เมื่อพูดถึงวงการ Hip Hop ของต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอมเริกา นอกจากเเนวเพลงสไตล์ Hip Hop เเละเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของเหล่า Rapper เเล้ว ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของยาเสพติดเเละเรื่องการทะเลาะวิวาทของเเต่ละเเก๊ง จนนำไปสู่การปะทะกันเเละการสูญเสียตามมา
ซึ่งหนึ่งในเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่เเละต่อให้คุณไม่ฟังเพลงเเรปเลย เชื่อว่าอย่างน้อยก็ต้องเคยได้ยินเรื่องราวความบาดหมางกันของ TUPAC เเละ BIGGIE สองหัวเรือใหญ่จากฝั่ง West Coast เเละ East Coast ไม่มากก็น้อยอย่างเเน่นอน นอกจากเรื่องราวความเดือดทั้งหมดเเล้ว
.
วันนี้เราเลยอยากจะนำเสนออีกหนึ่งเรื่องราวของฝั่ง East Coast เเละ West Coast ผ่านเรื่องเเนวเพลงเเละสไตล์ดนตรีของทั้ง 2 ฝั่ง สักหน่อยดีกว่าว่าเส้นทางที่ห่างไกลกันกว่าหลายพันไมล์เเละไทม์โซนเวลาที่เเตกต่างกันเเล้ว เเนวเพลงของทั้ง 2 ฝั่ง จะมีความเเตกต่างกันหรือมีอะไรที่เหมือนกันหรือไม่ ?
ถึงเเม้ว่าเเนวเเพลงของทั้ง 2 ฝั่ง จะเป็นเพลง Hip-Hop เหมือนกัน เเต่ก็ยังมีความเเตกต่างกันใน หลายๆ อย่าง ซึ่งในส่วนของฝั่ง East Coast จะเน้นเล่าเรื่องเเละตีเเผ่ชีวิตที่ต้องอาศัยอยู่ในย่านที่ เต็มไปด้วยความยากจนและสภาพเเวดล้อมที่มีอาชญากรรมค่อนข้างเยอะ
ในส่วนของท่วงทำนองในเพลงฝั่ง East Coast ได้รับอิทธิพลมาจากดนตรีแจ๊ส ซึ่งมีจังหวะเพลงที่หนักเเน่นมากกว่าของฝั่ง West Coast เเละ Rapper จากฝั่ง East ยังโดดเด่นในเรื่องของการเล่นคําที่สลับซับซ้อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพวกคำอุปมาอุปมัย รวมไปถึงเเสลง นอกจากนี้ในเรื่องของคำคล้องจอง พวกสัมผัสนอก สัมผัสในก็เป็นอีกหนึ่งในคาเเรคเตอร์ที่โดดเด่นจากเพลงเเรปของฝั่ง East Coast เลยก็ว่าได้ สำหรับศิลปินจากฝั่ง East Coast ที่คุ้นหน้าคุ้นตาอย่างดี ก็จะมี Nas, MF DOOM, Notorious B.I.G และ Wu-Tang Clan
ข้ามฟากมาอีกฝั่งของอมเริกา ที่ฝั่ง West Coast ในเรื่องของเเนวเพลงจะฟังง่าย สบายหู เเละดูจะผ่อนคลายมากกว่าฝั่ง East เพราะด้วยความที่ฝั่ง West ได้อิทธิพลมาจากเเนวดนตรีฟังก์ พอมาในเรื่องของเนื้อหาเเละเรื่องราวในเพลง บอกเลยว่าดุเดือดไม่เเพ้กัน เเต่ฝั่ง West Coast จะเน้นเรื่องของความเเก๊ง ยาเสพติด เเละที่สำคัญคือเรื่องความโหดร้ายของตำรวจ สำหรับศิลปินที่จากฝั่งนี้ที่คุ้นคุ้นตากันเป็นอย่างดีคือ Tupac, Ice Cube, Snoop Dogg และ Dr. Dre