ว่ากันว่าแฟชั่นสามารถบ่งบอกตัวตนของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดีว่าคนๆ นั้นมีพื้นฐานวัฒนธรรม ความชอบและความหลงไหลในสิ่งใด ถ้าคุณชอบการแต่งตัว แนวสตรีทคุณน่าจะเป็นคนที่ชอบฟังเพลงฮิปฮอป ถ้าคุณชอบแต่งตัวแนว Blokecore คุณน่าจะเป็นแฟนบอลตัวยง ปฏิเสธไม่ได้เลยใช่ไหมล่ะว่าการแต่งตัวมันสื่อถึงภาพลักษณ์ ของเราจริงๆ
แต่ถ้าคุณชอบใส่ชุดที่เรียบง่ายเน้นสีสันโทนมินิมอล เป็นผ้าลินิน หรือเสื้อโปโล ไม่ฉูดฉาด โลโก้ไม่ได้โดดเด่นมาก แต่เน้นที่คุณภาพของการตัดเย็บที่ไร้ที่ติ เอาที่ว่ามองแปปเดียวก็รู้ว่า คุณน่าจะไม่ใช่คนธรรมดา นั้นคือคุณกำลังแต่งแนว “Old Money” หรือ ผู้ดีเก่ายังไงล่ะ
Old money หรือถ้าแปลง่ายๆ คือ ผู้ดีเก่า พวกเขาเป็นคนที่ไม่ต้องเกิดมาทะเยอทะยานเพื่อที่ จะรวย เพราะยังไงคุณก็เกิดมาในสังคมที่เพียบพร้อมอยู่แล้ว ทั้งหน้าที่การงาน และมรดก พันล้านที่ต่อให้ใช้ยันรุ่นลูกรุ่นหลานของคุณก็ไม่มีวันหมด คนพวกนี้จึงไม่จำเป็นจะต้องวิ่ง ตามเทรนด์แฟชั่น แต่พวกเขานี่แหละ แฟชั่นนิสต้าตัวจริง
งานอดิเรกส่วนใหญ่ของพวกเขาคือ การนั่งจิบชาในสวน ออกไปตีกอล์ฟหรือขี่ม้าราคาแพงเล่น หรือถ้าอยากสังสรรค์หน่อย ก็ออกงานกุศลงานสังคมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ขอแอบบอก อะไรหน่อย งานสังคมบางงานที่พวกเขาออก แม้แต่ดาราหรือไฮโซที่พวกคุณรู้จักในปัจจุบัน ก็ยังเข้าไม่ได้เลย ส่วนใหญ่คนที่เข้าไปได้ก็ต้องมี Connection ดีจริงๆ และถ้าเข้าไปได้แล้วการได้ตีสนิทกับเหล่าบรรดา Old money ทั้งหลายก็ช่วยยกระดับฐานะของคุณได้ไม่ใช่น้อย ลองนึกดูสิว่าถ้าคุณสนิทกับตระกูลผู้ดี อย่าง ตระกูลเคเนดี้ หรือ ตระกูลสเปนเซอร์ จะเป็นอย่างไร?
