเซปต์ สโตร์ และ ร้านเอฟบีที หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่facebook.comnikefootballTH