Hiroshi Fujiwara หรือที่เรารู้จักกันในนามว่า ‘Godfather of Streetwear’ อีกหนึ่งบุคคลที่เรียกได้ว่ามีบทบาทในวงการสตรีทแวร์เป็นอย่างมาก เขาเป็นทั้งผู้บุกเบิกริเริ่มและก็ยังเป็นคนที่คอยผลักดัน หากจะบอกว่าถ้าไม่มีเขาคนนี้ วงการสตรีทแวร์ของญี่ปุ่น ก็อาจจะไม่สามารถมีอยู่เป็นคัลเจอร์ที่แข็งแรงและยืนหยัดได้จนถึงทุกวันนี้ และฮาราจูกุอาจจะไม่ได้โด่งดังอย่างเช่นทุกวันนี้ ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปีในวงการสตรีท เราไม่แปลกใจเลยทำไมเขาถึงได้รับฉายานี้ เอาเป็นว่าตั้งแต่ผู้เขียนเริ่มชอบและสนใจแนวสตรีทก็น่าจะประมาณช่วงปี 2000 กลางๆ เรียกว่ายุคนั้นแบรนด์สตรีทจากญี่ปุ่นก็มาแรงมากๆ ไม่ว่าจะเป็น BAPE, Neighborhood, Bounty Hunter, Swagger, Phenomenon และที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ Fragment ของเจ้าพ่อคนนี้นี่เอง
ในช่วงยุค 80 ตอนนั้นเขาอายุ 18 ปีเขาได้มีโอกาสไปเที่ยวทั้งลอนดอนและนิวยอร์ค นั่นเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเขาที่ได้ซึมซับวัฒนธรรมของทั้งสองเมืองหลวงเขาหลงรักในดนตรีฮิพฮอพและคัลเจอร์ของ DJ และได้นำสิ่งเหล่านี้กลับมาที่โตเกียวด้วย เขาคือหนึ่งในดีเจฮิปฮอปคนแรกๆของญี่ปุ่น ณ ตอนนั้น เขาเองได้มีโอกาสรู้จักกับ Shawn Stussy ผู้ก่อตั้งแบรนด์ STUSSY ผ่านเพื่อนของเขา และเขาเองก็เป็นคนญี่ปุ่นคนแรกที่ได้เป็น International Stussy Tribe รวมถึงเขาเป็นคนนำแบรนด์ Stussy มาเปิดตลาดในญี่ปุ่นอีกด้วย และนั่นคือจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของเขาเองและย่านฮาราจูกุ
ในปี 1989 ตัวเขาเองได้ก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้าแบรนด์แรกที่มีชื่อว่า GOODENOUGH ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับอิทธิพลจากคัลเจอร์ของอเมริกา ดนตรีฮิพฮอพ และ ดนตรี Punk ซึ่งในฃ่วงยุค 90 นี่เองได้เริ่มมีแบรนด์เสื้อผ้าต่างๆรวมถึงเริ่มมีร้านเสื้อผ้ามาก่อตั้งในย่านที่ตอนนั้นยังไม่โด่งดังอย่าง “ฮาราจูกุ” ซึ่งเขาเองก็เป็นเหมือนจุดศูนย์กลางและผู้ผลักดัน
NOWHERE, 1993 Tokyo, Japan
ในช่วงนั้นเองเขาก็มีกลุ่มเพื่อนและรุ่นน้องที่ชื่นชอบ คลั่งไคล้อะไรที่เหมือนกัน มีการแบ่งปันและแชร์ข้อมูลให้กัน ซึ่งในกลุ่มนั้นเองก็มีบุคคล 2 คนที่ต่อมาเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในวงการสตรีทแวร์อย่าง Jun Takahashi และ Tomoaki Nagao ซึ่งตัวฮิโรชิเองนั้นเป็นคนตั้งชื่อว่า Nigo ซึ่งมีความหมายว่าอันดับที่สองให้กับ Tomoaki ซึ่งเขาก็คือนิโกะแห่ง Bape ที่เรารู้จักมากันจนทุกวันนี้
ตัวฮิโรชิเองเป็นผู้ผลักดันให้ Jun และ Nigo เปิดร้าน NOWHERE ในปี 1993 ซึ่งเป็นร้านที่รวบรวมแบรนด์จากอเมริกาเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในยุคนั้นคงยังไม่มีร้านที่มีของนำเข้าแบบนั้น
ขณะเดียวกันหลังจากนั้นทั้งสอง NIGO และ Jun ก็ได้มีแบรนด์เป็นของตัวเองอย่าง BAPE และ UNDERCOVER ซึ่งจะบอกว่าร้านนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์สตรีทชื่อดังอย่าง A Bathing Ape, WTAPS, NEIGHBORHOOD, SOPHNET. และอื่นๆอีกมากมายในเวลาต่อมา
