เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม ด้วยการเเสดงผลงานของศิลปินระดับโลกอย่าง ป๊อก-ไพโรจน์ พิเชฐเมธากุล ภายใต้ชื่องาน ‘ART SPACE & IMMAGINATION’
ที่ฉีกข้อจำกัดของจินตนาการ พาบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์โลก ออกไปลองท่องอวกาศดูซักที เเนวความคิดของ ป๊อก-ไพโรจน์ ได้มากจากการตั้งคำถามที่ว่า ‘ลองจินตนาการแบบไร้ขีดจำกัดดูนะครับว่า ถ้าพวกเขาออกไปเจอเพื่อนต่างดาว แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เสียงเพลง ศิลปะ อาหาร และเทคโนโลยี พวกเขาจะกลับมาสร้างสรรค์โลกของเราให้น่าอยู่ได้ขนาดไหน’
เราทำมาความรู้จักกับ’ป๊อก-ไพโรจน์ พิเชฐเมธากุล’ ศิลปินชาวไทยที่เคยอาศัยอยู่ที่นิวยอร์ก เป็นเวลากว่า 9 ปี พร้อมสร้างชื่อเสียงในต่างแดนไปพร้อมๆ กันเลย
คำว่าศิลปะของพี่ป๊อกคืออะไรครับ
จริงๆ ศิลปะมันกว้างมากครับ ศิลปะคือสิ่งที่เราทำอะไรเเล้วมีความสุขกับมัน ไม่ได้ไปคิดเรื่องปลายทาง เราสนุกกับมัน ณ ขณะนี้ เวลาที่เราวาดรูปอยู่เเล้วเราก็คิดจินตนาการออกมา ว่าเราจะวาดอะไรออกมา ผมว่าตรงนี้มันคือความสุขของศิลปะครับ เเล้วผมก็ติดว่าศิลปะจริงๆ เเล้วก็เหมือนกับการใช้ชีวิต เป็นไลฟ์สไตล์ แต่งตัว ภาษา การพูด ศิลปะคือความสุขของชีวิตครับผม
พูดถึงผลงานของพี่ป๊อกหน่อยครับ
จริงๆ งานหลักๆ ของผมส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับ คน สังคม ชุมชน โปรเจกต์ที่หลายๆ คนรู้จักก็คือโปรเจกต์คนไร้บ้านที่นิวยอร์ก เป็นการไปนั่งวาดรูปข้างถนนกับคนไร้บ้าน เเล้วก็มอบรูปให้กับเขา ซึ่งเป็นงานหลักๆ ที่ผมทำ ส่วนในตอนนี้ผมกลับมาเมืองไทย ก็จะมีวาดรูปให้กับคนข้างถนนเหมือนกัน วินมอไซค์ ชาวบ้าน ร้านก๋วยเตี๋ยว เเล้วก็จะมีพาร์ทที่วาดรูปอยู่ในสตูดิโอเหมือนกันครับ
แรงบันดาลใจในการวาดรูปโปรเจกต์คนไร้บ้าน
จริงๆ โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นตอนที่ผมไปเรียนปริญญาโทที่ซานฟรานซิสโกครับ ตอนนั้นผมกำลังนั่งเขียนรูปอยู่ในสตูดิโอเวลาประมาณ ตี 1-2 เเละระหว่างทางที่ผมกำลังกลับบ้านผมเห็นคนไร้บ้านถูกทำร้ายร่างกาย แต่ผมตัดสินใจไม่เข้าไปช่วยและเดินกลับบ้าน ตลอดทางที่ผมเดินกลับบ้านก็ได้แค่คิดในใจว่า คนที่โดนทำร้ายเขาจะเป็นอะไรไหม มันคิดอยู่ในหัวของผมตลอดเวลา
วันรุ่งขึ้นตอน 6 โมงเช้าผมรีบกลับไปดูที่เดิมก็ไม่เห็นคนๆ นั้นอยู่ตรงนั้นเเล้ว ผมก็เลยรู้สึกว่าอยากเริ่มทำโปรเจกต์เพื่อช่วยเหลือคนไร้บ้านครับ ก็เลยคิดโปรเจกต์เป็นการวาดรูปให้กับคนไร้บ้าน ตั้งเเต่วันนั้นยาวมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งผมเริ่มวาดรูปให้กับคนไร้บ้านที่ซานฟรานซิสโกประมาณ 9 เดือน เเล้วผมอยากทำโปรเจกต์นี้ให้มันใหญ่ขึ้น ก็เลยกลับมาอยู่ที่นิวยอร์ก โดยที่ลาออกจากมหาลัย หลังจากที่เรียนปริญญาโทได้ 1 ปี
