เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ กรุงปารีสได้มีการจัดงานประมูลขึ้นโดย Artcurial ที่มีนาย Fabien Naudanเป็นผู้รวบรวมของสะสมต่างๆของ Supreme อยู่นานถึง 3 ปี เพื่อที่จะนำมาจัดการประมูลนี้ขึ้น ซึ่งงานในครั้งนี้มีชื่อว่า C.R.E.A.M. (Cash Rules Everything Around Me) ชื่อนี้ได้ถูกตั้งตามชื่อเพลงของ Wu-Tang Clan’s ที่ออกมาในปี 1993 การประมูลในครั้งนี้มีจำนวนของทั้งหมด 145 ชิ้น ราคาที่ประเมินไว้มีเริ่มตั้งแต่€200ไปจนถึง €100,000 เลยทีเดียว แต่ในการประมูลครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ Supreme เพียงอย่างเดียว เพราะจะมีของ KAWS และรูปวาดของ Todd James ด้วย การประมูลในครั้งนี้คนที่อยู่บ้านก็สามารถร่วมได้ด้วย เพราะมันมีการ Live ผ่านเว็ปไซต์อีกด้วย ส่วนยอดเงินที่ทำได้จากการประมูลครั้งนี้ก็คือ €850,681 หรือเท่ากับ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ แค่ได้ยินแค่นี้ก็อยากรู้แล้วว่าในงานนี้จะมีอะไรโหดๆบ้าง ไปดูกันเลย
มาเริ่มกันด้วยชิ้นที่มีราคาสูงที่สุดเลยละกัน Louis Vuitton x Supreme MalleCouttier 90 Trunk ที่ถูกประมูลไปถึง €88,400 หรือก็ประมาน 3 ล้านบาท เอง… ราคานี้เอาไปซื้อบ้านได้เลย
ต่อมาก็เป็นป้ายนี้ที่ถูกประมูลไปถึง €54,600 ไม่รักจริงไม่กล้าประมูลแน่นอน
กระสอบทราย Supreme x Everlast ที่ออกไปไม่กี่ปีก่อน แต่เนื่องจากมันมีจำนวนจำกัดมากๆ มีขายที่แต่ละสาขาไม่ถึง 10 ชิ้น ทำให้ราคามันสูงมากๆ แต่ไม่นึกว่าจะสูงขนาดนี้ €20,150
อันนี้อาจไม่ใช่ราคาที่สูงที่สุด แต่คือราคามันค่อนข้างสูงเกินไปมากๆจากราคาตลาด มันทำให้เราแอบสงสัยเลยว่าการประมูลนี้มันของจริงหรือเปล่า เพราะเรียกได้ว่าของเกือบทุกชิ้นราคาจะสูงเกินจริงอยู่มาก
อันนี้ก็เป็นอีกชิ้นที่ราคาโหดทะลุจอ “เจ้าเชือกกระโดด” มีคนซื้อไปในราคา 30,000 กว่าบาท
อันนี้เป็นภาพบรรยากาศภายในงาน เพื่อนๆคนไหนที่อยากดูราคาเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ Artcurial
จุดเริ่มต้นของแบรนด์คือเป็นร้านสเก็ตบอร์ดเล็กๆในใจกลางเมืองนิวยอร์ค ใครจะไปคิดหล่ะว่าวันนึงจะมาเป็นหนึ่งในแบรนด์สตรีทแวร์ที่มีอิทธิพลต่อแฟชั่นของโลกเป็นอย่างมากแบรนด์นึงเลยทีเดียว ถึงแม้วันนี้ Supreme จะได้ขายหุ้นให้กับ บริษัท Carlyle Group ไปถึง 50% แต่ Supreme ก็ยังคงคงความเป็นตัวเองอยู่อย่างหนักแน่น แต่เราก็ไม่รู้ว่าในอนาคตอะไรจะเกิดขึ้น รู้แต่ว่าตอนนี้อะไรก็ฉุดแบรนด์นี้ไม่อยู่จริงๆ เราคิดว่า Supreme ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าสตรีทแฟชั่น มันไม่ใช่แค่แฟชั่นตามท้องถนนทั่วไปอีกต่อไป เพราะตอนนี้เรียกได้ว่าทุก Luxury แบรนด์ก็หันมาทำในเสื้อผ้าที่ออกแนว Street และ Sportwear มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่เราก็คิดว่าแฟชั่นมันก็เป็นวงกลมแบบนี้แหละ อีกไม่นานเทรนด์นี้ก็จะผ่านไป แล้วก็มีกระแสใหม่ขึ้นมาแทน และไม่รู้อีกนานเท่าไหร่มันจะวนกลับมาหาสตรีทแฟชั่นเหมือนทุกวันนี้
Source : Bloomberg