ต้นกำเนิดโลโก้สายฟ้าในตำนาน ‘FRAGMENT DESIGN’
เรียกว่าเทรนด์แฟชั่นนั้นเปลี่ยนไปเรื่อยๆไม่มีหยุด เขาเองก็หยุดอยู่นิ่งไม่ได้ ในปี 2003 เขามาพร้อมกับโปรเจคท์ใหม่ในชื่อ Fragment Design ที่เขาจะไม่โฟกัสที่เสื้อผ้าอย่างเดียว เพราะจะมานำเสนอในรูปแบบคอลแลปกับแบรนด์ต่างๆที่มีทั้ง Gadget ใหม่ๆและของใช้ต่างๆในชีวิตประจำวัน มันเหมือนกับแบรนด์เสื้อผ้า รวมถึงที่ปรึกษาเกี่ยวกับด้านดีไซน์และอื่นๆ
ถ้านึกไม่ออกก็จะยกตัวอย่างให้อย่าง Starbuck ก็เคยไปคอลแลปมาแล้ว มีทั้งถ้วยกาแฟและบัตรสะสมแต้มจนไปถึงขั้นที่เขายังเคยออกแบบร้าน Starbuck มาแล้วด้วย
ส่วนแบรนด์ที่ Fragment Design เคยคอลแลปมาแล้วก็จะมีทั้ง LV, Nike, Moncler, Carhartt WIP, Jordan, Converse, mastermind Japan, Visvim นี่ก็เป็นแค่ส่วนนึงเท่านั้น เรียกได้ว่าความสามารถของเขาไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ แถมทำอะไรก็สุดไปซะทุกอย่าง ต้องยอมพี่เขาเลยหล่ะ
HTM
ชื่อนี้เหล่าสนีกเกอร์เฮดจะต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งจมีคนญี่ปุ่นสักกี่คนที่ไปได้ในถึงระดับนี้ HTM เป็นอักษรย่อของ Hiroshi Fujiwara, Tinker Hatfield นักออกแบบรองเท้าของ Nike และ Mark Parker เจ้าของ Nike เริ่มเมื่อปี 2002 มันเป็นเหมือนโปรเจกต์ที่ให้ทั้ง 3 คนได้ทดลองใส่เทคโนโลยีอะไรใหม่ๆเข้าไปในรองเท้าแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน อย่างตัวรุ่น Sockdart ที่เคยออกมาแล้วตั้งแต่ปี 2004 แต่ในตอนนั้นคิดว่ามันน่าจะล้ำเกินไปคนยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่พอเขาได้นำกลับมาออกในไม่กี่ปีที่ผ่านมา มันกลับได้รับความนิยมอย่างสุดๆ บอกได้เลยว่าแต่ละอย่างที่ทั้ง 3 คนได้ดีไซน์ขึ้นมานี้นั้นมาจากโลกอนาคตทั้งนั้น
Murakami x Fragment
เรียกว่าก่อนที่เจ้าดอกไม้จะฮิตแบบทุกวันนี้ มันอยู่มานานมากแล้วจริงๆ ย้อนกลับไปในปี 2008 HF และ Murakami ได้จัดนิทรรศการร่วมกันชื่อว่า “Hi-Lo” ผลงานเด่นๆเลยก็จะมีรองเท้าที่ได้ทำร่วมกับ Visvim โดยจะมีทั้งดอกไม้และโลโก้สายฟ้าเป็นดีเทลอยู่ในคู่นี้ เรียกได้ว่าเป็นผู้นำทุกเรื่องจริงๆ จะว่าไปดอกไม้ Murakami ก็ออกมานานมากๆแล้วเหมือนกันนะเนี้ย
Levi’s FENOM
เด็กสตรีทยุคปี 2000 กลางๆจะต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีแน่นอน ผลงานการคอลแลปของ Fragment และ Levi’s โดยจุดเด่นของคอลแลปนี้คือจะเป็นโลโก้สายฟ้าอยู่มุมกระเป๋าหลังมาพร้อมกับยีนส์ริมแดงที่ฮิตสุดๆในตอนนั้น ผลิตในญี่ปุ่นทั้งหมดและผลิตขึ้นมาแบบจำนวนจำกัดสุดๆ ราคาไม่ต้องพูดถึงรีเซลกันโหดมากๆ เด็กสตรีทยุคนั้นใครๆก็ต้องอยากได้แน่นอนแต่ด้วยความหายากและราคาที่สูง มันจึงเป็นโอกาสที่ยากมากที่จะได้ครอบครองเป็นเจ้าของกางเกงยีนส์รุ่นนี้ ราคารีเซลทะลุ 2 – 50000 บาทกันเลยทีเดียว
honeyee.com