ซึ่งผมทำโปรเจกต์อยู่ที่นิวยอร์ก 6 ปีครับ แต่ระหว่างที่อยู่นิวยอร์กผมก็ไปวาดรูปที่ ดีซี ชิคาโก จนขยายไปถึง ปารีส ลอนดอน โตเกียว สุดท้ายก็กลับมาที่ประเทศไทยครับ ผมรู้สึกว่าการวาดรูปในโปรเจกต์นี้ มันทำให้เรามีเพื่อน เเล้วความจริงเเล้วมันเหมือนว่าเราไม่ได้เข้าไปช่วยคนเหล่านี้เลย กลับกันเหมือนเขากำลังสอนบทเรียนในชีวิตของเราให้กับเราฟังอยู่ บางคนเคยเป็น วิศวกร เป็นครู นักบาสเกตบอล เเล้ววันนึงเศรษฐกิจล่มจนทำให้ต้องมาใช้ชีวิตเป็นคนไร้บ้าน
เรารู้สึกว่าถ้าเราทำในสิ่งที่เรารักแบบเต็มที่จริงๆ งานมันจะเรียกทุกอย่างให้เข้ามาหาเรา จนมีโอกาสได้ไปแสดงผลงานมีผลงานที่ New Museum New York เเล้วก็ทำโปรเจกต์สตรีทอาร์ตคนไร้บ้างที่ข้างถนน
แสดงว่าผลงานของพี่ก็ไม่จำเป็นต้องไปอยู่ในแกลลอรี่อย่างเดียวก็ได้
ใช่ครับ.. จริงๆ มีประโยคนึง อาจารย์ที่ซานฟรานซิสโก เขาบอกว่าถ้าคุณจะเป็นศิลปิน คุณจะต้องทำงานศิลปะเพื่อส่งเข้าไปในมิวเซียม เเล้วนระหว่างที่ผมทำโปรเจกต์คนไร้บ้าน เรารู้สึกว่า ‘คำตอบนั้นมันอาจจะไม่ใช่’ เรารู้สึกว่าผลงานมันจะอยู่ที่ไหนก็ได้ ข้างถนนก็ได้ เราก็เลยตัดสินใจเลือกที่จะอยู่ข้างถนนดีกว่า ความสุขของการทำงานศิลปะชิ้นนึง ก็คือช่วงเวลาที่เราสร้างมาเนี่ยผมว่ามันจบเเล้ว สุดท้ายที่เหลือมันจะไปอยู่ที่ไหน นอกอวกาศ หรือบนดวงจันทร์ ผมก็ไม่ได้คิดเรื่องตรงนั้นต่อไปอีกเเล้ว
พูดถึงแรงบันดาลใจในงาน ART SPACE & IMAGINATION
โปรเจกต์ชุดนี้กับชุดที่เเล้วมันต่างกันสุดขั้วเลยครับ เมื่อ 2 ปีที่เเล้ว ระหว่างที่ผมกำลังนั่งดูข่าวก็ไปเจอ ครบรอบ 50 ปีของ NASA ซึ่งจะส่งจรวดขึ้นไปดวงจันทร์อีกครั้งนึงเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง ผมก็เลยคิดว่าอยากส่งบุคคลสำตัญเหล่านี้ขึ้นไปบนดวงจันทร์ด้วย ก็เลยสร้างโปรเจกต์นีขึ้นมา ด้วยการอยากส่ง ไอสไตน์ โมนาลิซ่า โอบาม่า เหล่าบุคคลสำคัญ ถ้าคนกลุ่มนี้ได้ขึ้นไปอยู่บนอวกาศ เเล้วมองลงมาที่โลก เขาจะเกิดจินตนาการ หรือแรงบันดาลใจอะไรใหม่ๆ ในการสร้างโลกขึ้นมาใหม่ เเล้วถ้าเราลองมองย้อนกลับไปตอนเป็นเด็ก เราอยากจะทำอะไร เเละเราก็ค้นพบว่าเราชอบวาดรูป เเล้วก็ชอบอวกาศด้วย โปรเจกต์นี้มันก็เหมือนกับว่า เราย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ด้วยการสร้างโลกของเรา จักรวาลของเรา
มาร่วมเปิดโหมดท่องจักรวาลเเห่งจินตนาการไปด้วยกัน กับ ‘ART SPACE & IMAGINATION’ ภายใต้เเคมเปญ Siam Discovery : Self Discover ได้ที่ ชั้น G สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 30 กันยายนนี้ ซึ่งภายในงานนอกจากจะโชว์ผลงานต่างๆ เเล้ว ยังมีการวางจำหน่าย Merch เเละ Poster ให้ทุกคนได้จับจองเป็นของที่ละลึกอีกด้วย