ถ้าพูดถึงชื่อ Supreme แล้วล่ะก็ ถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่รู้อิน หรือไม่รู้เกี่ยวกับสตรีทแฟชั่น ก็อาจจะต้องเคยได้ยินชื่อแบรนด์สุด Hype และอาจจะเคยเห็นคนใส่ (แท้หรือก๊อป) มาบ้าง ซึ่งแบรนด์เทพเจ้าสตรีทนี้ก็เคยได้ไปร่วมงาน หรือไป Collab กับหลายๆแบรนด์ และสร้างชื่อให้กับแบรนด์เหล่านั้นมานักต่อนักแล้ว
แบรนด์หนึ่งที่เรียกได้ว่า “Comeback” จากกระแสการทำงานร่วมกับ Supreme ก็คือแบรนด์สายสเก็ตสัญชาติอเมริกันอย่าง Champion โดยที่ทั้งสองแบรนด์ก็พึ่งปล่อยคอลเล็กชั่นล่าสุด ประกอบไปด้วย เสื้อแจ็คเก็ต และ หมวก ซึ่งตอกย้ำความประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของพวกเขาในวงการเครื่องกีฬา และวงการแฟชั่นได้เป็นอย่างดี
Champion ที่เรารู้จักกันนั้นเดิมที มีชื่อว่า “Knickerbocker Knitting Company” ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1919 ใน Rochester, New York โดยสองพี่น้อง Abe และ Bill Feinbloom และแบรนด์ก็ทำได้ดีมาตลอด ในฐานะแบรนด์ที่จำหน่าย Sportwear คุณภาพเยี่ยมสำหรับนักศึกษา และหลังจากทศวรรษผ่านไป ในปี 1930 ทางบริษัทก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “Champion Knitting Mills”
หลังจากนั้นแบรนด์ก็ได้ก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และก็ได้ผลิตเสื้อบอลผ้าฝ้าย, กางเกงขาสั้น และอีกหนึ่งไอเทมแจ้งเกิดก็คือ Sweatshirt ที่มีเอกลักษณ์จากการถักลายขวาง นอกจากป้องกันปัญหาการหดของเสื้อแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยกระจายความร้อน และเพิ่มความอบอุ่นให้กับนักกีฬา และก็เป็นเจ้าเสื้อ Sweatshirt นี่แหละเป็นเหมือนกระดูกสันหลังของวงการ Streetwear และเป็นต้นแบบให้กับหลายๆแบรนด์ในอนาคต
ด้วยความโดดเด่นในเรื่องของคุณภาพ ทำให้ Champion ได้กลายเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ และโด่งดังในวงการกีฬาอย่างกว้างขวาง ในปี 1992 Champion ก็ได้ชนะประมูลในการเป็นผู้ผลิตเสื้อบาส (Jerseys) ให้กับรุ่น Dream Team ของอเมริกา ซึ่งมีทั้งตำนานรุ่นเทพอย่าง Magic Johnson, Patrick Ewing รวมถึง Michael Jordan และการเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้ Champion ได้ถูกขนานนามให้เป็นแบรนด์แห่งยุค 90 อย่างเต็มภาคภูมิ โลโก้ตัว C ได้ไปอยู่บนแขนเสื้อของแร็ปเปอร์, เด็กบอร์ด, นักบาส, นักศึกษา และนักวิ่งทั่วโลก
แต่แล้วพอเวลาผ่านไป ความนิยมที่เคยพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ก็เหมือนจะตกลง แต่ว่ายังไงก็ตาม ความแน่นอนในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และความคลาสสิคในตัวแบรนด์ รวมถึงราคาที่จับต้องได้ ก็ยังทำให้ Champion เป็นแบรนด์กระแสที่อยู่นอกกระแส (!?) คือยังได้รับความนิยมในหมู่พวกนอกกระแสนั่นเอง และเมื่อก่อนทาง Supreme ก็ได้มีการแบ่งโลโก้ให้ Champion ไปลงในผลิตภัณฑ์ และกลายเป็นที่ชื่นชอบในหมู่เด็กบอร์ดจากฝั่ง East Coast
จนมาถึงในปี 2010 ที่ทาง Supreme ประกาศ “เอาจริง” ในการคอลแลปกับ Champion คลอดเสื้อแจ็คเก็ตสุดพิเศษออกมา และทำให้โลโก้ C ตัวเบ้อเริ่มกับลาย Champion กลายเป็นจุดขายของแบรนด์ อีกทั้งทำให้ตัวแบรนด์ติดลมบนอีกครั้ง จนมีโอกาสได้ไปร่วมงานกับแบรนด์สตรีทอีกหลายแบรนด์ เช่น UNDEFEATED, BAPE, Wood Wood หรือ Vetements
ด้วยกลิ่นอายจากยุค 90 ที่ให้อารมณ์แบบเรียบง่ายใส่ชิวๆที่เป็นทุนเดิมของ Champion บวกกับความ Hype ที่ได้จากการคอลแลปกับแบรนด์อื่นๆ ทำให้ Champion กลับเข้ามาสู่กระแสแฟชั่นอีกครั้ง แถมนอกจากคอลเล็กชั่นสุดลิมิเต็ดจากงานคอลแลปที่ขายดีอย่างต่อเนื่อง Champion ก็ยังมีตัวเลือกอีกอย่างก็คือคอลเล็กชั่นคลาสสิค ที่หาจับได้ไม่ยาก และด้วยปัจจัยนี้แหละ ทำให้เราคิดว่าการสร้างตำนาน 100 ปีของ Champion นั้นไม่ใช่เรืองยากที่จะเป็นไปได้เลย!