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2005 โดย HF และ Hirofumi Kiyonaga เจ้าของแบรนด์ SOPHNET เป็นแม็กกาซีนออนไลน์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับแฟชั่น สตรีทแวร์ และวัฒนธรรมต่างๆของโตเกียว เด็กสตรีทสมัยก่อนจะเข้าใจกันดีว่าการจะติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสตรีทแวร์ก็ต้องไปตามอ่านบล็อคของเหล่าผู้นำพวกนี้แหละ และผู้นำเทรนด์ในตอนนั้นก็จะมีบล็อกในเว็ปไซต์นี้ทั้งหมด นี่ก็เป็นเหมือนกับเว็ป Hypebeast ในปัจจุบันนั่นเอง แต่ตอนนี้ HF ก็ได้ขายเว็ปนี้ไปแล้ว
The POOL aoyama
เมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา HF ก็ได้มีโปรเจกต์เปิดร้าน Concept Store สุดแนว เป็นการแปลงโฉมสระว่ายน้ำเก่าในตึกที่พักอาศัยเปลี่ยนเป็นร้านสุดคูลที่ยังคงกลิ่นอายของสระว่ายน้ำอยู่อย่างครบถ้วน โดยสินค้าจะมีทั้งที่เป็น Lifstyle ของใช้ในบ้าน รวมถึงเสื้อผ้าและคอลแลปต่างๆกับทั้ง WTAPS, SOPHNET., Neighborhood และ UNDERCOVER เป็นการสร้างประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่นให้กับคนที่ไปร้านจริงๆ และในปีต่อมาโปรเจกต์นี้ก็ได้ปิดตัวลง
THE PARK・ING GINZA
ที่ปิด the POOL ไปไม่ใช่อะไร เพราะเขามาเปิดโปรเจกต์ใหม่นี่เอง THE PARK ING GINZA เปิดตัวเดือนมีนา 2016 มาพร้อมกับไอเดียเดิม โดยเขาจะเลือกสถานที่ตั้งของร้านในที่ๆเรามักจะคาดไม่ถึง โดยร้านจะตั้งอยู่ในลานจอดรถของตึก Sony ในย่านกินซ่านั้นเอง สินค้าก็จะมีคอลแลปกับแบรนด์ต่างๆเหมือนเดิม เรียกว่าเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆไม่ให้เบื่อกับรูปแบบเดิมๆจริงๆ หลังจากนั้น 1 ปี โปรเจกต์นี้ก็ได้ปิดตัวลงไปเหมือนเดิม
Ring of Colour
เป็นอีกโปรเจกต์ของ HF ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2015 เรียกว่ามาทดแทน honeyee ที่เขาได้ขายไป คราวนี้มาในรูปแบบออนไลน์เหมือนเดิมที่มีทั้ง IG, Tumblr และเว็ปไซต์ HF ได้บอกว่าเขาได้สร้างแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมาเพื่อรวมรวบข่าวสารต่างๆที่มีประโยชน์ต่อทุกคน โดยจะมีเขาและเพื่อนๆที่เป็นคนคอยอัพเดตข่าวสารอยู่ตลอดเวลา
THE CONVENI
โปรเจคท์ล่าสุดที่มาในคอนเซ็ปร้านสะดวกซื้อ เรียกว่าเป็นร้านสะดวกซื้อที่ HYPE สุดๆ สินค้าทุกชิ้นจะผ่านการดีไซน์มาในแนวของ HF ทั้งหมด มีทั้งของกิน ของใช้ และคอลแลปต่างๆมากมาย เรียกว่าเป็นร้านสะดวกซื้อในฝันของเด็กสตรีทอย่างเราก็ว่าได้ ถ้าใครมีโอกาสได้ไปโตเกียวก็ลองแวะไปดูกันได้ ก่อนที่มันจะปิดตัวลงในปีนี้เหมือนโปรเจคท์อื่นๆอย่างแน่นอน
เรียกว่าเป็นปูชนียบุคคลของวงการสตรีทก็ว่าได้ ถ้าจะให้รวบรวมผลงานทั้งหมดที่เขาเคยทำมาเขียนเป็นบทความก็คงจะไม่พอ Rizzoli จึงได้รวบรวมผลงานของเขาทั้งหมดออกมาเป็นหนังสือ Hiroshi Fujiwara: Fragment เราว่าเล่มเดียวก็ไม่น่าจะพอสำหรับคนๆนี้ เพราะเขามักจะสร้างผลงานใหม่ๆออกมาอยู่ตลอด แต่ยังไงก็ตาม สำหรับเรา HF และสไตล์ของเขาจะเป็นที่จดจำของเด็กสตรีทอย่างไปตลอดกาลแน่นอน ด้วยความคลาสสิคและเรียบง่ายบวกกับความล้ำที่เขามักจะนำเสนอให้พวกเราอยู่ตลอด นี่แหละคือ “Godfather of Streetwear” ตัวจริงง!!