การแต่งการสไตล์ Old money ที่แท้จริง ไม่จำเป็นที่จะต้องทำให้ตัวเองเหมือนเป็นตู้เพชร เคลื่อนที่ที่ประโคมตัวใส่ทั้งแบรนด์หรูๆ มีโลโก้เด่นๆ หรือใส่ทอง ที่มองแล้วต้องตะโกน ออกมาว่า ฉันรวยยยยย แต่การแต่งสไตล์ Old Money จะพึ่งเครื่องประดับและเสื้อผ้า ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น เสื้อผ้าส่วนใหญ่จะเป็นโทนสีใกล้เคียงธรรมชาติ เช่น สีขาว น้ำตาล เทา เบจ ครีม กรมท่า หรือ แดงเบอร์กันดี
เครื่องประดับก็จะเป็นโทนเดียวกับเสื้อผ้า และอาจมีโลโก้เล็กๆ หรือแทบไม่มีเลย โดยการแต่งตัวสไตล์นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากช่วง 60s-70s ที่เน้นการแต่งตัวที่เรียบง่าย แต่ให้ความใส่ใจเป็นพิเศษในเรื่องของการตัดเย็บมากกว่าการประโคมเครื่องประดับราคาแพง
เนื้อผ้าที่ใช้จะต้องมีคุณภาพและใช้ การบรรจงอย่าง ปราณีตที่สุด วัสดุส่วนใหญ่จะเป็น ผ้าลินิน ผ้าขนสัตว์ หรือ ผ้าแคชเมียร์ โดยเมื่อสวมใส่ แล้วจะให้กลิ่นอายของความวินเทจแบบคลาสสิคออกมา ถ้าใครยังนึกไม่ออก ลองนึกภาพของแบรนด์ Ralph Lauren Brunello Cucinelli หรือ Loro Piana
Old money Style vs. New Money Style เมื่อมีแฟชั่นแนวผู้ดีเก่าแล้วถ้าเราไม่พูดถึงแนว ผู้ดีใหม่หรือเศรษฐีใหม่ก็คงไม่ได้สองสไตล์นี้แม้จะมีพื้นฐานจากความรวม แต่ว่ากลับมีความ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ว่ากันว่า สไตล์แบบผู้ดีเก่าชอบที่จะกระซิบเบาๆว่า ฉันรวยนะ ผ่านทางสไตล์การแต่งตัว แต่แนวสไตล์ผู้ดีใหม่หรือเศรษฐีใหม่เนี่ย แทบจะตะโกนออกมาจาก หลังบ้านว่า ฉันรวยโว้ยยยยยยย
ถ้าคิดไม่ออกเราจะพาไปเปรียบเทียบกัน อย่างในเรื่อง ของนาฬิกา Old ใMoneyจะไม่เน้นนาฬิกาที่มีเพชรล้อมรอบ หรืออะไรที่ทำให้เปล่ง แสงออกมาเพื่ อเรียกความสนใจจากผู้คน พวกเขาจะชอบใส่ Rolex ที่มีความละเอียดอ่อนไม่ก็เครื่องประดับจาก Tiffany&Co ที่พอมองยังไงก็รู้สึกสบายตา
ในขณะที่พวก New Money จะชอบใส่นาฬิกาที่ล้อมเพชรแบบตะโกนอย่าง Patek Philippe ที่มองไปมองมาเหมือนกับลูกบอลดิสโก้เคลื่อนที่ได้ แต่ก็นั้นละนะสไตล์ใครสไตล์มัน หรือถ้ายังนึกไม่ออกอีก ลองนึกถึงไอเท็มหลักของทั้ง 2 สไตล์นี้สิ ถ้าเป็นแนว Old Money รับรองได้ว่าพวกเขาจะต้องมีเสื้อโค้ท Burberry ที่เหมือนเป็นไอเทมประจำในตู้เสื้อผ้า หรือว่า Chanel tweed jacket ติดตู้เอาไว้และมักหยิบมาใส่บ่อยๆเพราะพวกเขาเชื่อว่าแฟชั่น ก็ยังคงเป็นอมตะ
แม้ว่าการเวลาจะเปลี่ยนไปแค่ไหนเสื้อผ้าทุกรูปแบบก็ยังคงมีเสน่ห์ของมัน แต่ในทางกลับกัน New Money จะมักตามเทรนด์แฟชั่นที่กำลังเป็นกระแส และเปลี่ยนไปตลอดทุกฤดูกาล เช่น เข็มขัด Off-White หรือ กางเกงรัดรูปของ Gucci จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 สไตล์มีกลิ่นอายเสน่ห์ของมัน ถ้าคุณรักความเป็นอมตะและเน้นสุนทรีย์ภาพ คุณคือ พวกแบบ Old Money Style แต่ถ้าคุณเน้นความสนุกสนานกับชีวิตและชอบลอง อะไรใหม่คุณอาจจะเป็น New Money Style ลองเช็คกันดู See you!
